ถ้าเทียบความเจริญของ “ถนนสุขุมวิท” จะพบว่าสุขุมวิทซอยฝั่งเลขคี่จะเจริญกว่าฝั่งเลขคู่ เพราะศักยภาพของพื้นที่ฝั่งนี้เป็นซอยใหญ่และค่อนข้างยาว โดยเฉพาะ อโศก(สุขุมวิท21)-พร้อมพงษ์(สุขุมวิท 39) ถือเป็นหนึ่งในทำเลท็อปฮิตของทำเลคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯตอนนี้ 

ตลอดระยะเวลากว่า10 ปีที่ผ่านมา มีโครงการใหม่เปิดขายอย่างต่อเนื่อง โดยมีราคาขายสูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เฉลี่ย 250,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งทุกโครงการที่เปิดตัวยังคงสามารถทำยอดขายได้ และยังคงมีโครงการคอนโดฯใหม่จ่อคิวเปิดตัวอยู่ตลอดเวลา

เนื่องจากทำเลย่านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของของชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งนิยมเช่าที่พักอาศัยมากกว่าซื้อ ดังนั้นการซื้อคอนโดฯย่านนี้มีอัตราการปล่อยเช่าได้สูง เพราะความต้องการเช่าในตลาดมีสูงด้วยเช่นกัน

รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตประจำวันครบ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารและบริการต่างๆ อยู่ที่ในระยะใกล้สามารถเดินเท้าได้จากคอนโดฯหรือนั่งรถไฟฟ้าเพียงไม่กี่สถานี

พร้อมพงษ์หรือสุขุมวิท 39 ถือเป็นทำเลอยู่อาศัยประเภทคอนโดฯยอดนิยมมากทำเลหนึ่ง สุดซอยพร้อมพงษ์จะทะลุไปออกถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งซอยนี้ชาวญี่ปุ่นจะอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักนิยมอาศัยใกล้ๆ สถานทูตประเทศของตนเอง (สถานทูตญี่ปุ่นเดิมอยู่หัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี) ภายในซอยจึงเต็มไปด้วยร้านค้าสำหรับชาวญี่ปุ่น บริเวณปากซอยพร้อมพงษ์มีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะที่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับซอยพร้อมพงษ์เป็นห้างหรูเอ็มโพเรียม และถัดไปเล็กน้อยบริเวณปากซอยสุขุมวิท 35 เป็นห้างหรูขึ้นไปอีกคือเอ็มควอเทียร์ ในซอยนี้จึงมีแต่คอนโดลักซูรี่ไปจนถึงซูเปอร์ลักซูรี่ ขึ้นอยู่กับระยะว่าจะใกล้ห้างหรือสถานีบีทีเอสมากน้อยเพียงใด

ปัจจุบันพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าอโศกและพร้อมพงษ์ ถือเป็น 1 ในพื้นที่กลุ่มของ Prime Area ของกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะมีสถานีรถไฟฟ้าร่วมที่สถานีอโศกแล้ว ยังมีสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ และยังมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ อีก 3 แห่ง คือ ห้างดิ เอ็มโพเรียม,ดิ เอ็มควอเทียร์ และห้างเทอร์มินอล 21 ส่วนอีก 1 แห่งกำลังก่อสร้าง คือ ห้าง ดิ เอ็มสเฟียร์

นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานอีกหลายอาคาร ยังไม่รวมโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ ร้านอาหารหลากหลายรูปแบบ สถานศึกษาชื่อดังตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงมหาวิทยาลัย รวมถึงโรงพยาบาลก็ไม่ไกลจากพื้นที่นี้

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่พื้นที่ย่านนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีทั้งโครงการโรงแรม ศูนย์การค้า เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ อาคารสำนักงาน และโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องมาตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากว่าราคาที่ดินในย่านนี้ปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง ปัจจุบันที่ดินที่อยู่ริมถนนสุขุมวิทหรือในซอยที่สามารถพัฒนาเป็นอาคารสูงได้ ราคาที่ดินมีราคาขายราว 2 – 2.5 ล้านบาทต่อตารางวา แต่หากอยู่ในซอยย่อยราคาก็จะต่ำกว่านี้

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีคอนโดฯที่เปิดขายสะสมในพื้นที่นี้ประมาณ 15,000 ยูนิต โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2554 เริ่มมีโครงการมากขึ้นต่อเนื่อง แต่ถ้าพิจารณาแยกตามพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าจะพบว่า พื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์มีจำนวนคอนโดฯสะสมในพื้นที่มากกว่า มีสัดส่วนประมาณ 55% ของจำนวนคอนโดฯทั้งหมดในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 สถานี

