เอพีฯเขื่อตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง65 ยังประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุ-แรงงานก่อสร้าง แต่ดีมานด์บ้านเดี่ยวยังมีต่อเนื่อง ยืนหนึ่งครองแชมแห่งปีโตแรงฉุดไม่อยู่ รวบกินมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุด 2 ไตรมาสสุดท้ายมูฟออนไปต่อรุกเปิดบ้านเดี่ยว 18 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 24,030 ล้านบาท เผยโฉมแบบบ้านใหม่ยกเซ็ตกับ 17 โมเดล พัฒนาขึ้นภายใต้ปรัชญา “Functional is Beautiful มากกว่าพื้นที่อยู่อาศัย แต่คือบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต” สะท้อนผ่าน 3 แนวคิด พร้อมส่งแบรนด์น้องใหม่ บ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้าน เจาะกลุ่ม Gen M และ Gen Z เน้นรุกโซนปริมณฑล มั่นใจยอดขายทั้งปีตามเป้า 38,000 ล้านบาท
นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ
นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน)หรือ AP เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง 2565 ว่า ทุกค่ายต่างประสบปัญหาในด้านการขาดแคลนวัสดุและแรงงานก่อสร้าง ที่จากวิกฤติโควิด-19 ทำให้แรงงานต่างด้าว ยังไม่กลับเข้าสู่ระบบตามปกติ ส่งผลให้เกิดปัญหาการแย่งชิงผู้รับเหมาและแรงงานก่อสร้าง ในขณะที่ดีมานด์ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวยังมีอยู่ ยอดขายยังดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนจัดกลุ่มระดับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของดีมานด์
โดยในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกธุรกิจ รวมไปถึงอสังหาฯต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่โครงการแนวราบ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวของ AP กลับมีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี 2558 – 2564) ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้ บ้านเดี่ยวของ AP จะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้

“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยว APจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่า ควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน”นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลงหรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยว AP บุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า “โมเดน” (MODEN)ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยว AP ในแบรนด์อื่นๆ

โดยในช่วงที่ผ่านมายังคงเห็นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะเทรนด์ของกลุ่มลูกค้าทาวน์เฮาส์ที่ต้องการขยับขยายบ้านเพื่ออยู่อาศัยที่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง และมีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นรวมถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมองหาการเลือกซื้อบ้านเดี่ยวมากขึ้น ทำให้บริษัทฯเล็งเห็นถึงช่องว่างของตลาดบ้านเดี่ยวระดับ 3-5 ล้านบาท ที่ยังคงมีโอกาสในการขยายกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆเข้ามาเสริม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านยอดขายและยอดโอนให้กับบริษัทและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในด้านของต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นมา มองว่าเป็นปัจจัยที่เกิดผลกระทบในชั่วคราว ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ราคาขายบ้านเดี่ยวไม่ได้รับผลกระทบมาก แม้ว่าจะเป็นโจทย์ที่มีความท้าทายสำหรับการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ที่บริษัทต้องการขยายตลาด เพราะในราคาช่วง 3-5 ล้านบาท จะต้องมีการคิดและพิจารณาในการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ เพื่อพัฒนาบ้านที่ดีและมีคุณภาพส่งมอบให้กับลูกค้า ในต้นทุนที่จำกัด เพื่อให้สามารถขายให้อยู่ในราคาช่วง 3-5 ล้านบาท แตกต่างจากบ้านหรูที่สามารถนำเงินไปพัฒนาบ้านได้อย่างเต็มที่

“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจาก ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ และไม่มีความกังวลในเรื่องยอด Reject สำหรับกลุ่มลูกค้าตลาดนี้แต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าทาง AP สามารถบริหารจัดการได้” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

ด้านยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของกลุ่มบ้านเดี่ยวสามารถทำได้ 20,572 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตขึ้นมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 และมั่นใจว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของยอดขายบ้านเดี่ยวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะทำยอดขายทั้งปีได้ไม่ต่ำกว่าเป้าหมาย 38,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน จากการเดินหน้าเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ท่ามกลางภาวะที่มีปัจจัยกดดันเข้ามา เช่น อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง แนวโน้มของทิศทางดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังเห็นความต้องการซื้อบ้านเดี่ยวในตลาดที่ยังมีความต้องการซื้ออยู่เนื่อง ทำให้เป็นแรงหนุนต่อการขายบ้านเดี่ยวในช่วงครึ่งปีหลังนี้

นางพิมพรรณ ปรีชานนท์
ด้านนางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว AP กล่าวว่า ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบันรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งาน ได้เปลี่ยนแปลงไป โควิด-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ “Home Nesting” ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน สามารถลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรับ เป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลให้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัดอีกต่อไป
ดังนั้น ในครึ่งปีหลังปี 2565 นี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว AP จึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการ มูลค่ารวม 24,030 ล้านบาท ที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ซึ่งมีที่ดินรองรับแล้วทั้งหมดประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์ ขนาดที่ดิน 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร ราคา 12-20 ล้านบาท แบรนด์ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบนขนาดที่ดิน 50-62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมตร โหมดราคา 3-5 ล้านบาท

ทั้งนี้โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2565จำนวน3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ซึ่งอยู่ในโหมดราคา 3-5 ล้านบาท

“หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม” นางพิมพรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ปรัชญา FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL ยังคงเป็นจุดยืนสำคัญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเครือเอพีทุก แบรนด์ เพื่อให้บ้านเดี่ยวเอพีเป็นบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต ภายใต้ 3 แนวคิดสำคัญที่เป็นกรอบการทำงานที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเครือเอพีประสบความสำเร็จเสมอมา ประกอบด้วย

