ฮาบิแทท กรุ๊ป ชู 5 กลยุทธ์รุกตลาดปี2564 ลุยต่อ “Lifestyle Investment” เล็งปักธงแนวราบ-เวลเนส เผยปี 2563 ยอดรับรู้รายได้กว่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 200% มองตลาดอสังหาฯปี 2564 ฟื้นตัวดีขึ้น หลังมีข่าวความคืบหน้าวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 สำเร็จ ซึ่งจะส่งผลบวกให้กับเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทฯยังคงนโยบายเปิดตัวโครงการใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไปประมาณ 2-4 โครงการ ดำเนินธุรกิจภายใต้ 5 กลยุทธ์นำบริษัทฯสู่ความสำเร็จสู่เป้าหมายใหม่ ปี 2564  ดังนี้

  • จะผลักดันสินค้าในกลุ่มกลุ่ม Lifestyle Investment โดยยังมีบริษัทในเครือ ฮาบิแทท ฮอสพิทัลลิตี้ เป็นกำลังหลักในการดูแลผลตอบแทนของนักลงทุนและทำงานใกล้ชิดกับแบรนด์ต่างๆ ด้านการบริหารจัดการตลอดจนพัฒนาโครงการที่เข้ามาตอบโจทย์เทรนด์ Vacation Home ให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งโพรดักส์ที่เป็น Branded Residence จะเติบโตได้ดีมาก
  • เพิ่มพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจ รวมถึงการร่วมทุนกับกลุ่มนักลงทุน หรือกองทุนอย่าง “ไพรเวท อิควิตี้” (Private Equity) ที่ลงทุนระยะสั้น 3-5 ปี
  • ขยายไลน์สู่เซกเม้นท์ใหม่ กลาง – บน โดยจะหันไปบุกที่อยู่อาศัยแนวราบระดับราคา 10-15 ล้านบาท
  • เน้นจุดเด่นการออกแบบฟังก์ชั่น-ดีไซน์ ที่แตกต่าง
  • และทำเล จะยังคงเป็นที่กรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งพัทยานั้นบริษัทฯมีที่ดินพร้อมที่จะพัฒนาอยู่ 2 แปลงๆละ 5-10 ไร่

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อการลงทุน นายชนินทร์ คาดว่าน่าจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง หรือเติบโตราว 20-30% กลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯ ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ในปีหน้า ฮาบิแทท กรุ๊ป ยังรุกในการทำงานร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ ทั้งที่เป็นแบรนด์บริหารโรงแรมระดับโลกที่จะมีเข้ามาเสริมทัพมากขึ้น และกลุ่มพันธมิตรที่เป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะเข้ามาทำงานร่วมกัน รวมถึงพันธมิตรอื่นๆ อย่างกองทุนจากต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านเฉพาะด้านอย่าง Wellness เป็นต้น ทั้งนี้ ฮาบิแทท กรุ๊ป เชื่อว่า เพราะธุรกิจอสังหาฯปัจจุบันต้องใช้ทุนการพัฒนาโครงการที่มากขึ้น ดังนั้น เมื่อเทรนด์เปลี่ยนการทำธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนให้รวดเร็วและให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด

นายชนินทร์ วานิชวงศ์

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 นายชนินทร์ กล่าวว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2563 ปัจจัยสำคัญที่เข้ามาหนุนตลาดคือ การพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้สำเร็จ และตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นและเริ่มนำมาใช้กับมนุษย์แล้ว เป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งในประเทศไทยที่เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ Sentiment ของตลาดน่าจะดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความมั่นใจเริ่มกลับมา การเดินทางเริ่มมีมากขึ้น และต่างชาติเริ่มให้ความสนใจกับประเทศไทยซึ่งจัดว่ามีความปลอดภัยและมีการจัดการกับโควิด-19 ได้ดี ย่อมส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะในครึ่งหลังปี 2564 แต่การเติบโตในตลาดอสังหาฯ จะชัดเจนในปีถัดไปคือปี 2565

ในปี 2563 บริษัทฯจะมียอดขายรวมเติบโตอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้เติบโตมากกว่าเท่าตัวจากปี2562 หรือคิดเป็นรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท เติบโต 200% และในปีนี้บริษัทฯได้ขายที่ดิน 2 แปลงในย่านสุขุมวิท ซอย 8 และสุขุมวิท 31 รวมมูลค่า 800-1,000 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*