RISLAND Thailand ไม่หวั่นตลาดอสังหาฯท่ามกลางปัจจัยลบเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง 2 + 1 โครงการ ตามแผนการดำเนินงาน  สร้างความเชื่อมั่นจากฟิตซ์ เรตติ้ง AA

ภาวะตลาดในปัจจุบันดีเวลลอปเปอร์ต่างออกมายอมรับว่าเป็นปีที่ท้าทายของตลาดคอนโดมิเนียมจากปัจจัยลบต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการชะลอและเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่สำหรับ RISLAND Thailand (ริสแลนด์ ประเทศไทย) แผนการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งยอดขายและแผนการตลาดในการเปิดโครงการใหม่ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาฯขาลงโดย RISLAND Thailand (ริสแลนด์ ประเทศไทย) วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2563 จำนวน 3+1 โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัท โดยโครงการที่เปิดตัวไปแล้วในช่วงต้นปี คือ โครงการ CLOUD Residences – SKV23 สำหรับครึ่งปีหลังที่เหลือบริษัทเตรียมเปิดอีก 2 โครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่โครงการ “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” (Skyrise Avenue Sukhumvit 64) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา และโครงการ เดอะ ลิฟวิ่น รามคำแหง (The Living Ramkhamhaeng) มูลค่า 12,000 ล้านบาท บริเวณแยกลำสาลี จำนวน 3,000 ยูนิต ในราคาขายราว 1.5 ล้านบาท ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า(ข้อมูลเมื่อ 22 กรกฎาคม 2563) และ เตรียมเปิดอีก 1 โครงการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทยังคงรอดูสถานการณ์ของตลาดอสังหาฯให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในขณะนี้

โครงการ คอนโดมิเนียม Mixed-Use ขนาดใหญ่บนทำเลสุขุมวิท 64 “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” (Skyrise Avenue Sukhumvit 64) โดยถูกแบ่งพัฒนาออกเป็น 2 เฟส มูลค่ารวมโครงการ 15,000 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 22 ไร่ สำหรับเฟสแรกประกอบด้วย 4 อาคาร ได้แก่ อาคาร D สูง 48 ชั้น จำนวน 493 ยูนิต , อาคาร E สูง 48 ชั้น จำนวน 493 ยูนิต , อาคาร F สูง 46 ชั้น จำนวน 471 ยูนิต และอาคาร G อาคารสูง 49 ชั้น 504 ยูนิต รวม 1,961 ยูนิต โดยมีมูลค่ารวม 9,060 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท

ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย ถือเป็นทำเลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจไม่ว่าจะเป็น โซนเพลินจิต, ชิดลม และสยามได้อย่างสะดวกสบาย ครบครันด้วยสถานที่สำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์ ทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย และที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่อย่างบางกอก มอลล์ ซึ่งหากมองในแง่การลงทุน ราคาคอนโดมิเนียมบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย ณ ปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยประมาณ 160,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร และมี Rental Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 5 – 8 %”

ขณะเดียวกันสต๊อกเหลือขายรวมของบริษัทฯจาก 5 โครงการ ประกอบด้วย Artisan Ratchada, โครงการ Lake Serene Rama II, โครงการ CLOUD Thonglor-Phetchaburi, โครงการ The Livin Phetkasem, และโครงการ CLOUD Residences – SKV23 อยู่ในระดับต่ำกว่า 50% และเป็นตัวเลขที่บริษัทฯพร้อมเติมซัพพลายใหม่เพื่อเร่งอัตราการเติบโต บริษัทได้รับการจัดอันดับ ฟิตซ์ เรตติ้ง ในระดับ AA ซึ่งต่างจากผู้พัฒนาอสังหาฯไทยที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ B+ จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทั้งทางสถานะการเงินและความสามารถในการแข่งขัน ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*