ตลาดคอนโดฯ-วิลล่าหรูเมืองภูเก็ตกระอัก เหตุลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลัก90% เป็นชาวต่างชาติหายเกลี้ยง เพราะผลกระทบโควิด-19 ไนท์แฟรงค์ประเมินตลาดคอนโดOอาจจะซึมยาวถึงกลางปี 2565 ขณะที่ตลาดวิลล่ามีสิทธิ์ฟื้นตัวครึ่งหลังปีนี้ เพราะคนจีนเตรียมหาซื้อบ้านหลังที่ 2หลบภัยโควิด-19

นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลวิจัยตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองภูเก็ตว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในเมืองภูเก็ตจำนวน7โครงการ รวม  1,862 ยูนิต ลดลงจากปี 2562 ถึง 65.97 % โดยมีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 5,471 ยูนิต

ทำให้ ณ สิ้นปี 2563 มีคอนโดฯที่เปิดขายอยู่ในตลาดเมืองภูเก็ตจำนวน 26,096 ยูนิต  แต่ขายไปได้แล้วจำนวน 19,761 ยูนนิต ทำให้มีจำนวนยูนิตเหลือขายอยู่ประมาณ 6,335 ยูนิต

สำหรับคอนโดฯที่เปิดขายใหม่ในปี 2563 ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่หาดลายัน 59% รองลงมาเป็นหาดป่าตอง22 % และหาดในทอน 13%  ส่วนหาดไม้ขาวมีคอนโดฯใหม่เปิดขายน้อยที่สุดแค่ 6%

ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวโครงการ อีกทั้งธนาคารพาณิชย์เริ่มกังวลในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทำให้มีการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อในการพัฒนาโครงการ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงระงับการเปิดขายโครงการไปก่อน

ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตจะพึ่งพิงกำลังซื้อหลัก คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 90% ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย จีน ฮ่องกง และสิงค์โปร์ ทำให้รูปแบบการขายคอนโดฯจะมักจะเปิดขายในลักษณะการให้อัตราผลตอบแทนค่าเช่า โดยโครงการได้นำเชนโรงแรมต่างๆ มาบริหารโครงการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโครงการ

แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเป็นจำนวนมาก เพราะไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ ทำให้เศรษฐกิจของภูเก็ตหยุดชะงักและซบเซา เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจหลักของภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวเป็นหลัก จึงส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตได้รับผลกระทบโดยตรง

ดังนั้นทิศทางของตลาดคอนโดฯภูเก็ตในปี 2564 คาดว่ายังคงชะลอตัวและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกผู้ประกอบการยังคงชะลอการเปิดโครงการออกไปก่อนและรอดูสถานการณ์การเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนรูปแบบการลงทุนโครงการใหม่จะเป็นโครงการขนาดเล็กและอาจจะเป็นการร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นในภูเก็ต เพราะคาดว่าเศรษฐกิจภูเก็ตในปีนี้ยังคงซบเซายาวไปถึงต้นปี 2565 และอาจจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี และการฟื้นตัวน่าจะกลับมาเพียง 50% ของนักท่องเที่ยวเท่านั้น ขณะที่กลุ่มผู้ซื้อหลักจะเป็นกลุ่มชาวจีน และรัสเซีย ส่วนยุโรปอาจจะต้องรอไปอีกสักระยะจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะคลี่คลาย

แนวโน้มตลาดวิลล่าหรูจะเริ่มฟื้นตัวครึ่งปีหลัง’64 รับกำลังซื้อจีน

ส่วนสถานการณ์ของตลาดวิลล่าในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา นายณัฎฐาบอกว่า ปัจจุบันมีวิลล่าที่เปิดตัวอยู่ในภูเก็ตจำนวนทั้งสิ้น 3,871 ยูนิต แต่ขายออกไปได้แล้ว 3,056 ยูนิต

โดยปี 2563 มีวิลล่าเปิดใหม่จำนวน 162 ยูนิตจาก 11 โครงการระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 มีวิลล่าเปิดขายใหม่มากที่สุด 688 ยูนิตจำนวน 16 โครงการ ส่วนใหญาจะตั้งอยู่บริเวณเชิงทะเลประมาณ 71%  รองลงมาบริเวณลายัน  15% และหาดกมลา 14%  แต่ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนวิลล่าที่ขายออกไปลดลงชัดเจน ทำให้บางโครงการได้ทำการขายผ่านออนไลน์และลดราคาเพื่อดึงดูดให้ชาวต่างชาติสนใจซื้อ

โดยกลุ่มผู้ซื้อวิลล่าในภูเก็ตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน  แต่กลุ่มลูกค้าหลักๆจะเป็นประเทศจีน สิงค์โปร์ ฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติจากรัสเซีย ตะวันออกกลาง ชาวยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

วิลล่าในภูเก็ตไม่ได้เป็นเพียงแค่บ้านพักตากอากาศอย่างเดียวทั้น แต่การซื้อวิลล่ายังเป็นรูปแบบการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ซื้ออีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากราคาขายวิลล่าในภูเก็ตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้วิลล่ายังสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อด้วยการปล่อยเช่าในช่วงที่ไม่ได้เข้ามาพักอาศัย โดยทำเลยวอดนิยมสำหรับวิลล่าในภูเก็ตจะอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตเนื่องจากมีชายหาดที่สวยงาม”

สำหรับแนวโน้มของตลาดวิลล่าในภูเก็ตปี 2564 คาดว่ายังคงชะลอตัวตลอดทั้งปี จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกตลาดน่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัวไม่มีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้น  เนื่องจากยังไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัด แต่ในช่วงครึ่งปีหลังประเมินว่าเศรษฐกิจของภูเก็ตจะเริ่มดีขึ้น ผู้ประกอบการน่าจะเริ่มลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการที่ลงทุนเพื่อขายให้กับชาวต่างชาติจากประเทศจีน เพราะขณะนี้มีสัญญาณจากหลายๆทางว่า คนจีนมีความต้องการที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและภูเก็ตเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองมากกว่าที่จะซื้อเพื่อการลงทุนเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*