ปี 2562 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายที่ผู้ประกอบการต่างออกมายอมรับว่าเป็นปีที่ยากในการดำเนินธุรกิจ ด้วยผลกระทบของสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น รวมถึงการประกาศมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ที่ส่งผลต่อกลุ่มผู้บริโภคบางกลุ่มลดลง ซึ่งมีผลต่อการโอนในการรับรู้รายได้และทำกำไรของบริษัทให้ลดลงตามไปด้วย prop2morrow เผยผลประกอบการของ 16 บริษัทอสังหาฯ ในปี 2562 ที่ผ่านมามีเพียง 5 บริษัทเท่านั้นที่สามารถฝ่าวิกฤตและโกยกำไรไปได้ บริษัทฯ ที่ทำกำไรไปได้สูงสุด สูงถึง 211% ในขณะที่ มีผู้ประกอบการมากถึง 11 ราย ที่ต้องเผชิญวิกฤตส่งผลต่อกำไรและรายได้ของบริษัทที่ลดลง และลดลงมากที่สุดถึง -70%

ผลประกอบการ 16 บริษัทอสังหาฯ(บางส่วน) ในปี 2562 

5 บริษัท อสังหาฯฟันกำไรปี’62

บริษัทฯที่สามารถทำไรในปี 2562 มีเพียง 5 บริษัทฯเท่านั้นจาก 16 บริษัทที่ทางprop2morrow ได้รวบรวมมา โดยบริษัทที่มีกำไรสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มีกำไรสุทธิ 3,071.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.17 รองลงมาคือ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีกำไรสุทธิ 1,137.92 ล้านบาท (รวมกำไรส่วนของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่) เพิ่มขึ้น 107.40 % อันดับที่ 3 บมจ.แสนสิริ มีกำไรสุทธิ 2,392.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.93% อันดับที่ 4 บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นมีกำไรสุทธิ 2,026.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.73% และอันดับ 5 คือ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์มีกำไรสุทธิ 21,89.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81%

อันดับ 1 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ในปี 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 3,071.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.17 % เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการขายที่ดินที่รอการพัฒนา และการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีขึ้น

ขณะเดียวกันรายได้รวมของบริษัทฯ ในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 15,279.12 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 5,152.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.51 % และสูงสุดจากทั้ง 16 บริษัทฯที่ทางprop2morrowได้รวบรวมมา

อันดับ 2 บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ในปี 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 1,137.92 ล้านบาท (รวมกำไรส่วนของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่) พิ่มขึ้น 107.40 % เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่รายได้รวมของบริษัทฯ ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 21,017.31 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 19,647.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.97% โดยมีสาเหตุมาจาก

1 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 5.0% โดยแบ่งออกเป็น
2 ธุรกิจโรงแรม มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม เพิ่มขึ้น 41.3%
3 รายได้ค่าเช่าและบริการลดลง 45.8%
4 รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 90.7%
5 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลง 3.1%
6 ค่าใช้จ่ายทางการเงิน เพิ่มขึ้นจากการลงทุนโครงการใหม่ในกิจการร่วมค้า 23.3%
7 ฐานะทางการเงินของบริษัท
-สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 2.60%
-หนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 3.07%
-ส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้น 1.36%

อันดับ 3 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,392.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.93% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับรายได้รวมของบริษัทฯ ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 27,192.33 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 27,590.09 ล้านบาท ลดลง 1.44%

อันดับ 4 บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,026.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.73% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 17,786.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.67% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 15,647.41 ล้านบาท และเป็นบริษัทที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)

อันดับ 5 บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 21,89.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.81% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และมีรายได้รวม เพิ่มขึ้น 9.37% โดยในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 17,358.65 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 15,871.30 ล้านบาท สำหรับงบการเงินของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีรอบระยะเวลาบัญชี 1 ตุลาคม – 30 กันยายน

11 บริษัทอสังหาฯ กำไรร่วงหนักถึง -70%

ปี2562 บริษัทอสังหาฯมีกำไรลดลงจากปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียว มีบริษัทมากถึง 11 บริษัท จากทั้ง 16 บริษัทอสังหาฯที่ทางprop2morrow ได้รวบรวมข้อมูลมานั้น โดยกำไรที่ลดลงสูงสุด 3 อันดับ กำไรลดลงสูงสุดถึง 70.87% รองลงมาคือ กำไรลดลง 56.22% และอันดับ 3 กำไรลดลง 28.93%  ได้แก่ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ , บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ตามลำดับ


บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 10,024.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 10,475.43 ล้านบาท ลดลง 4.30% ขณะที่ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 37,042.56 ลดลง 7.05% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 39,851.63 ล้านบาท และลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ซึ่งในปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 41,922.69 ล้านบาท

บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 890.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 939.61 ล้านบาท ลดลง 5.27% สำหรับปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,297.59 ล้านบาท ลดลง 4.37% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,539.56 ล้านบาท

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ในปี 2562 บริษัท มีกำไรสุทธิ 5,402.76 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 5,770.42 ล้านบาท ลดลง 6.37% ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 24,191.53 ล้านบาท ลดลง 6.27% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 25,809.53 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ลดลง 8% เป็นสาเหตุมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศบังคับใช้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย โดยการกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น คิดเป็น 11.9%

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,256.04 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,367.27 ล้านบาท ลดลง 8.14% ขณะที่ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,040.40 ล้านบาท ลดลง 11.16% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 11,301.89 ล้านบาท

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,027.13 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ กำไรสุทธิ 3,337.95 ล้านบาท ลดลง 9.31% ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,122.12 ล้านบาท ลดลง 15.12% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 16,637.83 ล้านบาท และมีรายได้รวมลดลงสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 5,358.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 6,022.37 ล้านบาท ลดลง 11.02% และปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 40,152.24 ล้านบาท ลดลง 10.91% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 45,070.52 ล้านบาท

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,143.75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,286.71 ล้านบาท ลดลง 11.11% โดยมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ อัตรากำไรของโรงแรม 2 แห่ง ในโครงการ Crossroads เฟส 1 ยังไม่สูงนักเนื่องจากเพิ่งเริ่มเปิดกิจการ การปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนทางการเงินเนื่องจากการขยายกิจการ SHR บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้คืนเงินกู้เพื่อเข้าซื้อกิจการกลุ่มโรงแรม และเพิ่มทุนได้สำเร็จ ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของรายได้ ซึ่งในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 13,377.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.71% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,935.94 ล้านบาท และมีรายได้เติบโตเป็นอันดับที่ 2 รองจาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,067.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3865.41 ล้านบาท ลดลง 20.64% ขณะที่ปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 24,975.23 ล้านบาท ลดลง 13.55% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน โดยปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 28,890.09 ล้านบาท

บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2,853.86 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,800.74 ล้านบาท ลดลง 24.91% โดยลดลงสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ขณะในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,876.44 ล้านบาท ลดลง 28.93% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน ในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 18,117.66 ล้านบาท และมีรายได้รวมในปี 2562 ลดลงสูงสุดเป็นอันดับที่ 1

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 320.97 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 733.14 ล้านบาท ลดลง 56.22% โดยลดลงสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ขณะที่ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,279.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.70% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน ในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,236.53 ล้านบาท

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ในปี 2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 704.66 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 24,19.43 ล้านบาท ลดลง 70.87% โดยลดลงสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 จากสาเหตุในเรื่องของสถานการณ์และปัจจัยลบของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้เป็นผลมาจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า ซึ่งลดลงถึง 52.3% นอกจากนี้ยอดโอนของโครงการร่วมทุนที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2562 น้อยกว่า ปี 2561 ที่มีโครงการร่วมทุนขนาดใหญ่สร้างเสร็จและเริ่มโอน ขณะที่ในปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 10,320.22 ล้านบาท ลดลง 19.97% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน ในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,896.02 ล้านบาท และบริษัทฯ มีรายได้รวมลดลงสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 รองจาก บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

ส่วนปี 2563 เป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับปัจจัยลบที่รุมเร้า ยากต่อการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นภาวะตลาดอสังหาฯ ขาลงที่ส่งผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2562 และลากยาวมาถึงปี 2563 ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยและระดับโลกที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น ปัญหาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (Covid-19) ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (9 มีนาคม 2563) และยังไม่มีความแน่ชัดของการหยุดแพร่ระบาด ทำให้ในปี 2563 นี้เอง ผู้ประกอบการแต่ละค่ายต่างปรับตัวและระวังตัวกันมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากการเปิดโครงการที่ลดลงจากเดิม รวมทั้งการปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดภายใต้วิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์กำลังจะผ่านพ้นไตรมาส 1 ของปี’63 ทิศทางของผู้ประกอบการแต่ละบริษัทอสังหาฯ ในปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่ละค่ายจะงัดไม้เด็ดเพื่อมาสู้สภาวะตลาดอสังหาฯ อย่างไรเพื่อให้อยู่รอด รวมทั้งกลวิธีที่จะทำให้บริษัทฯ กลับมาทำกำไรและเพิ่มรายได้จากการดำเนินกิจการอีกครั้ง สำหรับในปี 2563 นั้นยังคงต้องรอติดตาม…

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*