“บริทาเนีย” ลุยหนักบ้านแนวราบภายใต้คอนเซปต์ Growth Together’ เปิด 12 โปรเจ็กต์ใหม่มูลค่า 13,400 ล้านบาท พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้า ปักหมุดโครงการใหม่ 4 จังหวัด อุดรธานี-ขอนแก่น-ระยอง-อยุธยา ชูแบรนด์ “บริทาเนีย ระดับราคาเฉลี่ย 4-8 ล้านบาทเป็นเรือธงในการสร้างการจดจำของลูกค้า พร้อมผนึกพันธมิตรร่วมทุนขยาย ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 11,000 ล้านบาทและรับรู้รายได้ 7,250 ล้านบาท 

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซปต์ ‘Growth Together’ ทั้งการขยายตลาดสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคกลางที่มีศักยภาพเติบโตสูง รวมถึงการร่วมทุนกับพันธมิตร การปรับตัวสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์มรองรับการใช้ชีวิตในบ้านของลูกค้าที่ปรับตัวรับยุค Next Normal

โดยวางแผนเชิงรุกเปิดตัวที่อยู่อาศัยแนวราบจำนวน 12 โครงการมูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 โครงการ อาทิ โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ – นครอินทร์,บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17,บริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 และแกรนด์บริทาเนีย บางนา กม.35

ส่วนโครงการในต่างจังหวัดมี 6 โครงการ  อาทิ โครงการบริทาเนีย อมตะ-พานทอง,บริทาเนีย อุดร-ดุษฎี,บริทาเนีย ระยอง,บริทาเนีย ขอนแก่น,บริทาเนีย โฮม อยุธยา และบริทาเนีย ทาวน์ อยุธยา เป็นต้น

“ในปี 2564 ที่ผ่านมาสินค้าหลักที่เปิดตัวใหม่จะเป็นแบรนด์ “แกรนด์ บริทาเนีย” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงและมีกำลังซื้อสูง ส่วนในปีนี้บริษัทจะใช้แบรนด์สินค้า “บริทาเนีย”เป็นเรือธงในการบุกตลาดแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำชื่อของบริษัทให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นกลุ่ม Mass เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา โดยจะเปิดตัวโครงการทั้งหมด 10 โครงการมีสินค้าให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดราคาเฉลี่ย 4- ล้านบาท”

 นอกจากนี้บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของลูกค้า อาทิ Solar Roof Top หรือแผงหลังคาโซลาร์เซลล์,สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ซึ่งจะเริ่มนำร่องทดลองใช้พื้นที่ส่วนกลาง อาคารสโมสรของบ้านแบรนด์แกรนด์ บริทาเนียก่อน ก่อนจะขยายการติดตั้งไปยังพื้นที่หรือบ้านในแบรนด์อื่นๆ

ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นการให้บริการหลังการขายกับลูกบ้านครอบคลุมทั้งภายในและหลังระยะเวลาประกัน เช่น รับประกันคุณภาพโครงสร้างบ้าน 5 ปีนับจากวันที่โอนกรรมสิทธิ์,ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน, การแจ้งซ่อมและติดตามสถานะผ่าน Mobile Application Britania Connect

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ นางศุภลักษณ์กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อนที่มียอดขาย 8,300 ล้านบาท และวางเป้ายอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 7,250 ล้านบาท โดยมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ ณ สิ้นปี 2564 แล้ว 1,204 ล้านบาท และมีบ้านแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,250 ล้านบาท

“แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวและเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกีบช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณบวกในช่วงปลายปีที่ผ่านมาหลังจากรัฐบาลเริ่มเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงการกระจายวัคซีนที่รวดเร็ว ประกอบกับแบงก์ชาติได้ผ่อนปรนมาตรการ LTVเป็นการชั่วคราว ให้สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมกับสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องได้ 100% ของมูลค่าหลักประกัน ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯและความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดบ้านแนวราบ”

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานอำนวยการ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของกลุ่มลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาแบบบ้านใหม่ให้ตอบสนองการใช้พื้นที่ร่วมกันของสมาชิกในบ้าน ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งและต่อเชื่อมกัน  โดยออกแบบพื้นที่บริเวณหน้าบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหน้าบ้าน (Pocket Garden) สามารถเพิ่มห้องนอนที่ 4 รองรับผู้สูงอายุหรือปรับเป็นห้องทำงานได้ ส่วนห้องนอนชั้น 2 ทุกห้องจะมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของบ้านบริทาเนีย ที่เน้นการออกแบบทรงหน้าจั่ว English Gable

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*