หลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา  ให้เข้าทำธุรกรรมการร่วมลงทุนในบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด(SWP) ระหว่างบริษัทศรีสวัสดิ์ คอปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กับบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยศรีสวัสดิ์ฯจะอาศัยความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและการบรอหารจัดการสินทรัพย์มาต่อยอดธุรกิจบริหารสินทรัพย์ NPL และ NPA ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ทีผ่านมา บริษัทศรีสวัสดิ์ฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับบริษัทโนเบิลฯ อย่างเป็นทางการแล้ว  เพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของศรีสวัสดิ์ โดยกลุ่มโนเบิลฯจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 20% คิดเป็นมูลค่าการร่วมลงทุนจำนวน 300 ล้านบาท

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มศรีสวัสด์ฯและกลุ่มโนเบิลฯในครั้งนี้ จะอาศัยความเชี่ยวชาญของแต่ละบริษัทมาเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ เพราะธุรกิจการซื้อหนี้มาบริหารจัดการต้องใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยปีนี้บริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี ตั้งเป้าเข้าร่วมประมูลหนี้สถาบันการเงินมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท

ทั้งนี้หลังจากประมูลหนี้จากสถาบันการเงินมาได้แล้ว บริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จะต้องมาวิเคราะห์สินทรัพย์ที่มีอยู่ว่าสามารถพัฒนาโครงการอะไรได้บ้างเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์  นอกเหนือจากการขายสินทรัพย์ที่ประมูลมา โดยกลุ่มโนเบิลฯ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการรวมทั้งวิเคราะห์เรื่องของทำเล จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริหารสินทรัพย์เอส ดับบลิว พี มีการเติบโตมากขึ้น

ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทโนเบิล   ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้ เพื่อสร้างความหลากหลายและขยายโอกาสในการเข้าลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ โดยบริษัทจะใช้ความชำนาญในการพัฒนาโครงการ การซ่อมแซม ปรับปรุง การตลาดและการส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินทรัพย์ที่ได้จากการขายทอดตลาด หรือจากการชำระหนี้มากขึ้น

ปัจจุบันกลุ่มบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี ได้เข้าไปบริหารสินทรัพย์ให้กับหลายบริษัท ทั้งที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ, บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีบริษัทแม่เป็นธนาคารพาณิชย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่เป็นบริษัทเอกชน

โดยบริษัทจะเข้าร่วมประมูลในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพที่บริษัทมีความถนัด และประกอบกับบริษัทมีเครือข่ายของสาขากระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 4พันสาขา  ทำให้สามารถติดตามลูกหนี้ได้อย่างทั่วถึง ขณะที่ปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินยังมีอยู่มาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้มีปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพที่สถาบันการเงินนำมาประมูลขายจำนวนมาก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*