แปลงที่ดินกว่า 3 ไร่ ถูกเนรมิตให้กลายเป็นคอนโดฯหรูใจกลางสาทร ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่ตอนนี้ผ่าน EIA เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองร่วมกับการผสมผสานความเป็นธรรมชาติ ใส่ใจรายละเอียด พิถีพิถันในทุกตารางนิ้วเพื่อมอบสุทรียภาพแห่งการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นี่คือ “125 SATHORN” ( 125 สาทร)

125 สาทร มีที่มาจาก “บ้านเลขที่” ที่มีความมงคลตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย ซึ่งทางโครงการออกแบบโลโก้สัญลักษณ์โดยใช้ลายเส้นแฝงเป็นตัวเลข 125 ที่สร้างความโดดเด่นสะดุดตาให้กับผู้ที่พบเห็น โดยถูกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลทองใจกลางสาทร ที่มีหน้ากว้างถึง 97 เมตร ติดถนนใหญ่สาทรใต้ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยเป็นบริษัทร่วมทุนจาก 3 ค่ายใหญ่ ได้แก่  บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)(TTA) บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ (KRD) และบริษัท โทเรคอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC) ในสัดส่วน 60 : 30 : 10 ตามลำดับ

โครงการตั้งใจพัฒนาให้กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่บนถนนสาทร โดยออกแบบเป็นอาคารสูง 36 ชั้น 2 อาคาร ได้แก่ “Park-View Residences” และ “City-View Residences” รังสรรค์และถ่ายทอดทั้ง 4 อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดู ไม่ว่าจะเป็น ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ส่งผลต่อการเลือกใช้สี วัสดุ และองค์ประกอบทางธรรมชาติ ผสาน การออกแบบ โดยคำนึงประโยชน์ใช้สอยในทุกฟังก์ชั่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เพื่อผสานธรรมชาติเข้ากับการอยู่อาศัยของคนเมือง บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,500 ตร.ม. และเป็นโครงการที่รวมสุดยอดบริษัทผู้พัฒนาและออกแบบสถาปนิกชั้นนำระดับโลกไว้ด้วยกัน นั่นคือ Palmer & Turner Group (P&T) บริษัทสถาปนิกที่ปรึกษาโครงการ, Design Worldwide Partnership (DWP) บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน และ TROP บริษัทออกแบบภูมิทัศน์ ที่ร่วมกันเนรมิตให้ 125 สาทร กลายเป็น สถาปัตยกรรมชิ้นเอกระดับ Flagship และดีที่สุดอีกหนึ่งโครงการบนทำเลใจกลางเมือง สนใจลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ https://www.125sathorn.com/ สอบถามเพิ่มเติมโทร 091-125-8558

ชื่อโครงการ : 125 สาทร (125 Sathorn)

บริษัท : บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

พื้นที่โครงการ : 3-1-25 ไร่

ประเภทโครงการ : คอนโดฯ High Rise ความสูง 36 ชั้น
จำนวน 2 อาคาร ที่ดิน Free Hold

จำนวนยูนิต : 755 ยูนิต

ประเภทยูนิต : 1 Bedroom ขนาด 28.55 – 43.70 ตารางเมตร
2 Bedroom ขนาด 59.70 – 103.85 ตารางเมตร
3 Bedroom ขนาด 120.15 – 152.45 ตารางเมตร
4 Bedroom ขนาด 178.35 – 178.90 ตารางเมตร
Duplex Penthouse ขนาด 163.60 – 330.60 ตารางเมตร
Penthouse ขนาด 260.75 – 282.85 ตารางเมตร

