นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อานวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2564 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิจำนวน 38.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 45.1% เนื่องจากค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลงจากการกันสำรองในระดับสูงในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่าย ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการเติบโตของสินเชื่อ

ทั้งนี้หากเทียบกำไรสุทธิกับไตรมาสก่อนลดลงจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยในส่วนของรายได้เงินปันผลที่ลดลงจากฐานเงินปันผลที่สูงในไตรมาสก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 0.69% จากไตรมาสก่อนที่ 1.09%

 “ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีความเข้มแข็ง โดยมีเงินกองทุน เงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสาคัญในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้และสนับสนุนความต้องการสินเชื่อเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงจากผลกระทบของ COVID-19 ขณะที่ผลประกอบการปรับดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน”

ส่วนภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ขยายตัวที่ 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 3.7% โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เกือบทุกประเภทธุรกิจ รวมถึงสินเชื่อที่ให้แก่ภาครัฐ สะท้อนถึงความต้องการเงินทุนของภาคธุรกิจภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการเปิดประเทศ ขณะที่สินเชื่อธุรกิจ SMEs2 ขยายตัวต่อเนื่อง จากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูเป็นสาคัญ

ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัว 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 5.7% เนื่องจากสินเชื่อรถยนต์หดตัวตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลง เช่นเดียวกับสินเชื่อบัตรเครดิตที่หดตัวตามปริมาณการใช้บัตรเครดิตที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาด ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็ขยายตัวลดลงตามอุปสงค์ต่อที่อยู่อาศัยที่ปรับลดลง

สำหรับคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ยังคงได้รับผลจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ โดยยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือ NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 546.3 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 3.14%

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*