แอสเซทไวส์ฯเดินหน้ารุกอสังหาฯทุกเซกเมนต์ ทั้งพัฒนาเองและร่วมทุน ประสบความสำเร็จมาแล้ว 44 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 46,700 ล้านบาท ไตรมาส 4/65 จ่อผุดคอนโดฯบ้านเดี่ยว 2 ทำเล ล่าสุดเร่งเครื่องเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส“ไวส์พาร์ค มีนบุรี”มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท  หวังเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ย่านมีนบุรี
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะรุกขยายธุรกิจอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวสูงและแนวราบครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมไปถึงพัฒนาเองและร่วมทุนกับพันธมิตรชาวต่างชาติ ซึ่งในช่วง 9 ปี ที่ผ่านมาบริษัทฯพัฒนาไปแล้ว 44 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 46,700 ล้านบาท

สำหรับในครึ่งปีหลังนี้มีแผนที่จะเปิดตัวใหม่อีกอย่างน้อย 2 โครงการ คือ “เคฟ ยูนิเวิร์ส” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ตรงข้ามมหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี พัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯ จำนวน 200 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 4/2565

ส่วนอีกโครงการคือ “เอสต้า รังสิต คลอง 2พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว จำนวนประมาณ 155 ยูนิต ราคาประมณ 5-7 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 700-800 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวประมาณเดือนตุลาคม 2565 นี้

นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการขยายตัวของเมืองกรุงเทพฯ มีการรขยายออกไปในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะย่านมีนบุรี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยศักยภาพ ทั้งด้านปัจจัยการอยู่อาศัย แหล่งงาน และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมาย จนได้รับการขนานนามว่า เป็นย่าน The Next CBD ศูนย์กลางแหล่งงานและธุรกิจของเมือง รอบนอกฝั่งตะวันออกของกรุงเทพแห่งใหม่ในอนาคต โดยบริษัทฯได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสครบวงจรแห่งใหม่ “ไวส์พาร์ค มีนบุรี” (WISEPARK Minburi) บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการมิงเกิ้ล มอลล์ (Mingle Mall) คอมมูนิตี้มอลล์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย, โครงการแอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี (Atmoz Flow Minburi) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท, WISEPARK PAVILION, LINEAR GARDEN พื้นที่สีเขียวในโครงการกว่า 12 ไร่

 

โดยโครงการ “แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี” (Atmoz Flow Minburi) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 739 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท  ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30%

 

ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ “มิงเกิ้ล มอลล์” (Mingle Mall)จะใช้งบในการลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 8-10 ปี

นอกจากนี้ภายใน“ไวส์พาร์ค มีนบุรี” ยังมีโครงการมิกซ์ยูส อีก 1 อาคาร ประกอบด้วย ส่วนของสำนักงานเพื่อการขาย สัดส่วน 10-15% จากจำนวนยูนิตทั้งหมด โดยเน้นกลุ่มลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี หรือ ธุรกิจขนาดย่อม ถือเป็นไลฟ์สไตล์ที่กระจายออกมานอกเมืองในอนาคต และต้องเป็นราคาที่เหมาะสมกับตลาด และส่วนที่เหลือจะเป็นการพัฒนาคอนโดฯ แบรนด์ “โมดิซ” ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้

“เรามั่นใจว่าไวส์พาร์ค มีนบุรี จะเป็นจุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บนย่านมีนบุรี ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร และนับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค รวมทั้งยังเป็นการสร้างขยายโอกาสการเติบโตในการทำธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าได้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์ กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*