ศูนย์ข้อมูลฯเผยผลสำรวจตลาดบ้านมือสองทั่วประเทศไตรมาส 4 ปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ทั้งในด้านจำนวนหน่วยและมูลค่า รับผลดีรัฐต่ออายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ชี้บ้านเดี่ยวครองแชมป์ประกาศขายมากที่สุดทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ระดับราคา 5 – 7.50 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯมีการประกาศขายบ้านมือสองมากที่สุด 62%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดบ้านมือสองในไตรมาส 4 ปี 2564 ที่ผ่านมว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับผลดีจากการต่ออายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ที่ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท และให้สิทธิครอบคลุมมาถึงที่อยู่อาศัยมือสองด้วย จากเดิมที่มีผลเฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการประกาศผ่อนปรนมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่ามาตรการนี้จะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองในปีนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดบ้านมือสองทั่วประเทศ ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ทั้งในด้านจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯมีการประกาศขายบ้านมือสองมากที่สุด 62% ในด้านมูลค่า และ 41% ในด้านจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน

โดยในช่วง3เดือนของไตรมาส 4 ปี 2564 มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 145,753 ยูนิต มูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 990,224 ล้านบาท จำนวนหน่วยปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.3% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3 ซึ่งมีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือน 129,732 ยูนิต และมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 862,455 ล้านบาท โดยเดือนที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่าบ้านมือสองประกาศขายมากที่สุด คือ เดือนพฤศจิกายน จำนวน 149,529 ยูนิต มูลค่า 1,061,435 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาภาพรวมทั้งปี 2564 พบว่า มีจำนวนหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 126,237 ยูนิต และมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือน 855,317 ล้านบาท

สำหรับประเภทสินค้าบ้านมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุด คือ บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 14.4% รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 12.5%  ห้องชุดเพิ่มขึ้น 11% บ้านแฝด  5.1% และอาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 4% โดยระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี ประมาณ 32.9% รองลงมาเป็นระดับราคา 7.51 – 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% และระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9%

โดย

จังหวัดที่มีการประกาศขายบ้านมือสองที่มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี เชียงใหม่ ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรสาคร โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ มีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 616,614 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมาก 62.3% เมื่อเทียบกับมูลค่าทั้งประเทศ และมีหน่วยประกาศขายเฉลี่ยต่อเดือน 60,269 ยูนิต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*