ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เผยผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยกทม.-ปริมณฑลช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เปิดตัวใหม่ 32,818 ยูนิต ลดลง -9.9% โดยเฉพาะคอนโดฯลดลงมากถึง -20.5% ส่วนสินค้าเหลือขายมีจำนวน  164,9551 ยูนิต คาดการณ์ปี 2565 มีโครงการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาด 83,608 ยูนิตเพิ่มขึ้น 62.2% มูลค่า 386,757 ล้านบาท สินค้าคอนโดฯเปิดตัวมากสุด 44,519 ยูนิต เพิ่มขึ้น 111.5%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า จากการสำรวจภาคสนามอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑลในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการยังคงชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อลดจำนวนห้องชุดรอการขาย ส่งผลให้มีจำนวนโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 32,818 ยูนิต ลดลง -9.9% คิดเป็นมูลค่า 132,530 บาท ลดลง -32.7%

ในจำนวนนี้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 14,219 ยูนิต ลดลง -20.5% มูลค่า 36,779 ล้านบาท ลดลง -54.8% อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯมากถึง 10,509 ยูนิต โดยเฉพาะในพื้นที่พระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ จำนวน 2,484 ยูนิต พื้นที่หลักสี่ ดอนเมือง สายไหมจำนวน 1,481 ยูนิต และพื้นที่ห้วยขวาง จตุจักร ดินแดง จำนวน 1,301 ยูนิต

ส่วนโครงการบ้านจัดสรรมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 18,599 ยูนิต เพิ่มขึ้น 0.4% แต่มูลค่าลดลง-17.2%เหลือ 95,751 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3,703 ยูนิต บ้านแฝด 3,283 ยูนิต และทาวน์เฮ้าส์ 11,393 ยูนิต

ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดครึ่งหลังปี 2564 มีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งสิ้น 197,089 ยูนิต ลดลง -6.5% คิดเป็นมูลค่า 952,329 ล้านบาท โดยมีหน่วยเหลือขายจำนวน  164,9551 ยูนิต ลดลง -6.4% คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 798,600 ล้านบาท

ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 32,138 ยูนิตลดลง -7.0% คิดเป็นมูลค่าขายได้ใหม่ 153,729 ล้านบาท ลดลง -6.8% ส่งผลให้อัตราดูดซับในรอบครึ่งหลังปี 2564 ยังคงอยู่ที่ 2.7% เช่นเดียวกับช่วงครึ่งหลังปี 2563

ทำเลเด่นที่มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่สูงสุด  5 อันดับแรก ได้แก่ โซนลําลูกกา-คลองหลวง-ธัญญบุรี-หนองเสือ  โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง โซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย  และโซนหลักสี่-ดอนเมือง-สายไหม-บางเขน

ส่วนทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2565 ดร.วิชัยกล่าวว่า จากการประเมินจาก 8 ตัวแปรหลักประกอบด้วย อัตราการขยายตัวของ GDP อัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ย MRR ผลกระทบเชิญนโยบายและสถานการณ์ที่สำคัญ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อัตราดูดซับบ้านจัดสรร อัตราดูดซับอาคารชุด -กรุงเทพฯและปริมณฑล และอัตราดูดซับบ้านจัดสรร อัตราดูดซับอาคารชุดในส่วนของภูมิภาค  คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีโครงการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 83,608 ยูนิตเพิ่มขึ้น 62.2% มูลค่า 386,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.6%

ในจำนวนนี้เป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ของบ้านจัดสรรจำนวน 39,089 ยูนิต เพิ่มขึ้น 28.2% มูลค่า 209,511 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 44,519 ยูนิต เพิ่มขึ้น 111.5% มูลค่า 177,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 184.7

ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลคาดการณ์ว่าจะขายได้จำนวน 77,222 ยูนิตเพิ่มขึ้น 24.7% มูลค่า 346,389 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านจัดสรรจำนวน 35,466 ยูนิต เพิ่มขึ้น 10.4% มูลค่า 180,845 ล้านบาท คอนโดมิเนียมจำนวน 41,756 ยูนิต เพิ่มขึ้น 40.1% มูลค่า 165,544 ล้านบาท

ขณะที่จำนวนหน่วยเหลือขายยังคงเป็นตัวเลขที่น่าจับตาถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดย REIC คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2565 จะมีหน่วยเหลือขายคงค้างอยู่ในตลาดจำนวน 160,472 ยูนิต ลดลง -2.7% มูลค่า 762,810 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านจัดสรรจำนวน 91,586 ยูนิต ลดลง -10.5% มูลค่า 478,035 ล้านบาท คอนโดฯจำนวน 68,887 ยูนิต เพิ่มขึ้น 10.1% มูลค่า 284,775 ล้านบาท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*