เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ย้ำจุดยืนผู้นำนวัตกรรม “โซลาร์” ตอบโจทย์ New Normal หลังโควิด–19 วิถีชีวิตคนไทยเปลี่ยน เตรียมเปิดโปรดักส์ใหม่ตามแผนงานที่วางไว้ในปี 2563เจาะคอนซูมเมอร์ระดับกลาง – ล่าง พร้อมติดตั้งโซลาร์ขนาด 1 กิโลวัตต์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายนำร่อง“เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคา 2 ล้านกว่าบาท เตรียมเปิดขายเดือนมิถุนายน 2563 นี้

 

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในครั้งนี้ เหมือนภาพสะท้อนเมื่อช่วงน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปี 2554 ทำให้มองเห็นทั้งปัญหาและหาทางป้องกัน จากจุดนี้เอง กลายการเริ่มต้นที่สร้าง 3 สิ่งคือ สังคมคุณภาพ ธุรกิจคุณภาพ และโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม

ทุกวิกฤตมีโอกาสและคือ “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญทำให้ปัจจุบันบริษัทเสนา ฯ พัฒนาโครงการไม่ว่าจะเป็นแนวราบหรือแนวสูงก็ตาม จะติดตั้งโซลาร์ให้กับลูกบ้านทุกโครงการ เพื่อช่วยให้คนที่อยู่บ้านได้ประหยัดค่าไฟฟ้า และช่วยลดโลกร้อน ล่าสุด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับคนกลุ่มนี้  บริษัทเสนาฯ เตรียมเปิดโปรดักส์ใหม่ตามแผนงานที่วางไว้ในปี 2563คือ “ทาวน์โฮม” เพื่อเจาะคอนซูมเมอร์ระดับกลาง – ล่าง พร้อมติดตั้งโซลาร์ขนาด 1 กิโลวัตต์ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับคนกลุ่มนี้ นำร่องโครงการ “เสนา วิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคา 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการช่วงเดือนมิถุนายน 2563 นี้ การติดตั้งโซลาร์ ในโครงการดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป New Normal ช่วยประหยัด และ “ลดค่าใช้จ่าย” ระยะยาว 25 ปี

ดร.เกษรา กล่าวให้ความเห็นว่า โควิด – 19 ทำให้เกิดพฤติกรรมการทำงานและการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป ดังเช่นที่หลายบริษัทใช้มาตรการ Work From Home ปัญหาที่ตามมาพบว่าค่าไฟดีดตัวเพิ่มขึ้น ตามปกติเดือนเมษายนเป็นช่วงของฤดูร้อน อากาศร้อนอบอ้าว ค่าไฟแพงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอมาตรการ Work from Home ที่ทำให้ทุกคนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น ยิ่งเจอปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้ามากขึ้นเพราะแต่ละบ้านต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 1.เครื่องปรับอากาศพร้อมคอมเพรสเซอร์ 2. เครื่องฟอกอากาศ 3. พัดลมไอน้ำ  4.ตู้เย็น ยิ่งใส่ของเยอะ คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นยิ่งทำงานหนัก 5. คอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม หลังโควิดไป เชื่อว่าวิถีการใช้ชีิวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป สัดส่วนการใช้เวลาที่บ้านจะเปลี่ยนไป บางบริษัทให้พนักงานมาทำงานที่ออฟฟิศ และ Work From Home ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน 80 : 20 / 70 : 30 / 60 : 40 / 50 : 50 ส่งผลให้เกิด New Normal ในธุรกิจที่อยู่อาศัยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ การติดโซลาร์ถือว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็น สำหรับกลุ่มคนทำงานที่บ้านหรือฟรีแลนซ์โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน ซึ่งจากข้อมูลที่ทางเสนาสำรวจระบุว่า การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาบ้าน สิ่งที่ได้มากกว่าคือนำไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจากพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อลดการซื้อไฟฟ้าจากระบบของรัฐ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ตามสเปกการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ที่มีกำลังผลิต 2-8 กิโลวัตต์ของบ้านเสนาโซลาร์ คำนวณระยะเวลา 10 ปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้ใหญ่ 16-63 ต้น ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2-9 ตันต่อปี นอกจากนี้ทางเสนามีบริการโซลาร์สเกลอัพ ที่เป็นนวัตกรรมคำนวณสเกลการใช้งานโซลาร์ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละบ้านเป็นตัวช่วยเซอร์วิสลูกบ้านอีกทางหนึ่งปัจจุบันการติดตั้งแผงโซลาร์ยังถือเป็นตุ้นทุนที่สูง และผู้บริโภคยังมองไม่ประโยชน์มากเท่าที่ควร แต่เหตุการณ์วิกฤตโควิด–19ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคที่ต้องทำอยู่บ้าน “Work From Home“ ต้องเห็นประโยชน์และความคุ้มค่าในการติดตั้งโซลาร์เพิ่มขึ้น

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*