กลุ่มทุนไต้หวัน ‘พีทีเอฟ เรียลตี้’ มั่นใจอนาคตตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ยังสดใส ผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดทำเลเมือง เปิดแผนปี63 จ่อลงทุนคอนโดฯและขยายตลาดแนวราบ ทำเลลาดพร้าว  ล่าสุดเปิดคอนโดฯหรู “MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT ” มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เตรียมจัดงาน OPEN HOUSE  เปิดให้ชมห้องตัวอย่าง ในวันที่ 9-10 พ.ย.นี้  มอบส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท เมื่อจองในงาน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่จริง-เพื่อการลงทุนระยะยาวพร้อมการันตีผลตอบแทน Yield 5%นาน 2 ปี
นายถงหยุ่ย โทนี่ ยิ่ง กรรมการผู้บริหาร บริษัท พีทีเอฟ เรียลตี้ (2018) จํากัด ในเครือ พีทีเอฟ เรียลตี้ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยว่า แม้ในปีนี้ตลาดจะอยู่ในภาวะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในอีก 1-2 ปี ข้างหน้า ในขณะเดียวกันตลาดผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และประเทศไทยมีแนวโน้มการลงทุนที่ดีโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เมื่อเทียบกับหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน เพราะถือว่าไทยยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจ นักลงทุนต่างชาติยังสนใจลงทุนต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าอสังหาฯยังเป็นช่องทางการลงทุนที่ดีและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ และอยากให้รัฐบาลไทยสนับสนุนกำลังซื้อในประเทศไทยให้มากกว่ามาตรการที่ออกมาบังคับใช้และช่วยเหลือในปัจจุบันนี้

สำหรับในส่วนของกลุ่มบริษัทพีทีเอฟ เรียลตี้ฯนั้น ได้มีการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯมาอย่างต่อเนื่องตลอดกว่า 10 ปีที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเป็นการร่วมทุนกันใน 4 กลุ่มหลักคือ กลุ่มทุนไทย ไต้หวัน จีน และฮ่องกง โดยกลุ่มทุนไทยถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 51% เน้นการพัฒนาโครงการแนวสูงตามแนวรถไฟฟ้าทำเลสุขุมวิท เป็นหลัก และลาดพร้าวในบางทำเล ครั้งละประมาณ 1 โครงการ แต่ละโครงการจะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการด้วย แต่ละโครงการจะใช้ระยะเวลาในการขายประมาณ 1.5-2 ปี โดยเมื่อแต่ละโครงการมียอดขายประมาณ 60-70% แล้ว จึงจะสามารถพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาคอนโดมิเนียมไปแล้ว 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 5,400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดฯ เดอะ ราชดำริ, โครงการ เมแฟร์ เพลส สุขุมวิท 64 ,โครงการ เมแฟร์ เพลส สุขุมวิท 50 โดยทั้ง 3 โครงการดังกล่าวปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการที่ 4 คือโครงการDEFINE by Mayfair สุขุมวิท 50 ปัจจุบันมียอดขายกว่า 60% จากมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง ปี 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2563


สำหรับในปี 2563 บริษัทฯได้เตรียมแผนการขยายการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ ในทำเล ลาดพร้าว อ่อนนุช บางนา ที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า และมีแผนจะลงทุนทั้งคอนโดมิเนียมและขยายไลน์รุกพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบด้วย ซึ่งเล็งทำเลลาดพร้าวไว้ เพราะมองว่าตลาดคอนโดฯค่อนข้างชะลอตัว และมียอดขายที่ช้า รวมไปถึงที่ดินที่จะนำมาพัฒนาคอนโดฯเริ่มหายากและปรับตัวสูงขึ้นทุกปี ขณะที่โครงการแนวราบแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่สูง แต่ดีมานด์ในตลาดยังมีอีกมาก ส่วนที่ดินที่จะนำมาพัฒนานั้นต้องใช้พื้นที่ และราคากลุ่มไหน นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล

ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT” (เมย์แฟร์ เพลส วิคทอรี่ โมนูเมนต์) พัฒนาภายใต้แนวคิด “Exceeding Expections: ใช้ชีวิตเหนือจินตนาการ” ออกแบบด้วยแนวคิดที่เน้นเรื่องประสบการณ์ของผู้พักอาศัยเป็นหลัก พัฒนารูปแบบห้องพักโดยเน้นพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว พร้อมวัสดุคุณภาพตอบสนองการใช้งานระยะยาว โดยยังให้ทุกยูนิตเพดานสูง 3 เมตร ให้คุณสัมผัสถึงมิติ ของความโปร่งโล่ง และอยู่สบายทุกห้อง ให้การพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวด้วยการคัดสรรเพื่อนบ้านเพียง 10 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น

โครงการ MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT (เมย์แฟร์ เพลส วิคทอรี่ โมนูเมนต์) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1-17.7 ไร่ บนทำเลแยกดินแดงติดถนนใหญ่ฝั่งถนนวิภาวดี (ขาออก) พัฒนาเป็น High-Rise Condominium สูง 28 ชั้น จำนวน194 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขอ EIA คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในกลางปี 2563 การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565  โดยสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities ) อยู่ชั้น 27 – 28 ส่วนห้องพักอาศัย (Residential )ตั้งแต่ชั้น  7 – 26  ขณะที่พื้นที่จอดรถ (Parking) เริ่มชั้น G – 6  (ที่จอดรถประมาณ 59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) โดยห้องพักอาศัยเป็นแบบ Fully fitted มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 33.40 -131.50  ตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 140,000 บาทต่อตารางเมตร
หรือราคาเริ่มต้นที่ 129,000 บาท/ตารางเมตร  หรือราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 3.99-23 ล้านบาท

