เสนาดีเวลลอปเม้นท์ทรานส์ฟอร์มแตกไลน์ธุรกิจสู่ “SENA Next” ครอบคลุม 3 เรื่องหลัก Next EXPANSION – Next ERA – Next LEVEL เทคโอเวอร์กิจการกลุ่ม JSP เข้ามาไว้ในพอร์ต พร้อมเตรียมเปิดโมเดลธุรกิจใหม่เฟ้นหาพาร์ทเนอร์มืออาชีพปั้นบริษัทในเครือให้แข็งแกร่ง ปูพรมปีนี้เปิด 49 โครงการใหม่รวม 2.7 หมื่นล้านบาทมากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เป้ายอดขาย 13,979 ล้านบาท และเป้าโอน 12,186 ล้านบาท

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ถือเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของกลุ่มเสนาฯที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งใหญ่ภายใต้กลยุทธ์ SENA Next” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทได้เข้าเทคโอเวอร์กิจการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดจำนวน 3 บริษัทเพื่อต่อยอดธุรกิจหลักด้านอสังหาฯและเพิ่มผลตอบแทนให้กับกลุ่มเสนาฯ ประกอบด้วย การเข้าไปซื้อซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 100% ของบริษัทปิติแลนด์ จำกัด และบริษัทปรางกูล แอสเสท จำกัด

ล่าสุดได้ซื้อหุ้นสามัญสัดส่วน 35.35% ในบริษัทเจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ JSP ทำให้บริษัทสามารถต่อยอดโครงการระหว่างการพัฒนาของ JSP ได้รวดเร็วกว่าการที่บริษัทเริ่มพัฒนาโครงการใหม่ตั้งแต่ต้น รวมทั้งสามารถร่นระยะเวลาในช่วงการเริ่มต้นพัฒนาโครงการไปได้และสามารถรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้ทันที

นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้บริการด้วย เช่น การรับจ้างบริหารโครงการอสังหาฯ การให้บริการบริหารนิติบุคคล การให้บริการตัวแทนขาย การให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์ เป็นต้น

สำหรับแผนการดำเนินในปีนี้ บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 49 โครงการมูลค่า 27,480 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารสูง 21 โครงการและบ้านแนวราบ 28 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เกิดจากการควบรวมกิจการกับ JSP จำนวน 25โครงการ มูลค่า 8,980 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนกับกลุ่มเสนาฮันคิว จำนวน  19 โครงการ แบ่งเป็นอาคารสูง 11 โครงการและบ้านแนวราบ8 โครงการ มูลค่า 13,900 ล้านบาท

“การเทคโอเวอร์กิจการขอJSP ส่งผลให้เสนาฯขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ทั้งในกรุงเทพ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด ได้ครอบคลุมทุกโลเคชั่น และมีจำนวนโครงการแนวราบเข้ามาเสริมทัพในพอร์ตเป็นจำนวนมาก ทำให้สัดส่วนการลงทุนของกลุ่มเสนาฯในปีนี้เป็นพอร์ตบ้านแนวราบ 60% และอาคารสูง 40%”

โดยแบรนด์สินค้าหลักที่จะเปิดตัวใหม่ปีนี้จะเป็นกลุ่มสินค้าราคาจับต้องได้หรือกลุ่ม Affordable มีทั้งสินค้าคาต่ำกว่าล้าน และดับราคา1-2ล้านบาท โดยเฉพาะคอนโดฯราคาต่ำล้านแบรนด์เสนา คิทท์ ที่จะเปิดตัวมากถึง 24 โครงการเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 นอกจากนี้จะเปิดตัวแบรนด์คอนโดฯใหม่ Flexi ระดับราคา 1 ล้านบาทขึ้นไปเจาะกลุ่ม Gen Y และ Gen Z จำนวน 8 โครงการในย่านเตาปูน รัตนาธิเบศร์ สาทร-กัลปพฤกษ์ สุขสวัสดิ์ 13 และเจริญนคร 70 เป็นต้น

ส่วนสินค้าแนวราบปีนี้จะเปิดตัวทาวน์โฮมดีไซน์ใหม่คล้ายกับบ้านแฝดแบรนด์ “เสนา วิลเลจ” จำนวน 2 โครงการ คือ เสนา วิลเลจ รามอินทรา กม.9 และเสนา วิลเลจ รังสิต-ติวานนท์

ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายยอดโอนปีนี้ไว้ที่ 12,186 ล้านบาท และยอดขาย 13,979 ล้านบาท มาจากการขายโครงการที่อยู่ระหว่างการขายของเสนานในปัจจุบันจำนวน 41 โครงการ มูลค่ารวม 25,137 ล้านบาท และโครงการใหม่อีก 49 โครงการ ส่งผลให้ปีนี้เสนนาฯมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในมือเพิ่มเป็น 90 โครงการ รวมมูลค่า 52,617 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายโอกาสไปลงทุนในธุรกิจใหม่ (New Business) เพิ่มอีก 3 ธุรกิจ คือ SENA WELLNESS ธุรกิจบริการด้านการดูแล ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งบริษัทได้จับมือทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจัดตั้งบริษัทในเครือภายใต้แบรนด์ “SENA HEALTHCARE” รองรับการเติบโตของสังคมสูงอายุ จะเปิดตัวโครงการแรกในปีนี้  SENA WAREHOUSE   ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า พร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจร และ S FINANCIAL SERVICE ธุรกิจให้บริการทางการเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถมีบ้านได้งง่ายขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*