อรสิริน โฮลดิ้งฯ รับโควิด-19 กระทบยอดขายหด คาดครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัวจากยอดเยี่ยมชมโครงการ และยอดขายที่กลับมา ประกาศเตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 2 ปี หวังนำเงินต่อยอดพัฒนาโครงการอนาคต พร้อมปรับแผนปี63-64 รุกตลาดแนวราบพื้นที่เชียงใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ล่าสุดเซ็นสัญญาพันธมิตรก่อสร้างโครงการ “ASTRA Sky River”
นายอรรคเดช  อุดมศิริธำรง
นายอรรคเดช  อุดมศิริธำรง  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯเชียงใหม่ว่า นับตั้งตั้งแต่ปี 2559-2561 โครงการแนวราบ-แนวสูง มียอดขายเฉลี่ยถึงมากกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี แบ่งเป็นยอดขายจากแนวราบ สัดส่วน  60% คอนโดฯ 40% แต่พอถึงช่วงปี 2562 ที่ภาครัฐประกาศใช้มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ส่งผลให้ยอดขายรวมตลาดอสังหาฯในเชียงใหม่เหลือเพียง 16,000 ล้านบาท/ปี หรือลดลงประมาณ 20%  ซึ่งมองว่าใกล้เคียงกับตลาดกทม. แต่โครงการแนวราบ จะมีผลกระทบน้อยกว่าตลาดคอนโดฯ

จนกระทั่งครึ่งปีแรก2563 ตลาดอสังหาฯโดยเฉพาะคอนโดฯ มีอัตราที่ทรงตัว แต่ไม่แย่กว่าปี 2562 สำหรับในส่วนของบริษัทฯนั้นในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ยอดขายยังดีอยู่ แต่มาได้รับผลกระทบในช่วงมีนาคม-เมษายน ยอดขายหายไป 70% แต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน อัตราการเข้าเยี่ยมชมโครงการและยอดขายกลับมาเกือบเทียบเท่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าในครึ่งปีหลัง 2563 ภาพรวมตลาดอสังหาฯในจ.เชียงใหม่ คงไม่แย่ไปกว่าปี 2562 อย่างแน่นอน

สำหรับในส่วนของบริษัทฯนั้นตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา พัฒนาโครงการทั้งแนวสูง  แนวราบ มาแล้วทุกรูปแบบรวมกว่า  25 โครงการ  3,429 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจนถึงไตรมาส 4/2564 บริษัทฯจะมีโครงการที่พัฒนามูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในระยะเวลา 2 ปี  ซึ่งขณะนี้ได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM  เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน      โดย เหตุผลที่นำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาพัฒนาโครงการในอนาคต และการเป็นบริษัทฯในตลาดจะสามารถระดมทุนได้หลายช่องทาง ทำให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งให้ผลกำไรของบริษัทมีอัตราการเติบโตได้ในระยะยาว

ด้านทิศทางการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา มองว่าตลาดคอนโดฯมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ดังนั้นในช่วงดังกล่าวบริษัทฯจึงเน้นรุกตลาดคอนโดฯมากขึ้นจนถึง ปี2562 รวม 10 โครงการ รวมมูลค่า 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาในพื้นที่อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งหมด ซึ่งได้รับการตอบรับดี โดยเฉพาะจากลูกค้าคนจีน

“ในช่วงที่ผ่านมาโครงการประเภทคอนโดฯจะมาจากกำลังซื้อต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจีน มีมากถึง 80% และในช่วงนี้แม้ว่าจะมาเมืองไทยไม่ได้ แต่ก็ยังมีความต้องการซื้อโครงการของบริษัท ผ่านเอเยนซี่อยู่ ด้วยการให้ดูห้องตัวอย่างผ่าน Video Call  ซึ่งที่ผ่านมาก็มีลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อ 20% ส่วนเรื่องการโอน ก็มีความกังวลว่าลูกค้าจะกล้าโอนเงินหรือไม่ ก็ใช้วิธีส่ง Video chat ไปให้ดู และจ้างผู้ตรวจสอบรับมอบห้องชุดให้ โดยบริษัทฯเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ และส่งความคืบหน้าให้ลูกค้าดูอย่างต่อเนื่อง และมีแพ็กเกจพิเศษให้ลูกค้าเพื่อเร่งการโอน โดยในช่วงเวลา2-3 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำยอดโอนได้แล้ว 60 ยูนิต จากยอดขายลูกค้าจีนทั้งหมด 100 ยูนิต” นายอรรคเดช กล่าว

นายอรรคเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องยอมรับว่าในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ก็สามารถบริหารจัดการได้ ส่งผลให้นโยบายการดำเนินงานในปี 2563-2564 ปรับแผนธุรกิจหันมารุกโครงการแนวราบมากขึ้น  โดยในปี 2563 มีการเปิดตัวใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ

1.โครงการ ASTRA Sky River  ตั้งอยู่บริเวณถนนช้างคลาน บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 4 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 17 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 28.90-98.24 ตารางเมตร ราคาขาย 2.3-10 ล้านบาท จำนวน 520 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท เปิดขายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว  67% ล่าสุดร่วมได้ลงนามสัญญากับ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด(มหาชน) หรือ CRD ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว

2.โครงการ บีลีฟ (Belive) สันทราย-แม่โจ้ ตั้งอยู่บนที่ 80 กว่าไร่ เป็นบ้านเดี่ยว ขนาด 50-100 ตารางวา ราคา 3-5 ล้านบาท มูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส4/2563

ส่วนปี 2564 มีแผนเปิดตัว 3 โครงการ  โดยจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด รวมค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดคอนโดฯอีก 1 โครงการเช่นกัน แต่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งต้องดูสถานการณ์ตลาด แต่ก็จะออกแบบและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)ไปก่อน เมื่อมีโอกาสและจังหวะ ก็สามารถเปิดขายและพัฒนาได้ทันที

“การแข่งขันในพื้นที่เชียงใหม่ที่ผ่านมีค่อนข้างสูง เพราะมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม.เข้ามาพัฒนาเกือบครบหมดแล้วยกเว้นบริษัท เอพี(ไทยแลนด์)จำกัด (มหาชน) ส่วนผู้ประกอบการท้องถิ่นยังมีอีกหลายราย ส่วนรายกลางมีประมาณ 2-3 ราย โดยอรสิริน โฮลดิ้งฯจะติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้ประกอบการในจังหวัดที่มียอดขายดีควบคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม.ด้วย ส่วนราคาที่ดินในเชียงใหม่ที่ผ่านมามีการปรับตัวสูง และไม่มีแนวโน้มจะปรับลดลงแต่อย่างใด โดยปี 2562 ปรับขึ้นมา 20% จากปี 2561 โดยราคาแพงสุดคือย่านถนนนิมานเหมินทร์ ราคา 300,000-500,000 บาท/ตารางวา ”นายอรรคเดช กล่าว

อนึ่ง บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2549 กว่า 15 ปี ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการแนวราบ แนวสูง ในจังหวัดเชียงใหม่ มาแล้วรวม 25 โครงการ 3,429 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว อรสิริน11, อรสิริน 14 และ บีลีฟ วงแหวน-สันกำแพง  โครงการทาวน์โฮม อรสิรินวิลล์ ดอนจั่น, อรสิริน 6  โครงการคอนโดมิเนียม  The Next 1-3, The Next Premier, The Next Jedyod , Arise mahidol, The Astra และ อาคารพาณิชย์ อาทิ Urban Myx หางดง , อรสิริน บิสเนสเซ็นเตอร์ 3 ทำเล ท่ารั้ว สันทราย เชียงขาง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*