ที่จอดรถ : 57% หรือ 433 คัน
ที่จอดรถอัตโนมัติ 275 คัน
ที่จอดรถทั่วไป 158 คัน

ราคาเริ่มต้น : 6.5 ล้านบาท* Fully Fitted

ก่อสร้าง : ไตรมาส 3-4 ปี 2565

คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จ :ปี 2569

ลิงค์ลงทะเบียน : www.125Sathorn.com

Project Highlight

โครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองอย่างแท้จริง

โครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางย่าน CBD ที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน การเดินทาง และความอุดมสมบูรณ์ของร้านอาหารระดับหรูที่มีเลือกสรรได้ตามความต้องการ โดยตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 3 ไร่ติดถนนใหญ่สาทร ห่างจาก BTS ช่องนนทรีเพียง 500 เมตรเท่านั้น ซึ่งทำให้การเดินทางสะดวกทั้งขับรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้า อีกโครงการมีหน้ากว้างติดถนนหลักยาวกว่า 97 เมตร ที่แทบจะกว้างที่สุดบนถนนสาทร ที่ถือเป็นย่าน Prime Location และขายกรรมสิทธิ์แบบ Free Hold ที่นับวันจะหาที่ดินยากขึ้นเรื่อยๆบนทำเลแห่งนี้

ราคาที่จับต้องได้ รูปแบบห้องพักสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามการใช้งานของผู้อยู่อาศัย

แม้จะเป็นโครงการระดับลักซ์ชัวรี่แต่พัฒนาออกมาในราคาที่จับต้องได้โดยเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท* หรือเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 250,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้และได้ห้องพักที่มีขนาดสมเหตุสมผลกัน โดยห้องเริ่มต้นประมาณ 28.55 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่แบบ Penthouse ที่ 282.85 ตารางเมตร โดยห้องพักอาศัยมีพื้นที่ ที่ Flexible สามารถปรับเปลี่ยน ดัดแปลงตามการใช้งานของผู้พักอาศัย ที่เลือกได้ว่าจะออกแบบหรือทำพื้นที่ต่างๆให้เหมาะสมตามการใช้งาน

ความเป็นเอกลักษณ์ของ 125 สาทร

อีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความโดดเด่นให้เกิดขึ้นกับ 125 สาทร คือตัวอาคารที่ตั้งสูงโดดเด่นบนทำเลสาทร โดยมีลักษณะคล้ายตึกแฝด 2 อาคารที่ถูกเรียกชื่อต่างกันคือ City-View Residences และ Park-View Residences ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จราวปี 2569 จะทำให้ตัวอาคารโดดเด่นด้วยความสูง 36 ชั้น ทำให้มองเห็นได้ทั้งวิวเมืองและวิวสวนลุม สวนเบญจกิตติ รวมทั้งวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาและข้ามมายังฝั่งธนบุรี ซึ่งด้านหน้าโครงการจะไม่มีอาคารใดมาบดบังทัศนียภาพเนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่ตอนนี้ได้รับการอนุมัติ EIA แล้ว

ส่วนกลางกว่า 4,500 ตารางเมตร

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,500 ตารางเมตร ให้เกิดขึ้นภายในโครงการ 125 สาทร โดยนำข้อมูล Insight จากการศึกษาถึงพฤติกรรมผู้บริโภคมาออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองร่วมกับธรรมชาติเข้าด้วยกัน

โดยโครงการรังสรรค์พื้นที่สีเขียวภายในโครงการเพื่อรองรับการพักผ่อนในวันสบายๆ การทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน รวมทั้งเพิ่มความสดชื่นให้เกิดขึ้นภายในโครงการ

FACILITIES

ตัวโครงการถูกพัฒนาและออกแบบขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดผ่านข้อมูลที่ได้ทำการศึกษาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้พื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,500 ตารางเมตร ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยพื้นที่มีความ Flexible สูง สำหรับการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัว เพื่อช่วงเวลาสุดพิเศษในบ้านหลังนี้ให้มากที่สุด ตอบรับทั้งการทำงาน พบปะสังสรรค์ส่วนตัว ปิกนิก เป็นต้น ที่เปิดรับวิวเมืองและรื่นรมย์กับทัศนียภาพของใจกลางสาทร ทำเลที่สุดแห่งย่านของการอยู่อาศัยแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย

ชั้น G, ชั้น 2
• Spring & Autumn Lobby
• ส่วนต้อนรับ- Reception
• ห้องบริการรับ-ส่งพัสดุและล็อกเกอร์ -Delivery Area & Smart Locker
• สวนรับรอง – Tea Garden Lounge
• ลานเอนกประสงค์ 125 – 125 Courtyard
• เรือนต้นกล้า – Green house Nursery
• สนามเด็กเล่น – Adventure Playground
• สนามบาสเก็ตบอล – Basketball Court
• ห้องแม่บ้าน – 125 Maids Quarter

