“นริศ เชยกลิ่น” เผยกลุ่มผู้ถือหุ้นที่นำโดย นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ไม่ชำระเงิน กรณีซื้อหุ้นบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) จำนวน 711,855,320 หุ้น คิดเป็น 51.56% จากสิงห์ เอสเตทหลังชนะการประมูลตกลงซื้อหุ้นสามัญ ด้าน “วิเชียร เจียกเจิม” ตัวแทน“กลุ่มสมวัฒนา”ออกโรงแจงเตรียมเงินพร้อมจ่ายชำระค่าหุ้น 1,790 ล้านบาท ให้ สิงห์ เอสเตท ไว้แล้วตามกำหนด

 

สิงห์ เอสเตท  หรือ “S” หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมือวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ว่า สิงห์ เอสเตท ไม่ได้รับชำระเงินจากการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทฯ ถือครองอยู่ใน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ “NVD” รวมทั้งสิ้น 711,855,320 หุ้น คิดเป็น 51.56% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ NVD ซึ่งได้ตกลงขายให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้น ที่นำโดย นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ การขายหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามผลสรุปของบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นภายใต้การนำของ นายศรศักดิ์ สมวัฒนา เป็นผู้ชนะการประมูล ตกลงซื้อหุ้นสามัญ ใน NVD ที่สิงห์ เอสเตท ถือครองอยู่ทั้งหมด ที่ราคา 2.52 บาทต่อหุ้น

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า กลุ่มของนายศรศักดิ์ สมวัฒนา มีกำหนดต้องชำระเงินให้สิงห์ เอสเตท ภายในเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม 2563 โดยไม่มีเงื่อนไข โดยกลุ่มของนายศรศักดิ์ สมวัฒนา ได้ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563 หรือ 2 วันก่อนถึงกำหนดชำระเงินแล้วว่าจะชำระเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค แต่สิงห์ เอสเตท กลับไม่ได้รับชำระเงินดังกล่าว ภายในเวลาที่กำหนด

นายนริศ เชยกลิ่น

“เรารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่ผู้ซื้อผิดสัญญา ไม่ชำระเงินตามที่ตกลง ทั้งที่เป็นความรับผิดชอบที่ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องพร้อมชำระเงินโดยไม่มีเงื่อนไขหากตนเป็นผู้ชนะประมูล และมีความพร้อมสำหรับขั้นตอนต่างๆ หลังจากชนะการประมูล” นายนริศ กล่าวพร้อมกับล่สวในตอนท้ายว่าการตัดสินใจของสิงห์ เอสเตท ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการถือหุ้นในเนอวานา ไดอิ โดยซื้อหุ้นที่กลุ่มของนายศรศักดิ์ สมวัฒนา ถือครองอยู่ในปัจจุบัน หรือการขายหุ้นเนอวานา ไดอิ ที่สิงห์ เอสเตท ถือครองอยู่ทั้งหมดให้กับกลุ่มของนายศรศักดิ์ สมวัฒนา นั้น มาจากเหตุผลที่ต้องการเร่งเครื่องสร้างการเติบโตและสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของสิงห์ เอสเตท

“กลุ่มสมวัฒนา”แจงเตรียมเงินพร้อมจ่ายชำระค่าหุ้น 1,790 ล้านบาท ให้ สิงห์ เอสเตท ไว้แล้วตามกำหนด

ด้านนายวิเชียร เจียกเจิม ตัวแทนของกลุ่มสมวัฒนาได้ชี้แจงกรณีที่ทาง บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้ข่าวว่า ทางกลุ่มสมวัฒนาไม่ได้จ่ายชำระค่าซื้อขายหุ้นมูลค่า1,790 ล้านบาท ตาม MOU ในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 นั้น ตนในฐานะของตัวแทนของกลุ่มขอยืนยันว่า ทางกลุ่มได้เตรียมเงินเป็น cashier เช็ค ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2563 สั่งจ่ายจำนวนดังกล่าวไว้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สืบเนื่องจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นดังกล่าว มีผลในการเปลี่ยนแปลงอำนาจในการควบคุมบริษัท ซึ่งทาง บริษัท เนอวานา ไดอิ จัด (มหาชน)จะต้องดำเนินการขอความยินยอมจากสถาบันการเงินที่ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัททั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททั้งหมดจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นระหว่างกลุ่มสมวัฒนากับ สิงห์ เอสเตท ในครั้งนี้

