ทีโอเอฯเผยผลประกอบการไตรมาส3/63 ผ่านฉลุย โกยยอดขาย 4,021 ล้านบาท โชว์ Synergy การรุกตลาดเคมีก่อสร้าง จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ พร้อมปั้นโมเดลธุรกิจใหม่ “MEGA PAINT Warehouse”ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างครบวงจรแบบ“One stop service”เข้าชิงพื้นที่ร้านค้าทั่วประเทศ

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) หรือ TOA  เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มียอดขาย 4,021 ล้านบาท(ลบ.)ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แม้ว่าในปีนี้ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทฯ สามารถรักษายอดขายให้อยู่ในระดับที่ดี จากกลยุทธ์การขยายตลาดผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง และกลุ่มสินค้าอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  

โดยในไตรมาสดังกล่าวบริษัทฯ ยังได้ปัจจัยสนับสนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ทำให้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 37.1% โดยมีกำไรสุทธิ 524 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.26 บาท/หุ้น

และในปลายปีนี้ บริษัทฯ จะมีการเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “MEGA PAINT Warehouse” ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและบริการจากทีโอเอครบวงจร แบบ One stop service  สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ที่จะสร้างการเติบโตด้วยการใช้งานแบบครบวงจร (Total Solutions) ซึ่งโมเดลธุรกิจนี้ คาดจะสร้าง Synergy ให้แก่ Product Line อื่นๆ ของ TOA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัฒกรรมผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เพื่อครองใจผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ      โดยการ ยกระดับบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ “WHO Service” ด้วยโซลูชั่นงานการก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน    ครบระบบ โดยทีมช่างผู้รับเหมามืออาชีพ และจากกลยุทธ์การดำเนินงานเหล่านี้ เราเชื่อว่า TOA จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น พร้อมกับการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ได้อย่างแน่นอน นายจตุภัทร์กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*