พื้นที่ให้บริการชั้น 5
• สระว่ายน้ำขนาด 50 เมตร – 50 m. Swimming Pool
• พูล คาบาน่า & พาวิลเลียน – Pool Cabana & Pavilion
• สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก – Kids Water Zone
• สปาและซาลอน – Spa & Salon
• ห้องอบไอน้ำและเซาว์น่า – Steam & Sauna
• ฟิตเนสคลับ – Fitness Club
• ห้องดนตรี – Writers’ Music Room
• Co-Working & ห้องสมุด – Co-Working & Library
• ห้องเอนกประสงค์ (ห้องโยคะ / ห้องจัดเลี้ยง) – Multi-Purpose Room (Yoga Room / Banquet)

พื้นที่ให้บริการชั้น 32, ชั้น 35
• โซเชียลคลับ – Social Club
• พื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก – Little Genius Kids Corner
• พื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งอเนกประสงค์ – Outdoor Private Deck
• Twilight Sky Deck

พื้นที่ชั้นดาดฟ้า ชั้น 36 – 125 คลับเฮ้าส์
• ฮาบิตะ ไดนิ่ง เฮาส์ & สระว่ายน้ำส่วนตัว- Habita Dining House & Private Pool
• ห้องคาราโอเกะและโรงภาพยนตร์ส่วนตัว – Sky View Entertainment with Karaoke & Private Theatre
• ลานบาร์บีคิว – BBQ Deck & Garden
• กรีนพัตต์กอล์ฟ – Golf Putting Green
• สวนกลางแจ้งแบบพาโนรามา – Amphitheatre
• จุดชมวิวแบบพาโนรามา- Sky Panoramic Viewpoint

FLOOR PLAN

ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลูกบ้าน ความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 125 Sathorn ที่ทางโครงการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดสอดรับกับการใช้ชีวิตร่วมกันของความเป็นธรรมชาติกับวิถีชีวิตของคนเมืองทำให้ผู้พักอาศัยแทบไม่จำเป็นต้องออกไปใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนอก เพราะทางโครงการได้จัดเตรียมให้อย่างครบครัน

พาชมห้องตัวอย่าง โครงการ 125 สาทร

แม้จะเป็นโครงการระดับ Luxury แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่เพียง 6.5 ล้านบาท* ทำให้เป็นราคาที่เอื้อมถึงสำหรับกลุ่มคนวัยทำงานตั้งแต่ระดับ Manager ขึ้นไป ตอบรับการใช้ชีวิตในเมืองที่ลงตัวทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิตโดยโครงการขายห้องชุดแบบ Fully Fitted ซึ่งมีข้อดีคือสามารถแต่งห้องได้ตามความชอบสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือสั่งทำขึ้นเฉพาะตัวทำให้ห้องดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และสร้าง Value เพิ่มขึ้น

***สำหรับแบรนด์ต่างๆที่ทางโครงการให้จะได้ตามที่ห้องตัวอย่างติดตั้งให้ดูหรือเป็นแบรนด์เทียบเท่า เนื่องจากปัจจุบันโครงการยังไม่ได้ก่อสร้างและในอีก 4 ปีข้างหน้าอาจมีแบรนด์ใหม่ออกมาที่มีการพัฒนาคุณสมบัติที่ดีกว่าโดยทางโครงการอาจเลือกเปลี่ยนหรือติดตั้งแทนเพื่อให้ลูกค้าได้ความทันสมัยและของดีที่สุดถือเป็นกำไรที่มอบให้กับทางลูกค้าเพื่อให้มั่นใจได้ว่า 125 สาทร จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง***

สำหรับห้องตัวอย่างโครงการติดตั้ง Digital Door Lock ของ Dormakaba (หรือแบรนด์เทียบเท่า) มาให้ ที่นอกจากดูสวยหรูแบบ Minimal แล้ว ยังคงมีความแข็งแรงโดยสามารถเข้า-ออกได้ถึง 5 ระบบ ได้แก่ กดรหัส , สแกนลายนิ้วมือ , ใช้บัตรหรือคีย์การ์ด , ผ่านแอปพลิเคชั่นจากโทรศัพท์มือถือหรือ Bluetooth Function การมีระบบให้เลือกมากถึง 5 ระบบจะช่วยสำหรับคนลืมง่ายคือสามารถเลือกใช้ผ่านฟังก์ชันใดฟังก์ชันหนึ่งก็ได้ทำให้ไม่เสียเวลา

