แสนสิริทุ่มงบ 600 ล้านจับมือพาร์ทเนอร์ “ชาร์จ แมเนจเม้นท์” ติดตั้ง EV Charging รวม 1,500 เครื่องภายใน 3 ปี ครอบคลุมทุกโครงการของแสนสิริ ทั้งคอนโดและโครงการแนวราบเซ็กเมนต์บีขึ้น รองรับทิศทางการเติบโตธุรกิจ EV Charging ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากไลฟ์สไตล์ของคนใช้รถที่ชอบชาร์จที่บ้านช่วงกลางคืน

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำด้าน EV Charging Ecosystem เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จ EV ให้กับลูกบ้านแสนสิริที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2562 ทั้งบ้านบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ปัจจุบันได้ติดตั้งสถานีชาร์จไปแล้วไปแล้ว 95 หัวชาร์จจำนวน 50 เครื่องใน 28 โครงการ รองรับลูกบ้านที่อาศัยอยู่รวมกันกว่า 2 หมื่นครอบครัว

โดยได้กำหนดเป็นโรดแมป 3 ปี (2565-2567) จะขยายการติดตั้ง EV Charging Station ให้ครอบคลุมโครงการแนวสูงที่เปิดใหม่และโครงการแนวราบในระดับเซ็กเมนต์ B ขึ้นไปทุกโครงการจำนวน 1,500 เครื่อง โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวในระดับเซ็กเมนต์ B ขึ้นไป จะได้รับพริวิลเลจพิเศษเป็นเครื่องชาร์จ ABB Terra AC Wallbox (Normal Charge) ที่สามารถชาร์จไฟได้เร็วถึง 4-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดรถ)


ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยแสนสิริในเซกเมนต์ B ขึ้นไป พบว่า กลุ่มลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็วและมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวีตแบบยั่งยืน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยลูกค้าบางส่วนเป็นเจ้าของรถ EV อยู่แล้วหรือกำลังมองหารถ EV เพื่อใช้ในอนาคต  ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน ที่ระบุว่า คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ผลการสำรวจพบว่า 86% ให้ความใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อมมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน และอีก 80% ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสังคม-สิ่งแวดล้อม

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) กล่าวว่า การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแสนสิริ เพราะบริษัทมองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ EVมากขึ้นตลอดจนไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่ต้องการชาร์จรถที่บ้าน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับโรดแมปของประเทศที่ภาครัฐให้การสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ EV มากขึ้น

โดยแสนสิริได้ร่วมกับ SHARGE ในการออกแบบและขยายโซลูชั่นรองรับการใช้รถ EV และการเข้าถึงสถานีชาร์จ ซึ่งสอดคล้องกับโรดแมป 5 ปี ของบริษัท ที่ตั้งเป้าหมายดำเนินกลยุทธ์ ‘LIFESTYLE CHARGING ECOSYSTEM: NIGHT, DAY, ON-THE-GO’ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้า ผู้ประกอบการรถยนต์ และธุรกิจพลังงาน สร้างระบบนิเวศที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรมของผู้บริโภค 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จที่เน้นการชาร์จที่บ้าน ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนสูงถึง 80% ของผู้ใช้รถ EV ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะนิยมชาร์จที่บ้านในเวลากลางคืน เพราะสะดวกและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ประจำวันที่คนส่วนใหญ่จะจอดรถไว้บ้านในเวลากลางคืน

กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จที่เน้นการชาร์จที่จุดหมายปลายทาง เช่น การชาร์จตามศูนย์การค้า แหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ สถานศึกษา และอาคารสำนักงาน โดยกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 15%

กลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการชาร์จตามสถานีชาร์จระหว่างการเดินทางข้ามจังหวัด หรือการท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนน้อยที่สุดคือ 5% ของจำนวนผู้บริโภคทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทยังได้นำเอาบริการจากแอปพลิเคชั่นของ SHARGE ที่มีไว้สำหรับค้นหาและจองสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าทั้งของ SHARGE และเครือข่ายพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในแหล่งไลฟ์สไตล์ทั่วกรุงเทพฯ มาเพิ่มเป็นพีเจอร์บนแอปพลิเคชั่นของแสนสิริที่มีไว้สื่อสารระหว่างโครงการและลูกบ้าน สำหรับโครงการของแสนสิริที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ หากมีความประสงค์ที่จะติดตั้ง EV Charging Station บริษัทพร้อมจะให้คำแนะนำและประเมินความเหมาะสมให้แต่ละโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*