พราว เรียล เอสเตทฯ ตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ปีนี้ แนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 65 ส่งสัญญาณดี ทยอยรับรู้รายได้การโอน อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน คอนโดมิเนียมระดับ World Class Branded Residences ดันรายได้โต พลิกทำกำไรไตรมาส 3/65 สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/65 รายได้ 110 ล้านบาท โต 100 % ขาดทุนสุทธิ 19.9 ล้านบาท ขณะที่โครงการ “เวหา” คอนโดมิเนียม ได้รับกระแสตอบรับดี เล็งโอกาสขยายธุรกิจ เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ระดับลักชัวรี่ สู่ทำเล CBD กรุงเทพฯ
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ส่งสัญญาณดี มีแนวโน้มเทิร์นอะราวด์ทั้งรายได้และกำไร จากการทยอยรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์โครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” มูลค่า 3.81 พันล้านบาท จำนวน 238 ยูนิต ปัจจุบัน มียอดขายแล้ว 92.5% หรือมูลค่ารวม 3,495 ล้านบาท ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 38% เริ่มทยอยโอนเข้ามาตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของมิถุนายนและจะเข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง สำหรับรายได้ 110 ล้านบาทที่เกิดขึ้นเป็นเพียง 2.9% ของมูลค่าโครงการ (8 ยูนิตจาก 238 ยูนิต) โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าปิดการขาย และการโอนเสร็จสิ้นภายในปี 2565 ปัจจุบันมียอดขายรอโอนแล้ว (backlog) 2,857 ล้านบาท คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัว และสามารถล้างขาดทุนสะสม พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3/2565

ขณะที่ โครงการ “เวหา” (VEHHA)  คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ มูลค่าโครงการราว 2.29 พันล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 364 ยูนิต เริ่มเปิดขายในช่วงเดือนกรกฎษคม 2565 มีกระแสตอบรับที่ดี โดยบริษัทเจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นหลักราว 80% และส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ หลังจากเปิดตัวพบว่ากลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียและสแกนดิเนเวีย โดยจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2565 และจะแล้วเสร็จไตรมาส 2/2568 บริษัทตั้งเป้ายอดขายภายในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 50%

นอกจากนี้ บริษัทเล็งโอกาสขยายธุรกิจ มีแผนพัฒนา 2 โครงการใหม่ระดับลักชัวรี่ สู่ทำเล CBD  (Central Business District)  ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจกรุงเทพฯ  ที่ยังคงซึ่งเอกลักษณ์ “MORE THAN JUST LIVING” ของ PROUD ที่เป็นมากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็น ”รูปแบบการใช้ชีวิต” ที่ทำให้ผู้คนและสังคมโดยรอบดียิ่งขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม และขยายฐานการสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น“

คาดว่าช่วงครึ่งหลังปี 2565 กำลังซื้อกลุ่มลูกค้าอสังหาฯระดับลักชัวรี่ในประเทศ ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ภายหลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศ ประกอบกับ การฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในไทย จะดึงดูดชาวต่างชาติกำลังซื้อสูง อาทิ ชาวจีน รัสเซีย และกลุ่มชาวต่างชาติ ที่ต้องการที่พักอาศัยช่วงวัยเกษียณ หรือ พักระยะยาว สามารถเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทย  ส่งสัญญาณให้กำลังซื้อตลาดอสังหาฯในประเทศกลับมาสู่ปกติ” นายภูมิพัฒน์ กล่าว

สำหรับไตรมาส 2/265 บริษัทมีรายได้รวม 110 ล้านบาท โต 100 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ไม่มีการรับรู้รายได้ เนื่องจากเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ และมีขาดทุนสุทธิ 19.9 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ขาดทุนสุทธิ 38.3 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการในส่วนของรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการขายและทยอยส่งมอบโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” อย่างต่อเนื่อง คาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะได้เห็นกำไรอย่างเด่นชัด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*