ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นได้เสมอเมื่อพื้นที่ใจกลางเมืองถูกเนรมิตรให้กลายเป็นสวนหรือพื้นที่การเกษตรกรรม

หากย้อนกลับไปนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่โดยช่วงแรกที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากคือสวนมะนาวที่เกิดขึ้นบนทำเลใจกลางพระราม 9 บนที่ดินที่มีมูลค่าสูงถึงหลักหมื่นล้านบาท ที่มีการปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์เกิดขึ้นมาก่อนและน่าจะเป็นที่ดินแปลงแรกๆที่เริ่มมีการเปลี่ยนที่ดินรกร้างให้เกิดการใช้ประโยชน์และกลายเป็นสวนมะนาวใจกลางเมือง

แล้วทำไมถึงมีการทำสวนเกิดขึ้นในพื้นที่ใจกลางเมือง

นับแต่การประกาศใช้พระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ..2562  ที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยกำหนดให้เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องเสียภาษีภายในเดือนเมษายนของทุก ปี แต่ด้วยการออกกฎหมายใหม่ ตอนนั้น ยังออกกฎหมายลูกไม่ครบทำให้มีการเลื่อนใช้ออกไปจนถึงเดือนสิงหาคมในปี 2563 ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีประกาศให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

แต่สำหรับปีนี้ 2565 ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะถูกจัดเก็บเต็มจำนวน

ซึ่งส่งผลให้ผู้ครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่ต้องชำระตามอัตราที่กำหนด

จะเห็นว่าแปลงที่ดินที่เข้าข่ายการใช้ประโยชน์ “การทำการเกษตรกรรม จะมีฐานอัตราการเสียภาษีน้อยที่สุด ทำให้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดินโดยการแปลงโฉมให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมใจกลางเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่เดี๋ยวก่อน!!! การจะทำเกษตรกรรรมใช่ว่าจะปลูกพืชเพียง 1 ถึง 10 ต้น หรือเลี้ยงสัตว์เพียงไม่กี่ตัว ก็จะถูกตีความว่าเป็นพื้นที่การทำการเกษตรแล้ว?
ซึ่งมีประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม  ต้องมีจำนวนเท่าใด? จึงจะเข้าข่ายการใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม

ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งพื้นที่ใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารสูงระฟ้า และความเจริญรุ่งเรือง ในอีกไม่ช้าอาจจะได้เห็นการทำการเกษตร ในพื้นที่เมือง()ลวงก็เป็นได้!!!

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*