เนื่องจากพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าอโศกยังมีแปลงที่ดินเหลือทั้งที่อยู่ริมถนนสุขุมวิท และในซอยย่อยต่างๆ อีกทั้งหลายซอยในพื้นที่รอบสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์มีความกว้างมากกว่า 10 เมตรจึงสามารถพัฒนาเป็นอาคารสูงได้ และมีบางโครงการที่มีจำนวนยูนิตรวมมากกว่า 1,000 ยูนิต

ที่สำคัญย่านพร้อมพงษ์จึงเป็น 1 ในไม่กี่พื้นที่ในกรุงเทพฯที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินในย่านนี้มีราคามากกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา(ตร.ว.)

ขณะที่พื้นที่รอบสถานีบีทีเอสอโศก ดีเวลลอปเปอร์เลือกหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดฯได้ค่อนข้างจำกัด และมีขนาดแปลงที่ดินไม่ใหญ่มาก เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก่อนพื้นที่รอบสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2547 เป็นต้นมาหรือตั้งแต่รถไฟฟ้าใต้ดินเปิดให้บริการ ทำให้สถานีรถไฟฟ้าบริเวณสี่แยกอโศกแห่งนี้ เป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวและรถไฟสายสีน้ำเงิน ที่ดินหลายแปลงในย่านนี้ได้ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นโครงการอสังหาฯไปก่อนแล้ว

ดังนั้นโครงการคอนโดฯที่เปิดขายใน 2 พื้นที่นี้ จึงได้รับการตอบรับที่ดีมีอัตราการขายมากถึง 82% โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์มีอัตราการขายสูงประมาณ 87% ขณะที่พื้นที่รอบสถานีอโศกอยู่ที่ประมาณ 75%

ปัจจุบันในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 สถานี มีโครงการคอนโดฯสร้างเสร็จแล้วหลายโครงการ และมีราคาขายเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯทั้ง 2 พื้นที่อยู่ที่ 205,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ปัจจุบันมีคอนโดฯราคาขายมากกว่า 330,000 บาทต่อตารางเมตรและต่ำกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นอยู่กับทำเลและรูปแบบโครงการ หลายโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมีการลดราคาขายกันเป็นจำนวนมาก เพื่อต้องการปิดการขายยูนิตที่เหลือขายอยู่

ในอนาคตอาจจะเห็นโครงการคอนโดฯเปิดขายต่อเนื่องใน 2 ทำเลนี้ และมีราคาขายที่สูงขึ้นอีก รวมถึงโครงการรูปแบบอื่นๆ แม้ราคาที่ดิน ณ ตอนนี้จะไม่เหมาะในการพัฒนาโครงการอสังหาฯประเภทอื่นๆ แต่อาจจะมีเจ้าของที่ดินหลายๆ แปลง ซึ่งปัจจุบันเป็นบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ในพื้นที่ต้องการปล่อยเช่าที่ดินของตัวเองในระยะยาว ทำให้โครงการอสังหาฯประเภทอื่นๆ แจ้งเกิดได้มากขึ้นทดแทนคอนโดฯ  

โครงการ Circle Sukhumvit 31ถือเป็น1ในโครงการคอนโดฯไฮไรส์ที่อยู่ใกล้กับบีทีเอสถานีอโศก และสถานีพร้อมพงษ์ และเคยสร้างปรากฎการณ์ Sold out ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง ปัจจุบันมีห้องหลุดโอนเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกค้าบางคนไม่สามารถรับโอนห้องชุดได้

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 บนพื้นที่กว่า 1ไร่ เป็นอาคารสูง 30 ชั้นแต่มีจำนวนห้องชุดแค่  139 ยูนิต ทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เฉลี่ยแตต่ละชั้นมีจำนวนห้องชุดแค่ 2-8 ยูนิตเท่านั้น เริ่มตั้งแต่ขนาด 1ห้องนอน 46 ตารางเมตรไปจนถึงขนาด 3ห้องนอน 134 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถมากถึง 132 คัน

ออกแบบด้วยแนวคิด Eco-Luxury Living สำหรับการใช้ชีวิตหรูหรา แต่ยังคงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “ไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย” คือความหมายใหม่ของการรักษ์โลก คอนโดมิเนียมที่เป็นตัวอย่างของการผสมผสานการออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการตกแต่งภายในที่เน้นความยืดหยุ่นในการใช้งาน การสร้างพื้นที่ใช้สอยที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามความต้องการใช้งาน ในขณะที่ยังคงความสวยงาม ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยปรับแต่งห้องได้ตามใจให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*