โดยทางกลุ่มได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว กับทางเนอวานา ไดอิ มาโดยตลอด เพราะมีผลกับการซื้อขายหุ้นดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ทางกลุ่มได้รับหนังสือแจ้งจากทาง เนอวานา ไดอิ ในเรื่องความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ว่า ยังไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่จะมีกำหนดการซื้อขายและโอน ชำระหุ้นกันของทั้งสองกลุ่ม ทางกลุ่มได้ใช้ความพยายามในการหารือเรื่องนี้กับทาง สิงห์ เอสเตท  มาโดยตลอด โดยขอให้ สิงห์ เอสเตท กำหนดระยะเวลาการซื้อขายเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นใหม่ ออกไปจนกว่า ทาง เนอวานา ไดอิ ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวกับธนาคารให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะให้ บริษัทไม่เกิดการผิดสัญญาหรือ default สัญญาทางการเงิน และกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ เนอวานา ไดอิ รวมทั้งความเสียหายที่จะเกิดกับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยและผู้มีส่วนได้เสียของเนอวานา ไดอิ

นายวิเชียร เจียกเจิม

ที่ผ่านมาเราได้แจ้งให้ทาง  สิงห์ เอสเตท ทราบถึงผลกระทบข้างต้นไปหลายครั้ง รวมทั้งการสอบถาม ถึงผลกระทบของการเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นตามกำหนดระยะเวลาใน MOU ไปยังคณะกรรมการของ เนอวานา ไดอิ ถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทางเนอวานา ไดอิ ซึ่งคณะกรรมการของบริษัทได้แจ้งถึง ความเป็นไปได้ที่บริษัทจะเสียหายถ้ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นก่อนเรื่องการดำเนินการขอความยินยอมจากสถาบันการเงินที่ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทดังกล่าวจะดำเนินเสร็จ รวมทั้งได้ทำหนังสือหารือกับ กลต เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเรื่องดังกล่าวและกำลังรอคำตอบอยู่

แต่อย่างไรทางกลุ่มก็ได้ออกแคชเชียร์เช็ค ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2563 จำนวน  1,690 ล้านบาท สั่งจ่ายในชื่อ  สิงห์ เอสเตท พร้อมกับเงินมัดจำที่ได้ชำระไปแล้ว จำนวน 100 ล้านบาท ในการชำระราคาค่าหุ้นตามที่ตกลงไว้ โดยเสนอขอชำระราคาภายใต้เงื่อนไขที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้ เนอวานา ไดอิ ต้องผิดนัดสัญญาทางการเงินกับธนาคารซึ่งจะกระทบ ต่อการดำเนินธุรกิจของเนอวานา ไดอิ รวมทั้งความเสียหายที่จะเกิดกับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยและผู้มีส่วนได้เสียของ เนอวานา ไดอิ และได้มีการเจรจาพูดคุยกับ สิงห์ เอสเตท  ตลอดทั้งวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ถึงเรื่องการยอมรับการชำระเงินโดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท จนกว่าทาง เนอวานา ไดอิ จะทำการดำเนินการกับสถาบันการเงินของทาง  เนอวานา ไดอิ ให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดกับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยและผู้มีส่วนได้เสียของเนอวานา ไดอิ ซึ่งในการพูดคุยกันกับทาง สิงห์ เอสเตท ในช่วงเช้าก็มีท่าทีเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว แต่ในตอนบ่ายทาง สิงห์ เอสเตท ได้ปฏิเสธในข้อเสนอดังกล่าว

ทางกลุ่มสมวัฒนามีความเห็นว่า เราได้ปฎิบัติตาม MOU ครบถ้วนแล้ว พร้อมชำระราคาค่าหุ้นทั้งหมดโดยอนุญาตให้  สิงห์ เอสเตท สามารถขึ้นเงินได้ทันที แต่ขอยังไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับการดำเนินการธุรกิจของ เนอวานา ไดอิ ร่วมทั้ง ผู้ถือหุ้นรายย่อยและผู้มีส่วนได้เสียของ เนอวานา ไดอิ เราไม่รู้เหตุผลว่า ทำไมถึงในท้ายที่สุด  สิงห์ เอสเตท ไม่ยอมที่จะรับพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดกับทาง  เนอวานา ไดอิ ตามที่ทางเราได้เสนอไป

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*