1.Harmonious Living for All สร้างพื้นที่ส่วนตัว กับพื้นที่ของทุกคนให้เกิดขึ้น แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านเอพีที่ไม่ใช่แค่คำว่า “พื้นที่ใช้สอย” แต่เป็น “พื้นที่ที่ตอบทุกคนในบ้าน” ยกตัวอย่าง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่แค่การมีห้องนอนส่วนตัว แต่หมายถึงการออกแบบมุมต่างๆ ภานในบ้าน ให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวมได้อย่าง THE CITY ดีไซน์ใหม่ นอกจากการออกแบบพื้นที่ชั้น 1 ให้มี Double Volume เชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งแล้ว บ้านหน้ากว้างยังสะท้อนให้ทุกพื้นที่ภายในเกิดการเชื่อมต่อเข้าหากัน เป็นได้ทั้งพื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน พื้นที่รับแขก หรือโต๊ะอาหารสำหรับทุกสมาชิก บนความโล่งโปร่ง สบาย และรับแสงจากธรรมชาติ รวมถึงการรองรับเทรนด์ผู้สูงอายุ กับการจัดวางพื้นที่ห้องนอนชั้น 1 ให้ใกล้กับ จุดจอดรถ หรือครั้งแรกกับการออกแบบห้องใต้หลังคาในโครงการTHE CITY จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ถือเป็นแนวคิดในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้การอยู่อาศัยในบ้านมีสีสันมากยิ่งขึ้น

2.Spaces with Function-led Aesthetic มากกว่าความสวยงาม แต่ทุกพื้นที่คือการใช้งานได้จริง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทีมออกแบบ ด้วยการคำนึงถึงการใช้งานได้จริง ที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดวางผังโครงการ เพื่อให้เกิดเป็น Smart Space Smart Layout เช่นการจัดวางพื้นที่ในบ้านแบรนด์ CENTRO ดีไซน์ใหม่ ที่เปลี่ยนวิธีคิดในการจัดวาง 3 ฟังก์ชันหลักในชั้น 1 อย่างพื้นที่จอดรถ พื้นที่เก็บของนอกบ้าน และมุมมองทางเข้าบ้านใหม่ จนเกิดพื้นที่ใช้สอยในมิติใหม่จากพื้นที่ที่ทับซ้อนอยู่ หรืออย่างแบบบ้านแบรนด์ MODEN พื้นที่ภายในบ้านมีการออกแบบพื้นที่ส่วนชั้น 2 ให้เป็น Pocket Space เชื่อมต่อกับ Family Area ซึ่งลูกค้าสามารถปรับพื้นที่ในมิติใหม่ๆ เพื่อรองรับกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด

3.Meaningful Innovations for Life การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัย เพื่อสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต แนวคิดนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่านวัตกรรม คือการเพิ่มความลงตัวให้การใช้ชีวิต จนนำมาสู่คอนเซ็ปต์ HYBRID LIVING ที่ถูกผสมผสานเข้าไปในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวเอพี ทั้งเรื่องของ Security นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน Comfort นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายกับระบบสั่งการอัจฉริยะCost-saving นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง Community นวัตกรรมที่ดูแลคอมมูนิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง

“การตอบรับที่ดี ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญของทีมมาก เพราะเรามั่นใจว่า เราเป็นแบรนด์ที่พัฒนาบ้านอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เรามองว่า ไม่ใช่แค่การได้มาซึ่งที่ดิน และนำแนวความคิดเดิมแบบบ้านเดิมมาสร้างเพื่อขาย แต่เราให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านใหม่ พื้นที่ใช้สอยหน้าตาความสวยงาม ต้องไปพร้อมกับบริบทของโลเคชั่นนั้นจริงๆ รวมถึง เราศึกษาเรื่องเทรนด์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดมา เราศึกษาพฤติกรรม ความต้องการของวันนี้ ลึกลงไปเรื่อยๆ ลึกไปถึงการใช้พื้นที่ในบ้าน ว่าแต่ละสมาชิกในครอบครัวเค้าจะสามารถมี connected space, private space ที่ลงตัวที่สุดได้อย่างไร”นางพิมพรรณ กล่าว

สำหรับในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา ราคาเริ่มต้นที่ 12-20 ล้านบาท จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท ได้แก่

1.CENTRO ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ 3 จำนวน 151 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 9-15 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท

2.CENTRO สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ3 จำนวน 38 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 9.5-12 ล้านบาทมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท

3.CENTRO พหลฯ-วิภาวดี3 จำนวน 222 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 6-9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ1,320 ล้านบาท

4.CENTRO บางบอน จำนวน 174 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 10.9-18 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท

5.CENTRO เพชรเกษม 69 จำนวน 285 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 6.99-11 ล้านบาท มูลค่าโครงการ2,000 ล้านบาท

“AP พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดีคือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เค้าเป็นลูกบ้าน APเป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านAP THE NEIGHBOR MINI SERIES #ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน ปีนี้ได้ยกทัพคนดังและเหล่าYouTube ลูกบ้านAP ตัวจริง เช่น ปุ้มปุ้ย-กวินท์, ส้ม-มารี, มาร์ช จุฑาวุฒิ, ณัฏฐ์ เทพหัสดิน, นับเงิน, เบียร์ เดอะ วอยซ์, กัปตัน-ควินท์, มด-ณปภัช ที่จะมาเปิดบ้าน และครั้งแรกที่พวกเค้าจะได้เข้าไปทัวร์สเปซในบ้าน Virtual Home พร้อมเปิดประตูความสุขแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่www.ap.com/home และ Facebook APThai Home”นางพิมพรรณ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*