แกรนด์ แอสเสทฯเผยความคืบหน้าไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อยอดขายพุ่งแล้ว 45% เชื่อหลังโควิด-19 คลี่คลาย เศรษฐกิจภาพรวมตลาดฟื้นตัว ลูกค้าตลาดบนคืนความเชื่อมั่น ระบุยังไม่ปรับราคาขาย เริ่มต้นที่ 270,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 9.9 ล้านบาท ล่าสุดผนึก KTC มอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อ สำหรับใช้บริการรร. 5 แห่งในเครือ และนำOn-Demand Service”โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท มอบความพิเศษลูกค้าโครงการ คาดกวาดยอดขาย 10 ยูนิต/เดือน
นางสาวอัญชลี เลิศสุวรรณารัชต์
นางสาวอัญชลี เลิศสุวรรณารัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าขายโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ (HYDE Heritage Thonglor) คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่บนถนนสุขุมวิท อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่เปิดพรีเซลมาตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมาปัจจุบันสามารถทำยอดขายไปแล้ว 45% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมโอนในปี 2565
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ 60% ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบให้การขายชะลอตัวลงไปบ้างทั้งการขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติและลูกค้าชาวไทย แต่หลังจากปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มทยอยคลี่คลายลง มองว่าการขายจะเริ่มกลับดีขึ้น โดยเฉพาะการขายให้กับกลุ่มลูกค้าคนไทยที่คาดว่าจะเข้ามาซื้อมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เพราะแนวโน้มของเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัวชัดเจน หากมีการเปิดเมืองและเริ่มเปิดประเทศแล้ว ทำให้ความมั่นใจของลูกค้าชาวไทยกลับมาดีขึ้น ส่งผลบวกต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าระดับบน
ด้านราคาขายของโครงการในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งถือว่ายังมีราคาที่ถูกกว่าคอนโดมิเนียมที่เป็น Branded Residence อื่นๆที่ราคาเริ่มต้นที่ 350,000 บาท/ตารางเมตร แต่โครงการดังกล่าวมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 270,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 9.9 ล้านบาทสำหรับห้องเริ่มต้น 40 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าคุ้มค่าและราคายังถูกเมื่อเทียบกับโครงการในระดับเดียวกัน ส่วนหนึ่งที่ราคาขายโครงการดังกล่าวยังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้มาก แม้ว่าการก่อสร้างจะคืบหน้าไปมากแล้ว เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้ามากระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงมาก ส่งผลให้การปรับขึ้นราคาขายต้องชะลอ และมีการแข่งขันด้านราคากันสูง ทำให้การปรับขึ้นราคาจะส่งผลกระทบต่อการขายได้ ดังนั้นราคาขายโครงการดังกล่าวจึงยังคงอยู่ในระดับที่ยังถูกกว่าตลาด แต่หากไม่มีโควิด-19 เข้ามากระทบ คาดว่าราคาขายจะอยู่ที่ใกล้เคียงกับตลาดหรืออยู่ที่ 350,000 บาท/ตารางเมตร
ขณะเดียวกันบริษัทยังมอบการบริการเพื่อกระตุ้นให้โครงการคอนโดมิเนียม ไฮด์ เฮอริเทจทองหล่อมีความน่านสนใจและลูกค้าที่ซื้อไปเกิดความคุ้มค่ามากขึ้น จากการร่วมมือกับโรงแรม Hyatt Regency Bangkok สุขุมวิท ที่เข้ามามอบการบริการแบบ On-Demand Service บนพื้นที่ส่วนกลางเต็มรูปแบบมากถึง 8 ชั้น โดยมีการบริการทั้งหมด 28 ฟังก์ชั่น ตามมาตรฐานโรงแรมชั้นนำ เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีศักยภาพและเต็มเปี่ยมไปด้วยการบริการที่มากกว่าคอนโดมิเนียมอื่นๆในทำเลเดียวกัน
ทั้งนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขายโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” อย่างต่อเนื่อง ด้วยการร่วมมือกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร KTC ถึง 2 ต่อ โดยต่อที่ 1 เงินจองและทำสัญญา สามารถผ่อนชำระได้ 0% ยาวนานถึง 10 เดือน เสมือนหนึ่งลูกค้าไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายเป็นเงินก้อน ไปจนถึงระยะเวลาใกล้เคียงในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดช่วงต้นปี 2565
ต่อที่ 2จองเท่าไหร่ ได้เท่านั้นเพียงรูดเงินจองห้องชุดด้วยบัตร KTC ลูกค้าจะได้รับบัตรกำนัลเงินสด สูงสุด 100,000 บาท สำหรับใช้บริการที่โรงแรมทั้ง 5 แห่งในเครือ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ 1 โรงแรมพันธมิตร ได้แก่

