เครือดุสิตฯเผยภาพรวมตลาดปี 65 ยังไม่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกำลังซื้อต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาลงทุน ด้าน“ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ยอดขายคืบแล้ว 40% จากดีมานด์ชาวไทยที่มีกำลังซื้อสูง เดินหน้าโรดโชว์ประเทศที่มีฐานลูกค้าต่อเนื่อง ส่วนการก่อสร้างมั่นใจเป็นไปตามแผนเดิม
น.ส.ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้บริหารโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”ภายใต้การร่วมทุนของ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT และ กลุ่มเซ็นทรัล โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ว่ายังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา จำนวนโครงการเปิดใหม่ปรับลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 17% (จากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs – AREA) ขณะที่ยอดขายยังขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปี 2563 โดยได้ปัจจัยหนุนหลักมาจากกลุ่มตลาดระดับบนที่ยังคงมีกำลังซื้อ และมาตรการภาครัฐช่วยกระตุ้นการซื้อขาย คาดว่าปี 2565 ตลาดจะยังไม่กลับมาเติบโตเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 เนื่องยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง รวมทั้งกำลังซื้อของลูกค้าที่คาดหวังการซื้อเพื่อลงทุน

“สถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มหายไปจากตลาด โดยเฉพาะลูกค้าที่คาดหวังการซื้อเพื่อลงทุน  โดยการปล่อยเช่า คิดว่ากำลังซื้อของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีอยู่ แต่คงยังไม่ได้กลับมาในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นการให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่จริงจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะในโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี่ที่ลูกค้าต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รวมไปถึงมีการเปรียบเทียบโครงการหลายๆ โครงการ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของทีมเราที่จะสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่โครงการของเราพร้อมจะมอบให้” น.ส.ละเอียด กล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ภายในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” หลังจากเปิดเปิดตัวโครงการเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 40% ของพื้นที่ขายแล้ว ถึงแม้เกือบตลอดช่วงเวลากว่า 18 เดือนที่ผ่านมาจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม  โครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย ที่ยังมีกำลังซื้อสูง(High-Net-Worth Individual: HNWI)  และมองเห็นว่าลักษณะของโครงการฯ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายครบทุกด้าน

“ปี 2564 ที่ผ่านมาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งนี้ได้มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อสูงชาวไทยเป็นหลักเพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างน้อย   ด้วยการตอบรับอย่างดีจากปีที่ผ่านมาผนวกกับข้อจำกัดของการเดินทางของชาวต่างชาติในช่วงปี 2564 บริษัทจึงได้ปรับเป้าหมายการขายจากลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 65% และชาวต่างชาติ 35% จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายชาวไทย 60% และชาวต่างชาติ 40%” น.ส.ละเอียด กล่าว

ในด้านกลยุทธ์การตลาด นอกจากบริษัทฯจะมีฐานลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ดุสิตแล้ว ยังต้องขอบคุณความร่วมมือและการช่วยเหลือจากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯหลายราย ทำให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าตลาดบนที่เป็น End-User ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทีมงานก็ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าชาวต่างชาติ มีการจัดแผนโรดโชว์ไปยังประเทศต่างๆ ที่ตั้งใจไว้ในปีนี้ โดยจะเริ่มจากประเทศในเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งดุสิตมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดังกล่าวได้ไม่ยากนั

อย่างไรก็ตามนอกจากกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสนับสนุนยอดขายที่น่าพอใจในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ได้รับการตอบรับที่ดีคือลักษณะเด่นของโครงการ ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการฯ ที่บริเวณสีลม-พระราม 4 ซึ่งเป็นทำเลติดอันดับราคาที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ  ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ การออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลก โดยเป็นการผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมของดุสิตธานีกับดีไซน์ทันสมัยในมาตรฐานสากลอย่างลงตัว และ จุดขายที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือปรัชญาการให้บริการที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ “ดุสิตธานี” ทั้งการดูแลด้วยความอบอุ่น และให้บริการด้วยความใส่ใจ

“นอกเหนือจากโครงการที่อยู่อาศัย โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ยังประกอบไปด้วยโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ (Dusit Thani Bangkok Hotel) รูปโฉมใหม่ที่จะยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของอาคารเดิมพร้อมด้วยห้องพักจำนวน 259 ห้อง ศูนย์การค้า ภายใต้ชื่อ เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 80,000 ตารางเมตร และอาคารสํานักงานเกรด A เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส (Central Park Offices) 40 ชั้น บนพื้นที่รวมทั้งหมด 90,000 ตารางเมตร” น.ส.ละเอียด กล่าว

ส่วนความคืบหน้าด้านการก่อสร้างนั้น เมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา ได้ประกาศแต่งตั้งให้ บริษัท ฤทธา จำกัด เป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีกำหนดเริ่มงานก่อสร้างอาคารโรงแรมตั้งแต่ช่วงต้นของปี 2565 นอกจากนี้ได้เริ่มมีการก่อสร้างฐานรากของอาคารสำนักงานอาคารที่พักอาศัยและอาคารศูนย์การค้า ทั้งนี้คาดว่า โรงแรมจะเป็นส่วนที่ก่อสร้างเสร็จก่อนเป็นส่วนแรกในช่วงต้นปี 2567 ในขณะที่อาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้า  จะแล้วเสร็จกลางปี 2567 ส่วนโครงการที่พักอาศัยจะเป็นส่วนสุดท้าย คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2568

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*