“เรนท์สพรี” (RentSpree) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสำหรับการค้นหาที่อยู่อาศัยสำหรับคนที่ต้องการเช่าบ้านแบบครบวงจรที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากใช้เวลาเปิดให้บริการมาได้แค่ 6 ปี (ก่อตั้งปี 25ุ60)  ให้บริการในด้านการเป็นแพลตฟอร์มคัดกรองผู้เช่า (Tenant Screening) การจัดการบ้านเช่า (Property Management) และการจัดการความสัมพันธ์ผู้เช่า (Rental Client Manager) แบบครบวงจรให้กับตัวแทนนายหน้า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และผู้เช่าในสหรัฐอเมริกากว่า 750,000 ราย

ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของเรนท์สพรีตั้งอยู่ที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหนึ่งในผู้ก่อตั้ง      เรนท์สพรี มีเอกบุตร สิริศุภางค์ ซึ่งเป็นคนไทยที่ไปศึกษาต่ออยู่ในประทศสหรัฐอเมริกา ได้ระดมเงินทุนส่วนตัว ครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยเงินทุน 5 ล้านบาท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมกับไมเคิล ลูคาเรลลี (Michael Lucarelli) ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ที่ติดอันดับ 30 under 30  การจัดอันดับบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่อายุต่ำกว่า 30 ปีในหมวดองค์กรเทคโนโลยีโดย Forbes ปี 2021

ซึ่งสำนักงานฝั่งอเมริกานี้ จะดำเนินงานด้านการพัฒนาธุรกิจและการดูแลลูกค้า (Business Development) ส่วนสำนักงานในประเทศไทย จะดำเนินงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) ซึ่งประกอบไปด้วยทีม Software Engineer, Data Engineer และ Product Design

เอกบุตร สิริศุภางค์

นายเอกบุตร สิริศุภางค์ กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า ในช่วงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา เรนท์สพรี ได้รับเงินทุนมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท จนกลายเป็นสตาร์ทอัพระดับ Series A โดยมี 645 Ventures เป็นกลุ่มนักลงทุนหลักที่ร่วมลงทุนกับเรนท์สพรีตั้งแต่รอบ Seed Round พร้อมด้วย Green Visor Capital และ Vesta Ventures ผลักดันให้มูลค่าธุรกิจของเรนท์สพรีในปัจุบันสูงถึง 1,600 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทได้นำเงินลงทุนก้อนดังกล่าวมาพัฒนาธุรกิจให้เติบโตไปสู่ระดับโลก รวมถึงขยายทีมบุคลากรในประเทศไทยเพื่อต่อยอดการพัฒนาแพลตฟอร์มของบริษัท โดยได้ตั้งจะเป้าจะเพิ่มจำนวนบุคลากรในประเทศไทยจาก 85 คนให้เป็น 200 คนภายในสิ้นปี 2566 เพื่อรองรับอัตราการเติบโตของเรนท์สพรีที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าในทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2565 บริษัทสามารถสร้างรายได้มากถึง 300 ล้านบาท และสำหรับในปี 2566นี้ บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 600 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เรนท์สพรี เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นของคนไทยภายในปี 2567 ด้วยเป้ารายได้ 2,850 ล้านบาท พร้อมกับจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาด้วย

สำหรับกลยุทธ์ที่เรนท์สพรีได้วางไว้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย นายเอกบุตร สิริศุภางค์ กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญที่จะขับเคลื่อนบริษัท ไปสู่เป้าหมายในระดับยูนิคอร์นจะมีอยู่ 4 กลยุทธ์หลัก คือ People เนื่องจากเรนท์สพรีเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทย เราจึงต้องการเฟ้นหาบุคลากรคนไทยให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทเพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการปล่อยเช่าบ้านในระดับโลกภายในแพลตฟอร์มเดียวภายใน 3 ปีต่อจากนี้

 Growth การสร้างเรนท์สพรีให้เป็นแพลตฟอร์มการเช่าบ้านที่ครบวงจรมากขึ้น และกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนายหน้า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และผู้เช่าทุกๆ คน Partner การเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์และสร้างเทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าผู้ใช้งาน และช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ Brand การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของการเช่าบ้านจากธุรกรรมเป็นความสัมพันธ์ระยะยาว โดยเรนท์สพรีจะเป็น PropTech สตาร์ทอัพเจ้าแรกที่จะทำให้การเช่าบ้านเป็นเรื่องที่ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันเรนท์สพรีมีผู้ใช้บริการมากกว่า 750,000 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเจ้าของบ้านและนายหน้ากว่า 130,000 คน และกลุ่มที่ทำธุรกรรมการเช่าบ้านกว่า 620,000 รายการ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*