นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮมในช่วง 5 ปีข้างหน้าให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง โดยเน้นทำเลที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หรือพื้นที่ที่มีอัตราเติบโตของประชากรสูง เช่น สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอยุธยา เป็นต้น

โดยมี 4 แบรนด์หลัก คือ แบรนด์ไบรตัน มีสินค้าให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม จะเปิดตัวในพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด จับกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน แบรนด์บริทาเนีย พัฒนาเป็นสินค้าได้ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม จับกลุ่มคนวัยเริ่มต้นสร้างครอบครัว พนักงานบริษัทและเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก

แบรนด์แกรนด์ บริทาเนีย เป็นกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับพรีเมียม จับกลุ่มพนักงานระดับผู้บริหาร เจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดใหญ่ และแบรนด์เบลกราเวีย  เป็นบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ จับกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่และคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว

เบื้องต้นวางแผนพัฒนาโครงการใหม่ 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 10,800 ล้านบาท โดยในปี 2565 จะเปิดตัวโครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท, โครงการบริทาเนีย อุดร-ดุษฎี จังหวัดอุดรธานี มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท และโครงการบริทาเนีย ระยอง มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท เป็นต้น

อัพเดทข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 17,550 ล้านบาท และมีโครงการที่จะเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 4นี้อีก 6 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 4,300 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีรายได้รวม 2,808.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 452.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเปิดโครงการใหม่และโครงการในปัจจุบันที่มียอดขายดี

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ปัจจุบัน BRI ได้รับอนุมัติแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์และไฟลิ่งมีผลใช้บังคับแล้ว หลังจากยื่นแบบคำขอเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 252,650,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 29.6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ล่าสุดได้กำหนดช่วงราคาเสนอขาย IPO เบื้องต้นไว้ที่หุ้นละ 10– 10.50 บาท โดยจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BRI (Pre-emptive Rights) จองซื้อในวันที่ 7 – 9 ธันวาคมนี้

ส่วนนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ จองซื้อได้ในวันที่ 13 – 15 ธันวาคมนี้ โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะประกาศราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ได้ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ และจะนำหุ้น BRI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้  โดยจะนำเงินจากการะดมทุนไปใช้พัฒนาโครงการ ชำระเงินกู้ยืมและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*