ชุดครัวทางโครงการติดตั้ง Hob&Hood จาก Kuppersbusch (หรือแบรนด์เทียบเท่า) พร้อม Microwave+Oven จาก Kuppersbusch (หรือแบรนด์เทียบเท่า) เช่นกัน โดยแบรนด์ที่ทางโครงการให้ถือว่าเลือกใช้แบรนด์ที่สมราคาซึ่งเป็นแบรนด์จากเยอรมนี ตอบโจทย์ทั้งงานครัวและงานดีไซน์ ฟังก์ชันและเทคโนโลยีต่างๆ อย่างลงตัว ติดตั้งตู้เก็บของที่รองรับสำหรับการใช้งานมาให้พร้อม สำหรับเคาเตอร์ครัวทางโครงการเลือกใช้หินสังเคราะห์ซึ่งเป็นวัสดุที่มีราคาสูง คุณสมบัติทนทานกว่าหินธรรมชาติ ไม่ดูดซึมน้ำ ทำความสะอาดง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในครัว Backsplash กรุด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน เนื้อกระเบื้องมีความแข็งแรง ไม่แตกง่าย ทนต่อการขูดขีด และสามารถรักษาความสะอาดได้ง่าย

ห้องน้ำทางโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ของ Kohler (หรือแบรนด์เทียบเท่า) มาให้พร้อม โดยได้ตามแบบห้องตัวอย่างทั้งหมด ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ทางโครงการติดตั้งกระจกกั้นอาบน้ำแบบนิรภัยให้พร้อมเพื่อแยกพื้นเปียกกับพื้นที่แห้งออกจากกันช่วยในเรื่องของความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังติดตั้ง Home Automation มาให้ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีหลายโครงการที่เลือกใช้เทคโนโลยี Home Automation เพื่อคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่ เปิด-ปิดไฟ เป็นต้น หรือสำหรับคนที่กำลังเดินทางจะถึงบ้านแล้วมีความเหนื่อยล้า อาจะเปิดแอร์รอไว้ก่อน เมื่อมาถึงบ้านก็ได้รับแอร์เย็นสบายสร้างความสดชื่นทันทีเมื่อมาถึง

1 Bedroom ขนาด 35.00 SQ.M.

เมื่อเปิดประตูเข้ามาพื้นที่โซนแรกจะเป็น Pantry หรือครัว แบบเปิด ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตของคนเมือง โดยส่วนใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตของคนเมืองจะนิยมทำอาหารง่ายๆเน้นความสะดวกและรวดเร็ว เพียงแค่อุ่น หรือทำร้อน พร้อมรับประทานก็ถือว่าเพียงพอ

พื้นที่ด้านหลังทางโครงการบิวท์อินตู้มาให้พร้อมใช้งานซึ่งสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้า จุดวางอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ รวมทั้งพวกอุปกรณ์งานบ้านได้ด้วย ซึ่งตู้ที่บิวท์อินให้เป็นแบบเต็มพื้นที่ คือจากพื้นถึงฝ้า นอกจากนี้ทางโครงการเตรียมจุดวางเครื่องซักผ้าไว้ให้แบบช่องเปิด ซึ่งสามารถบิวท์หน้าบานเพิ่มเองได้จะทำให้กลายเป็นตู้ที่ซ่อนเครื่องซักผ้าไว้และดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม

สำหรับห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามกับครัวที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ข้อดีคือในกรณีที่มีแขกหรือเพื่อนมาหาที่ห้อง สามารถให้เข้าทางห้องนั่งเล่นได้เลย ซึ่งช่วยคงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของห้องได้ ทางโครงการติดตั้งกระจกกั้นอาบน้ำมาให้แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุและกันลื่นได้ดี พื้นที่อาบน้ำเจาะช่องวางสุขภัณฑ์ทำความสะอาดที่นอกจากความสวยงามแล้วในแง่ของการใช้งานถือว่าเหมาะสมและลงตัวมาก

