พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในเครือมั่นคงเคหะการ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ภายใต้โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน รองรับดีมานด์ของลูกค้าทุกขนาด เน้นรุกขยายพื้นที่บน 3 ทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมย่านบางพลี วังน้อย และบางปะกง ตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่เช่าแตะ 1 ล้านตารางเมตรภายใน 2567 พร้อมทุ่มงบลงทุนปีละกว่า 1,500 ล้านบาท

นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทพรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในเครือบริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาและบริหารโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่คลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่าประมาณ 520,000 ตารางเมตร โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาต่อเนื่องไปถึง 1,000,000 ตารางเมตรภายใน 3 ปี(ปี 2565-2567) ใช้งบลงทุนปีละ 1,500 ล้านบาท

โดยมีโครงการที่จะเปิดให้บริการจำนวน 6 โครงการภายใต้ชื่อโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน เนื้อที่รวมกันประมาณ 1,880 ไร่ตั้งอยู่บน 3 ทำเลหลักของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย คือ  ย่านบางพลี ตอบโจทย์ธุรกิจโลจิกติกส์ โรงงานขนาดใหญ่ ย่านวังน้อย เป็นเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่สำคัญของภาคกลาง เชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางไปยังภาคเหนือและภาคอีสาน และย่านบางปะกง ที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

สำหรับโครงการแรกที่ได้เปิดให้บริการไปแล้ว คือ บางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ 1) ตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด กม.23  เนื้อที่โครงการ  993 ไร่ และมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 500,000 ตารางเมตรแบ่งเป็นพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมทั่วไป และพื้นที่ปลอดภาษีอากร ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 90%

ส่วนอีก 5 โครงการอยู่ระหว่างงดำเนินการก่อสร้าง โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิดให้บริการ 3 โครงการ คือ โครงการ BFTZ 2 ตั้งอยู่ถนนเทพารักษ์เนื้อที่ 38 ไร่ จัดสรรพื้นที่ให้เช่าจำนวน 30,000 ตารางเมตร รองรับพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมทั่วไป โครงการBFTZ 3 ตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด กม.19 เนื้อที่  139 ไร่ พื้นที่เช่า 110,000 ตารางเมตร และโครงการ BFTZ  5 ย่านวังน้อย โดยร่วมทุนกับริษัทเอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) พื้นที่ให้เช่า 120,000 ตารางเมตร  นอกจากนี้ยังเตรียมส่งมอบพื้นที่อาคารคลังสินค้า Built-to-Suit เฟสแรกให้กับกลุ่มสยามแม็คโครขนาดพื้นที่ 35,000 ตารางเมตรภายในไตรมาส 1 ปี 2566

โครงการ BFTZ 4 จะเปิดตัวในไตรมาส 1 ปี 2566  ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทสายเก่า อำเภอบางปะกง ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เนื้อที่ 530 ไร่ พื้นที่ให้เช่า 200,000 ตารางเมตรมีทั้งพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมทั่วไป และพื้นที่ปลอดภาษีอากร

โดยทั้ง 4 โครงการนี้จะใช้งบลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 13,700 ล้านบาท ส่วนโครงการ BFTZ 6  ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.19 เนื้อที่ 38 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่เขตประกอบอุตสาหกรรมทั่วไปขนาดพื้นที่ให้เช่า 40,000 ตารางเมตร  จะเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 2ปี 2566

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่เช่าพื้นที่ในโครงการ ประกอบด้วย ธุรกิจออโตโมทีฟ,ธุรกิจโลจิสติกส์,อิเล็กทรอนิกส์,อาหาร, ชิ้นส่วนรถยนต์ และรีไซเคิล ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการหลักที่เข้ามาเช่าพื้นที่ในโครงการยังเป็นกลุ่มคนไทย รองลงมาเป็นชาวญี่ปุ่น,จีน,ยุโรป,สหรัฐ และสิงคโปร์

ขณะที่ภาพรวมของตลาดคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า  นางสาวรัชนีกล่าวว่า ธุรกิจ Industrial Property จะก้าวขึ้นมาเป็น Key Player ในตลาดอสังหาริมทรัพย์  โดยเฉพาะธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป มีแนวโน้มเติบโตดีกว่ารูปแบบอื่นในทำเลที่ตั้งของของโลจิสติกส์ เช่น ในพื้นที่ EEC และ BMR เนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3-5%ต่อปี โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านบางพลี จัดเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการทางด้านโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง ทำให้ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดที่ผ่านมา บริษัทยังเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤต โดยเฉพาะผู้เช่าเดิมที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหาร มีแนวโน้มต่อสัญญาระยะยาวมากขึ้น

ดังนั้นบริษัทจึงได้ออกแบบพื้นที่การใช้งานให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยเพิ่มทางเลือกที่มากกว่าด้วยอาคารแบบ Ready Built-to-Suit การปรับอาคาร Ready Built ให้มีฟังก์ชั่นตามความต้องการของลูกค้า และพัฒนาอาคาร Built-to-Suit สำหรับรองรับธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต เช่น คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Temperature Control Warehouse), คลังสินค้าวัตถุอันตราย (DG Warehouse) เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*