ศุภาลัยฯ หวังอสังหาฯไตรมาส1/63 อาจฟื้นตัว จากอานิสงส์มาตรการภาครัฐ แต่จะเริ่มชะลอตัวลงในไตรมาส2/63 คาดมูลค่ารวมโครงการเปิดตัวใหม่ลดลงจกปี62 เหตุไม่มีโปรเจกต์ยักษ์ ทั้งรุกแนวราบสนองดีมานด์มากขึ้น พร้อมอัดงบซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว “ศุภวัฒนาลัย” รองรับสังคมสูงวัย เช่าซื้อระยะยาว ใจป้ำเสียชีวิตก่อนอยู่อาศัยครบ 20 ปี พร้อมคืนเงินให้ 50% ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลดพิเศษมูลค่า 200,000 บาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยถึงภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ว่าอาจจะยังมีการชะลอตัวอยู่บ้าง คาดว่าในช่วงไตรมาส1/2563 จะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ทำให้แนวโน้มของภาคอสังหาริมทรัพย์ไนไตรมาส 1/2563 ฟื้นตัวขึ้นมา แต่อาจจะเห็นการชะลอตัวลงในไตรมาส 2/2563 เพราะมีการดึงดีมานด์ในไตรมาส 1/2563 ไปแล้ว ส่วนในครึ่งปีหลังของปี 2563 จะเป็นอย่างไรคงต้องดูทิศทางของสภาวะเศรษฐกิจก่อน สำหรับปี 2562 การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และภาวะเศรษฐกิจ ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายและการเปิดโครงการของบริษัทฯเช่นกัน ซึ่งทำให้ยอดขายจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไป 2,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท3.5 ล้านบาท และมีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ไป 4-5 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปี 2563 คาดว่าจะมีการเปิดตัวใหม่ใกล้เคียงกับปี 2562 คือประมาณ 30 โครงการ แต่มูลค่าโครงการจะต่ำกว่าปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2563 บริษัทจะไม่มีการเปิดโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูง อย่างโครงการ “ศุภาลัย ไอคอน สาทร” มูลค่า 20,000 ล้านบาท และชะลอการเปิดตัวโครงการประเภทคอนโดฯลง หันมาเน้นการเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น จากปีนี้ที่เปิดตัวไป 25 โครงการ เนื่องจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบมีมากกว่าคอนโดมิเนียมอย่างชัดเจน ส่วนรายละเอียดต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างกๆารเตรียมให้คณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาในเร็วๆนี้

“การพัฒนาโครงการคอนโดฯในปี 2563 จะเป็นการพัฒนาโครงการในระดับราคาที่จับต้องได้และลูกค้าเข้าถึงมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวอยู่ ทำให้กำลังซื้อลดลง และความมั่นใจลดลงตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดฯที่ชัดเจน ทำให้การเปิดคอนโดฯในปีหน้าบริษัทจะต้องไปจับกลุ่มลูกค้าระดับล่าง-กลางมากขึ้น และเน้นการเปิดในทำเลที่มี Real Demand ที่มีความต้องการและเป็นที่สนใจของลูกค้า” นายไตรเตชะ กล่าว

นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีสต๊อกพร้อมโอนที่เหลือขายอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นและสูงที่สุดของบริษัทฯโดยการที่ระดับสต๊อกของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากสภาวะเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว อีกทั้งมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ( Loan to Value : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และปริมาณซัพพลายคอนโดฯในตลาดที่ส่งผลกระทบต่อการขายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการขายคอนโดมิเนียม

สำหรับงบซื้อที่ดินในปี 2563 ได้ตั้งไว้ใกล้เคียงปีนี้ที่ 8,000 ล้านบาท แม้ว่าปีนี้บริษัทจะใช้งบซื้อที่ดินไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งใช้ไปเพียง 6,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะของเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ดี ประกอบกับราคาขายที่ดินยังไม่ค่อยเห็นการปรับลดลงมากนัก ทำให้บริษัทไม่เร่งรีบในการซื้อที่ดิน และรอจังหวะที่มีความเหมาะสมก่อนที่จะตัดสินใจซื้อที่ดินมาพัฒนา อีกทั้งบริษัทฯยังมีที่ดินที่จะรองรับต่อการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากนำมาพัฒนาแล้วจะมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท


ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวโครงการ “ศุภวัฒนาลัย” (Supalai Wellness Valley) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 20-25 ไร่ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ติดกับโครงการ “ศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ท แอนด์ สปา” ที่บริษัทฯได้ซื้อที่ดินคืนมาจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในช่วงที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นบ้านอายุวัฒนะในสังคมคุณภาพของวัยกลางคน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส เป็นบ้านพักอาศัยขนาดที่ดินตั้งแต่ 19-38 ตารางวา ราคาเช่าซื้อระยะยาวตั้งแต่ 1.1-1.4 ล้านบาท จำนวน 144 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดขายก่อน 2 เฟสแรกก่อน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2562 จำนวน 65 ยูนิต โดยลูกค้าที่ซื้อมีสิทธิพักอาศัยภายในโครงการตลอดชีพ และหากเสียชีวิตภายในช่วง 1-20 ปีแรก บริษัทฯจะคืนเงินให้ 50% แต่ไม่สามารถโอนเป็นมรดกตกทอดให้ทายาทได้ หลังจากนั้นบริษัทฯจะนำบ้านยูนิตนั้นๆมารีโนเวทและขายต่อให้ผู้ซื้อรายอื่นต่อไป


โดยโครงการกลดังกล่าวบริษัทฯพัฒนาขึ้นมาไม่ได้หวังผลกำไรในเชิงธุรกิจมากนัก แต่ต้องการตอบแทนสังคมมากกว่า สำหรับผู้ที่ซื้อโครงการในช่วงนี้จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษเพียง 1.3 ล้านบาท สำหรับผู้พักอาศัย 1 ท่าน และราคา 1.5 ล้านบาท สำหรับผู้พักอาศัย 2 ท่าน (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) โดยผู้ที่สนใจโครงการบ้านอายุวัฒนะ “ศุภวัฒนาลัย” ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ มูลค่า 200,000 บาท หากโครงการนี้มีผลตอบรับดี ก็อาจจะไปพัฒนาโครงการรูปแบบนี้ในจังหวัดอื่นๆต่อไป แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*