1.Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit
2.Westin Grande Sukhumvit Bangkok
3.Royal Orchid Sheraton Bangkok
4.Sheraton Hua Hin Resort and Spa
5.Sheraton Hua Hin Pranburi Villas
6.Amatara Wellness Resort Phuket

ทั้งนี้ความพิเศษของโครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อคือ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เพียง 250 เมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มรูปแบบกว่า 8 ชั้น 28 ฟังก์ชั่น มีพื้นที่มากกว่า2,000 ตารางเมตร และที่จอดรถ 100% ซึ่งมากกว่ามาตรฐานทั่วไป และวันนี้ทางโครงการได้คัดสรรการให้บริการที่มากกว่า ด้วยการร่วมมือกับทางโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท(Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ในการนำ       On-Demand Service มาเพิ่มประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้กับผู้อยู่อาศัยของไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ(HYDE Heritage Thonglor) อาทิ

• Limousine Service

• Butler Service

• Exclusive Private Party

• Exclusive Catering

• Exclusive Event Hosting

• Private Chef Table

• Mixologist Service

• Food Delivery Service

• Housekeeping Deep Clean Service

• Personal Fitness Trainer and Yoga Instructor

ซึ่งจากการทำโปรโมชั่นและการร่วมมือกับพันธมิตรโรงแรมชั้นนำ บริษัทฯคาดหวังที่จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ยูนิต/เดือน และทำให้ยอดขายในสิ้นปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น60-70% จากปัจจุบันที่ 45% ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม HYDE สุขุมวิท 11 มูลค่า 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขายเพียง 10% ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าขายอย่างต่อเนื่อง

ด้านนางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ ผู้อำนวยการแผนกซื้อขายที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นโควิด-19 ไปแล้วมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบน โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็น Branded Residence จะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะพฤติกรรมของคนเริ่มให้ความสำคัญกับการบริการมากขึ้น แต่ยังต้องเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และยังมีราคาขายที่คุ้มค่า ซึ่งคอนโดมิเนียมประเภท Branded Residence ถือเป็นโครงการที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคนหลังจากนี้
ขณะที่ราคาขายของโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็น Branded Residence ในปัจจุบันถือว่ายังมีความน่านสนใจและมีความคุ้มค่ามาก เพราะราคาขายของโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นBranded Residence ในปัจจุบันที่เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 300,000-370,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโครงการ Branded Residence ก่อนช่วงโควิด-19 ที่ 400,000 บาท/ตารางเมตร ถือว่ายังมีความคุ้มค่า และโครงการใหม่ๆที่เกิดขึ้นราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 350,000 บาท/ตารางเมตร จากราคาที่ดินที่สูงขึ้น ถือว่ายังเป็นราคาที่น่าสนใจและคุ้มค่า ทำให้บริษัทยังมองว่าโครงการที่เป็น Branded Residence จะได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่เองหรือซื้อลงทุนมากขึ้นในช่วงหลังโควิด-19

โครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ (HYDE Heritage Thonglor) เป็นการร่วมทุน (Joint Venture) ระหว่างบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน), บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน), และ บริษัท  ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ อันดับ 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่น พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม สูง 45 ชั้น บนพื้นที่ 2-2-18 ไร่ ติดถนนใหญ่บนสุขุมวิท ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 250 เมตร ราคายูนิตเริ่มต้นที่ 9.99 ล้านบาท มีจำนวน 311 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ย่านทองหล่อนี้ คนไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นให้ความนิยมมายาวนาน เพราะมีความสะดวกทั้งการเดินทาง ร้านอาหารชั้นเลิศ โรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนระดับแนวหน้าของประเทศ อยู่ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ เช่น รพ.สมิติเวชรพ. บำรุงราษฎร์ ศูนย์การค้าระดับลักชัวรี่ เช่น EmQuartier, Emporium โดยโครงการเริ่มก่อสร้างไปเรียบร้อยแล้วเมื่อไตรมาส 1 ปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยมีขนาดห้องพักอาศัยดังนี้

•   1 ห้องนอน 40 – 58.7 ตารางเมตร จำนวน 187 ยูนิต

•   2 ห้องนอน 68.1 –  86.6 ตารางเมตร จำนวน 103 ยูนิต

•   3 ห้องนอน 112 – 187 ตารางเมตร จำนวน 17 ยูนิต

•   Duplex Penthouse 235 – 325 ตารางเมตร จำนวน  3 ยูนิต

•   Penthouse 358 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*