โนเบิลฯเผยยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อ ก.ล.ต.จำนวน 1 รุ่น เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป-ผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี หวังขยายการลงทุน-พัฒนาโครงการใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในแนวราบมากขึ้นรวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมทุน คาดว่าเปิดจองซื้อ-ให้ผู้ลงทุนขอรับหนังสือชี้ชวนได้ภายในม.ค.65 นี้ แย้มแผนปีหน้ารุกเปิด 18 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 47,400 ล้านบาท พร้อมเพิ่มสัดส่วนแนวราบเกือบ 50% ระบุขยายพอร์ตให้รองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ครอบคลุมทำเลมากขึ้น

นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อขออนุญาตและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 1 รุ่น เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุก ๆ 100,000 บาท โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อขยายการลงทุนและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในแนวราบมากขึ้นรวมถึงการลงทุนในบริษัทร่วมทุน ทั้งนี้หุ้นกู้ในครั้งนี้และบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้และหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ของบริษัทฯ ในปัจจุบันได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตจากเดิมที่ระดับ “BBB-” มาที่ระดับ “BBB” และคาดว่าจะเปิดจองซื้อและให้ผู้ลงทุนขอรับหนังสือชี้ชวนได้ภายในเดือนมกราคม 2565 นี้

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,792 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 936 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย (Pre-sales) สะสมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,525 ล้านบาท โดยกว่า 3,400 ล้านบาทมาจากโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอีกกว่า 2,100 ล้านบาท มาจากยอดการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการคือ โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ และโครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา และโครงการนิว โนเบิล อื่นๆที่ทยอยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และมีรายได้ที่รอการรับรู้หรือ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3 จำนวน 10,085 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตลอด 3 ปีข้างหน้าจะช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้ของ บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2565 NOBLE ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการฟื้นตัวของตลาด ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 47,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในพอร์ตให้มากขึ้น เพื่อขยายพอร์ตให้มีสินค้ากระจายและรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ครอบคลุมในหลายทำเลมากขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงการในแนวราบจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้นเนื่องจากใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยลง โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนของการพัฒนาโครงการแนวราบในพอร์ตเกือบ 50% (ตามสัดส่วนการลงทุนของ NOBLE) โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการในทำเลที่กระจายตัวมากขึ้น เช่น ในทำเลถนนดอนเมือง ถนนราชพฤกษ์ ถนนเอกมัย-รามอินทรา ถนนกรุงเทพกรีฑา และในทำเลที่ใกล้เมกาบางนา เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทฯ มั่นใจว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและการผ่อนคลายมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ( Loan to Value : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ หากบริษัทกำหนดรายละเอียดที่แน่นอนแล้วจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบอีกครั้ง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*