ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาฯในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.1 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 หวั่นผลกระทบการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ดันราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลฯได้จัดทำรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ของไตรมาส 1 ปี 2565 พบว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 47.1 ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  และเป็นการกลับมามีค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 อีกครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นที่ลดลงอีกในการประกอบธุรกิจในไตรมาสนี้

โดยสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาของเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการก่อสร้าง ปัญหาภาวะเงินเฟ้อ และการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลในการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการพบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.1 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แต่ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 56.3

ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies ในไตรมาส 1 ปี 2565 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 41.1 ลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 45.5 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่ม Non-listed Companies ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในภาวะปัจจุบัน และมีความเชื่อมั่นที่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าด้วย

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 56.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 62 โดยผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นลดลงทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านต้นทุนการประกอบการซึ่งผู้ประกอบการมีความกังวลใจมากที่สุดว่าจะมีการปรับเพิ่มต้นทุนการประกอบการในอีก 6 ข้างหน้า โดยเฉพาะต้นทุนการประกอบการที่ลดลงเหลือเพียง 24.3 ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 26.5

โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 60.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.4 แต่ก็ยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 50.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.0  โดยมีความเชื่อมั่นลดลงเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านยอดขายที่กลุ่มนี้มีความเชื่อมั่นว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น จากค่าดัชนีในไตรมาสก่อน

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*