LANDMARK @MRTA STATION หรือชื่อเดิม “ไซมิส พระราม 9” เป็นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสขนาดใหญ่อยู่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 พัฒนาโดยบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ที่มีนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ เป็นผู้บริหาร ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการออกแบบและการก่อสร้างจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่มากว่า 30 ปี ก่อนจะมาจัดตั้งบริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด เมื่อปี 2553  เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว

หลังจากนั้นก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนหันมาพัฒนาโครงการในรูปแบบ Mixed Use โดยได้จัดสรรพื้นที่ของโครงการอสังหาฯที่กำลังจะพัฒนาบางส่วน หรือนำห้องชุดบางส่วนในโครงการที่พัฒนาแล้วมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เป็นพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ หรือนำมาให้บริการในรูปแบบโรงแรมหรือเซอร์วิสเรสซิเด้นซ์ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring income) ให้กับบริษัท ปัจจุบันมีโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มไซมิสฯไปแล้วกว่า 20 โครงการ

Location
ติดถนนใหญ่พระราม9 ใกล้ทางด่วน- MRTสายสีส้ม

พิกัดของที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9 ฝั่งขาออกที่มุ่งสู่ถนนรามคำแหง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะถนนระราม 9 ที่ถือว่าเป็นย่านเศรษฐกิจที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับถนนสายหลักได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่ไปเชื่อมต่อกับถนนเอกมัยและทองหล่อ และถนนรามคำแหง นอกจากนี้ยังมีทางด่วนพิเศษศรีรัช และรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างและมีแผนจะเปิดให้บริการในช่วงปี 2567 โดยโครงการอยู่ห่างจากสถานี MRTA ประมาณ 350 เมตร

นอกจากนี้ถนนพระราม 9 ยังเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศอย่างโรงพยาบาลปิยเวท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 9 ห้างฟอร์จูน ทาวน์ และห้างโลตัส ที่อยู่ติดกับสถานีพระราม 9ของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ส่วนถนนรัชดาภิเษกก็เป็นที่ตั้งของห้าง Esplanade รัชดา, Big C รัชดา และ The Street รัชดา เป็นต้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯย่านนี้

Product Concept
ห้องชุดสไตล์ Loft เพดานสูง 4.40 เมตร

 สำหรับแนวคิดในการออกแบบโครงการนี้เป็นการผสมผสานการใช้พื้นที่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความเป็นไฮคลาส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WHY CHOOSE, WHEN YOU CAN HAVE IT ALL” รวมทุกความสะดวกสบายไว้ภายในพื้นที่เดียวกัน ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ บนเนื้อที่โครงการขนาด 13 ไร่ ซึ่งมีที่พักอาศัยรวม 1,980 ยูนิต ประกอบด้วย

            Tower A ส่วนพื้นที่โรงแรม

            Tower B Siamese Tower อาคารสูง 38 ชั้นประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 1,131 นิตพร้อม Hospitality Service สำหรับการซื้อเพื่ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุนให้เช่า โดยผู้เช่าจะได้รับการบริการที่ได้มาตรฐานจาก Concierge services, Housekeeping, Laundry, Room Service.

           Tower C Siamese Residence อาคารสูง 29 ชั้น จำนวน 584 ยูนิต แบ่งเป็น Residential 543 ยูนิต Commercial 8 ยูนิต และส่วนออฟฟิศ 15 ยูนิต

นอกจากนี้ยังมี Commercial Zone ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่ขนาดใหญ่ที่รองรับการจัดกิจกรรมในอนาคต

สำหรับห้องชุดพักอาศัยทั้งหมดของอาคารB และ C ถูกออกแบบให้เป็นห้องชุดแบบ Duo Space สไตล์ Loft ทุกยูนิต ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Fully Fited  เช่น มีที่เก็บรองเท้า ที่เก็บของที่ฝั่งอยู่ในผนัง อ่างอาบน้ำ และโถชักโครกแบบ Auto

เน้นความโปร่งโล่งภายในห้องด้วยเพดานสูง 4.40 เมตร โดยออกแบบให้ชั้นลอยเป็นห้องนอนขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 10ตารางเมตรขึ้นไป และมีความสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนพื้นที่ชั้นล่างจัดวางให้เป็นพื้นที่ส่วนครัว มุมพักผ่อน พร้อมห้องน้ำ และระเบียง

โดยมีฟังก์ชั่นห้องให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1ห้องนอน 2ห้องนอน และขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 37.5 ตารางเมตรขึ้นไป โดยพื้นที่ใช้สอยส่วนนี้ได้รวมพื้นที่ชั้นลอยขนาด 10 ตารางเมตร

แบ่งเป็น ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย  27 – 39 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย  40 – 55 ตารางเมตร และขนาด 3. ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 60-72 ตารางเมตร และ Penthouse ขนาดพื้นที่ 162 – 205 ตารางเมตรมีจำนวน 5 ยูนิต

ปัจจุบันราคาขายห้องชุดเริ่มต้นที่ 4.4 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 120,000 บาท ขณะนี้ทาวเวอร์ B ทำยอดขายได้แล้ว 45% ส่วนทาวเวอร์ C ทำยอดขายได้ 70% ส่วนงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 20% โดยมีกำหนดสร้างเสร็จและทยอยเปิดให้บริการในช่วงปี 2567

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*