ซีบีอาร์อีฯเผยปี64 แห่งความท้าทายทุกภาคธุรกิจกำลังสิ้นสุด โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯกลางเมืองชะลอเปิดตัวใหม่ 2 ไตรมาสติด ขณะที่แนวราบสวนกระแส บางโครงการขายไม่ทันความต้องการดีมานด์ ด้านตลาดค้าปลีกต้องเผชิญกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบหลายปี  ขณะที่ธุรกิจโรงแรม มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด -19 สำหรับตลาดสำนักงานอ่วมสุดปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานใหม่ติดลบ 3 ไตรมาสติดต่อกัน รวม 80,026 ตารางเมตรส่วนความกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยกระตุ้นให้ภาครัฐเอกชนเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่
ขนายรัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ หัวหน้าแผนกวิจัยและที่ปรึกษาการพัฒนาโครงการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้สรุปเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในปี 2564ในภาคธุรกิจต่าง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายกำลังจะสิ้นสุดลง  เป็นที่ชัดเจนว่าตลาดคอนโดมิเนียมในโซนกลางเมือง ชะลอการเปิดตัวลงอย่างมาก นับเป็นครั้งแรกที่ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ติดต่อกัน 2 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ของปีนี้   แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในย่านมิดทาวน์และชานเมืองจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อยู่บ้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าระดับปกติ   จำนวนยูนิตของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปีมีเพียง 11,760 ยูนิต ลดลง 72% จากปี 2562 และลดลง 37% จากปี 2563
โดยพฤติกรรมผู้บริโภคต้องการเพิ่มพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงการอยู่อาศัยในชุมชนที่มีความหนาแน่นต่ำ ทำให้โครงการบ้านแนวราบได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นในปีนี้   ความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ผู้พัฒนาโครงการบางรายมีจำนวนบ้านพร้อมขายไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ  การพัฒนาโครงการใหม่และปรับการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อรายใหม่นั้นอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่จะเปิดตัว หรืออาจนานกว่านั้นหากผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องซื้อที่ดินด้วย

 

ในตลาดค้าปลีก หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกลงมาสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2541  เป็นผลมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบทางการเงินในเชิงลบ รวมถึงการที่ธุรกิจหยุดชะงักและไม่มีสัญญาณที่แสดงถึงการปรับตัวดีขึ้นในตลาด  สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกจำนวนมากต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง ดังนั้น เราจึงเห็นรูปแบบการค้าปลีกที่มีความยืดหยุ่นและขนาดเล็กลง เช่น ฟู้ดทรัค คลาวด์คิทเช่น และป๊อปอัป สโตร์ ได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ

 

ด้านตลาดโรงแรมนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดที่มีความสร้างสรรค์มากที่สุดในแง่ของการปรับให้เข้ากับมาตรการข้อจำกัดและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากที่มีการเปลี่ยนจากการเข้าสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) ไปเป็นระบบเทสต์ แอนด์ โก (Test and Go) หรืออื่นๆที่จะต้องปรับตัวตามสถานการณ์โควิด-19  เนื่องจากต้องเปลี่ยนไปเป็นตลาดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศเกือบทั้งหมด การเข้าพักแบบ Staycation โปรโมชั่นและแพ็กเกจสำหรับคนไทยถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการที่จะพยายามดึงอัตราการเข้าพักให้กลับมาดีขึ้น  จากข้อมูลของ STR  อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวันจากห้องที่ขายได้จริง (ADR) ของโรงแรมในกรุงเทพฯ ลงไปต่ำกว่า2,000 บาทเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่าทศวรรษเมื่อเดือนมีนาคม และเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2564

 

นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทำให้ตลาดอาคารสำนักงานได้รับผลกระทบอย่างมากจากการลดขนาดพื้นที่และการย้ายพื้นที่ของผู้เช่าที่ถูกผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งมากกว่าปี 2563   ปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานใหม่ที่เปรียบเทียบในแต่ละปีนั้นติดลบเป็นระยะเวลา 3 ไตรมาสติดต่อกันในปีนี้ รวมติดลบ 80,026 ตารางเมตร และซึ่งไม่ได้เห็นการตัวเลขติดลบเช่นนี้ในตลาดสำนักงานในกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วิกฤตการเงินช่วงปี2541

 

ในปี 2563 เราต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 อีกระลอกหนึ่งก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดสิ้นปี และในปี 2564 นี้  ความกังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้กระตุ้นให้รัฐบาลและภาคธุรกิจต่างต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่    ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะตอบสนองต่อความไม่แน่นอนนี้อย่างไร ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อจัดการกับสถานการณ์และทิศทางของตลาดที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้นายรัฐวัฒน์ กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*