มีแบบห้อง (Unit Types )ให้เลือก ดังนี้

  • ห้องแบบ1 Bedroom 33.40 – 34.90 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ2 Bedrooms 1 Bathroom 55.60 – 58.10 ตารางเมตร
  • ห้องแบบ2 Bedrooms 2 Bathrooms 73.20 ตารางเมตร
  • Penthouse 127.90 – 131.50 ตารางเมตร

โครงการดังกล่าวเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าระยะยาว เป็นการขายพร้อมการันตีผลตอบแทน (Yield)5% นาน 2 ปี และจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างและจัดงาน OPEN HOUSE ในวันที่  9-10 พฤศจิกายน 2562นี้ พร้อมกับมีโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท เสนอราคาพิเศษ  ในการเปิดให้จองช่วงแรกอยู่ที่ 129,000 บาทต่อตารางเมตร สนใจชมห้องตัวอย่างหรือสอบถามรายละเอียดโครงการได้ที่เบอร์โทร 02-248-4999 หรือhttps://www.mayfairvictory.comโดยคาดว่าปีนี้จะมียอดขายที่ 50% และกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการในต้นปี 2563

“อสังหาฯไทยยังน่าสนใจ ยังน่าลงทุนผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ที่สูง จากประสบการณ์บริหารและนำห้องของลูกค้าที่ซื้อไปแล้วมาปล่อยเช่ารวมทุกโครงการกว่า 250 ห้องชุด โดยผลตอบแทนที่ลูกค้ากลุ่มนักลงทุนได้หรือได้ Yield อยู่ประมาณ 4-5% ต่อปี ซึ่งลูกค้านักลงทุนของเราพอใจมากสำหรับผลตอบแทนที่ได้รับ โดยทุกโครงการที่เปิดขายมีสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนอยู่ที่ประมาณ 30 % แต่พอถึงเวลาโอน กลุ่มที่ซื้ออยู่จริงบางส่วน ก็นำห้องที่ซื้อมาลงทุนปล่อยเช่า ทำให้สัดส่วนการอยู่จริง และเพื่อลงทุน เป็น 50:50 ซึ่งเรามีทีมงานมืออาชีพดูแลและบริหารจัดการเรื่องเช่าให้ลูกค้านักลงทุนมาตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี”นายถงหยุ่ย โทนี่ ยิ่ง กล่าว

นายถงหยุ่ย โทนี่ ยิ่ง ยังกล่าวว่า บริษัทฯเชื่อว่าโครงการ MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยเพราะโครงการที่มีกลยุทธ์ด้านราคา และการบริหารหลังการขายที่โดดเด่น และแตกต่างจากโครงการอื่นๆในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบกับมั่นใจในศักยภาพของทำเลที่มีครบ ทั้ง Education zone ,Medical zone ,Biz zone  และ Entertainment zone โดยมีสถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ อาทิ เซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้งพลาซ่า ,แฟชั่นมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์,เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า,คิงเพาเวอร์ คอมเพล็กซ์,สวนสันติภาพ,โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์,โรงพยาบาลราชวิถี,โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า,โรงพยาบาลรามาธิบดี,มหาวิทยาลัยมหิดล (บางคณะ),โรงพยาบาลพญาไท 1,2โรงเรียนศรีอยุธยา,วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก,วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า,กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,สำนักงานเขตราชเทวี ,ThaiBev อาคารแสงโสม,Bangkok Airways,Energy Complex ,Central Rama 9 ,Central Ladprao เป็นต้น


นอกจากนี้ยังสะดวกสบายในการเดินทางเพียง 500 เมตรถึง MRT สถานีดินแดง (สายสีส้มอนาคต ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) ใกล้ BTS ทั้งสถานีสนามเป้าและอารีย์ ที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาที และอยู่ใกล้กับAirport link สถานีราชปรารภ ใกล้ทางขึ้น-ลง ทางด่วน2สาย ไปดอนเมือง และสุวรรณภูมิ  ภายในโครงการ MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT ยังมีจุดเด่นบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง Rooftop garden และพื้นที่สวนพักผ่อนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ อาทิ Grand Lobby,Concierge Service,Reading Room & Co-Working Space,Endless Sky Pool, Relaxing Bubble Bed & Kids Pool, Victory Sky Lounge, On-Cloud Fitness, Spa Room,Exotic Rooftop Garden, Game Room, Recreation Room, Doorman Service, WIFI in Lobby andFacilities Area, Shuttle Service, ลิฟต์โดยสาร, Service Lift, และระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV & Security 24 ชั่วโมง เป็นต้น

ทั้งนี้ในปี 2562 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 900 ล้านบาท จาก 2 โครงการ คือ DEFINE by Mayfair สุขุมวิท 50 และ MAYFAIR PLACE VICTORY MONUMENT 

อนึ่ง : บริษัทพีทีเอฟ เรียลตี้ (2018) จำกัดลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯในไทยมากว่า 10 ปี ก่อตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มทุนจากไต้หวันที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มามากกว่า 30 ปี ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ทั้งในประเทศไต้หวัน จีน สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*