ถัดมาด้านในจะเป็นพื้นที่ living area ที่มีความสูง 3 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พื้นเป็น Hybrid Engineering Wood โดยพื้นที่ในส่วนนี้สำหรับการอยู่อาศัยจริงแล้วสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานของผู้พักอาศัย โดยเลือกที่จะทำให้มีพื้นที่กว้างขวางขึ้นด้วยการลดขนาดโต๊ะรับประทานให้เล็กลง หรือดัดแปลงเป็นการใช้งานร่วมกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารกับพื้นที่ทำงานก็สามารถทำได้ จุดวางโซฟามีระยะห่างราว 2-3 เมตร ซึ่งเหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาดประมาณ 43 นิ้ว ในระยะสายตาที่กำลังพอดี

ทางโครงการติดตั้งกระจกขนาดใหญ่แบบเต็มบานมาให้เพื่อเปิดรับแสงจากธรรมชาติ แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเพื่อลดความร้อนจากแสงในช่วงเวลากลางวันลง เปิดรับเฉพาะแสงอ่อนช่วงเช้าหรือเย็นแทนจะช่วยระบายความชื้นและลดกลิ่นจากการใช้ห้องพักอาศัยทำให้รู้สึกปลอดโปร่งขึ้น

ห้องนอนมีขนาดพื้นที่ที่สามารถเลือกวางเตียงได้ทั้งแบบ Queen Size หรือ King Size ขึ้นอยู่กับความชอบโดยปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีเพิ่มได้สำหรับคนชอบดูหนัง และด้านข้างยังมีพื้นที่เหลือ ที่จะสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งตัว เพื่อเช็คความสวยของคุณผู้หญิงก่อนออกไปใช้ชีวิตได้ รวมทั้งยังสามารถทำเป็นพื้นที่ walk-in closet เล็กๆ สำหรับการแต่งตัวซึ่งจะมีพื้นที่เชื่อมกับห้องน้ำพอดี

พื้นที่ด้านนอกจะเชื่อมต่อกับระเบียงทางโครงการจึงเลือกติดตั้งกระจกแบบบานสไลด์เต็มบานที่สามารถเปิดออกไปชมวิวเมืองย่านสาทรได้แบบเต็มตา

ทางโครงการติดตั้งแอร์แบบ Concealed Type ซ่อนเพดาน ทำให้ดูสวยงาม เรียบร้อย ไม่เห็นตัวแอร์ลอยตัว หรือสะดุดตาออกมา ผนังจริงที่ทางโครงการให้จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีพื้นที่เป็นมาตรฐานของทางโครงการ

2 Bedrooms 69.90 Sq.m.

สำหรับห้อง 2 Bedroom Type นี้ นอกจากพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของพักอาศัยแล้ว พื้นที่ในส่วนต่างๆค่อนข้างมีความ Flexible สูงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน โดยพื้นที่ส่วนแรกจะมีลักษณะคล้ายกันกับห้อง Type ที่แล้วคือ จะเป็นโซน Pantry และด้านหลังบิวท์อินเป็นตู้เก็บของ หรือรองเท้า และห้องน้ำที่ยังคงเป็นแบบ Double Access คือสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น สามารถติดตั้งฉากหรือกระจกกั้นทำเป็นครัวแบบปิดได้ที่ยังคงให้ความรู้สึกไม่อึดอัดมาก โดยทางโครงการออกแบบมาให้เป็นไอเดียได้อย่างเป็นระเบียบมากๆ ซึ่งจะช่วยลดกลิ่นจากการประกอบอาหารและเป็นสัดส่วนขึ้น ทำให้ห้องมีลักษณะเป็นแบบ Double Door หรือ ประตู 2 ชั้น ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในห้องได้ดีและประหยัดแอร์ลง

โดยพื้นที่นั่งเล่น หรือ Living Area ยังคงติดกับกระจกขนาดใหญ่เต็มบาน ซึ่งสามารถทำออกแบบเป็นเตียงแบบ Day Bed ที่สามารถ มานั่งหรือนอนเล่น ในวันสบายๆก็ทำให้ดูเก๋ไปอีกแบบ หรือจะออกแบบเป็นโต๊ะบาร์ทรงยาวที่สามารถใช้งานร่วมกันระหว่างพื้นที่ทำงานกับการรับประทานอาหาร ไปพร้อมๆกับการชมวิวเมือง

