ริชี่เพลสฯเผยนักลงทุน-ผู้ถือหุ้นให้ความสนใจจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนเกินกว่า 108% คิดเป็นมูลค่ากว่า 347 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ได้เตรียมนำไปลงทุน 4 โครงการใหม่ปี 65 ทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท
ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน)  หรือ RICHY  เปิดเผยว่า จากกรณีที่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ความสนใจในการจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม (Right offering) ควบคู่กับใบสำคัญแสดงสิทธิ์ฯ ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ์  เมื่อวันที่ 14-20 ธันวาคม 2564  ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ถือหุ้นที่ได้แสดงเจตจำนงในการจองหุ้นเพิ่มทุนเกินกว่า 108 %   คิดเป็นมูลค่าเกินกว่า 347 ล้านบาท  เกินกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 322 ล้านบาท   แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนต่อบริษัทฯ เป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้น โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทได้เตรียมไว้สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ในปี 2565

โดยเม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯเตรียมไว้สำหรับการดำเนินการตามแผนธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบในปี 2565 โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 6,000  ล้านบาท ได้แก่  1. โครงการริชตัน   พัฒนาการ สวนหลวง  โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ยูโรเปี้ยน  จำนวน 131 ยูนิต   2. โครงการริชตัน ดอนเมือง เพิ่มสิน  เป็นโครงการ ทาวน์โฮม 2 ชั้น  จำนวน 163 ยูนิต   และโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก  2  โครงการ  ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

“นักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ความสนใจในการจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม (Right offering) ควบคู่กับใบสำคัญแสดงสิทธิ์ฯ ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ์  ในวันที่ 14 – 20 ธันวาคม 2564  ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ถือหุ้นที่ได้แสดงเจตจำนงในการจองหุ้นเพิ่มทุนเกินกว่า 108 %   คิดเป็นมูลค่าเกินกว่า 347 ล้านบาท  เกินกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 322 ล้านบาท   แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนต่อบริษัทฯ เป็นอย่างดีจากผู้ถือหุ้น  โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทได้เตรียมไว้สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ในปี 2565 และต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่าน ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุน RICHY อย่างดีในการเพิ่มทุนครั้งนี้  ทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและยั่งยืนต่อผู้ถือหุ้นต่อไป”ดร.อาภา กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*