จะเห็นว่าโครงการค่อนข้างใส่ใจในเรื่องของแสงธรรมชาติ ที่เลือกติดตั้งกระจกขนาดใหญ่แบบเต็มบานมาให้เพื่อเปิดรับแสงสว่างให้ส่องถึงภายในห้องพักช่วยให้ไม่อึดอัดและห้องดูสว่างอยู่ตลอดเวลา

ห้องนอนเล็ก ทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่างโดยตกแต่งเป็นห้องนอนของคุณหนูๆ ที่บิวท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมใช้งานและเชื่อมต่อกับห้องน้ำในส่วนแรก สำหรับครอบครัวที่ยังไม่มีลูกเล็กสามารถดัดแปลงเป็นห้องแต่งตัว หรือ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ได้สบายๆ หรือสำหรับช่วง work from home พื้นที่ส่วนนี้สามารถทำเป็นห้องทำงานที่อย่างลงตัว หรือสำหรับสายนักสะสมจะเปลี่ยนแปลงบิวท์อินแล้วใช้วางของสะสมโชว์ก็จะทำให้ดูเหมือนยกร้านแบรนด์ดังๆมาไว้ในห้องเลยทีเดียว

พื้นที่ระหว่างห้องนอนเล็กกับ Master Bedroom จะมีพื้นที่เหลือที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์ทางโครงการวางเป็นมุมทำงานไว้ให้ดู หากใครที่ต้องการพื้นที่ห้องนอนเล็กที่ใหญ่ขึ้นแนะนำให้ combine ทำเป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกัน โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถบิวท์เป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้แบบเต็มผนัง หรือหากเป็นครอบครัวที่มีลูกเล็กสามารถทำเป็นชุดโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับเด็กๆก็ได้

ไฮล์ไลท์คงหนีไม่พ้นห้อง Master Bedroom ซึ่งห้อง type นี้จะได้เป็นกระจกเข้ามุม ทำให้เปิดรับวิวได้กว่า 270 องศา สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้แบบเต็มพื้นที่แล้วยังมีพื้นที่เหลือๆ ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด มีพื้นที่ด้านข้างเหลือที่สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานได้ หรือถ้าสำหรับคุณผู้หญิงที่มีเสื้อผ้าเยอะจะบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเพิ่มแบบเต็มพื้นที่เพื่อรองรับการใช้งานก็ได้เช่นกัน

จัดเตรียมพื้นที่ walk-in Closet ให้พร้อมใช้งานที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน โดยห้องน้ำความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือมีอ่างอาบน้ำมาให้ซึ่งเลือกใช้แบรนด์ Kasch (หรือแบรนด์เทียบเท่า) ที่สามารถเลือกได้ว่าจะอาบน้ำแบบปกติหรือแช่อ่างผ่อนคลายในวันที่เหนื่อยล้าก็ได้เช่นกัน อ่างล้างหน้าออกแบบเป็นแบบ His&Her ที่รองรับการใช้งานพร้อมๆกันทั้ง 2 คนโดยไม่ต้องรอกันกับช่วงเวลาที่เร่งรีบสำหรับคนเมือง

โครงการ 125 Sathorn  ถูกพัฒนาขึ้นบนทำเลติดถนนสาทรใต้ บนที่ดินฟรีโฮลด์ ที่ปัจจุบันถือเป็นทำเลที่หาแปลงที่ดินได้ยากขึ้นในทุกวัน การที่จะพัฒนาโครงการพักอาศัยใหม่ให้กลาย Iconic Residential ผู้พัฒนาโครงการอย่าง พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (PMT)  จึงคัดเลือกทุกอย่างด้วยความใส่ใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาตลอดจนห้องพักอาศัยของลูกบ้านในแต่ละวัน เพื่อทำให้ 125 สาทร กลายเป็น Landmark ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางย่าน CBD แห่งนี้ สนใจลงทะเบียน https://www.125sathorn.com/ สอบถามเพิ่มเติมโทร 091-125-8558

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*