กลุ่มชินวะฯเผยทิศทางการลงทุนยังเน้นพื้นที่กทม.และหัวเมืองท่องเที่ยว ล่าสุดสนใจซื้อที่ดินผุด Villa Sea View เจาะตลาดลูกค้าต่างชาติ คาดสรุปผลการซื้อขายที่ดินได้ประมาณไตรมาส 4/65 ทั้งเตรียมปรับแผนนำห้องชุดโครงการ“รูเนะสุ ทองหล่อ 5”ที่ลูกค้าจีนทิ้งดาวน์ สัดส่วน 30% มูลค่าขาย 250 ล้านบาท กลับมารีเซลใหม่ราคาเดิมในปลายปี 65 มั่นใจปีหน้ากวาดยอดขาย 500 ล้านบาท
นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล
นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป จากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นว่า ยังคงเดินหน้าลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเน้นการพัฒนาในพื้นที่ กทม.สัดส่วน 90% เน้นอยู่ในรัศมีศูนย์กลางธุรกิจ(ซีบีดี) ซึ่งทางบริษัทชินวะฯมีที่ดิน(แลนด์แบงก์)รองรับการพัฒนาแล้ว  และหัวเมืองท่องเที่ยว 10% ซึ่งมีที่ดินสะสมในพื้นที่เขาใหญ่แล้ว 1 แปลง พื้นที่เกือบ 10 ไร่ และยังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินอีก 2 แปลง คือที่ภูเก็ต และ ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยแนวโน้มจะเป็นการพัฒนาโครงการในภูเก็ตมากกว่าที่เขาใหญ่ เนื่องจากตลาดต่างชาติเริ่มกลับมาหลังจากที่โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งสนใจพัฒนาในรูปแบบของ Villa Sea View ที่เน้นลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยหากพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ก็จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ คาดว่าจะสามารถสรุปผลการซื้อขายที่ดินได้ประมาณไตรมาส 4/2565

สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมนั้น มองว่าในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 พบว่าลูกค้าชาวจีนที่ซื้อห้องชุดในโครงการ “รูเนะสุ ทองหล่อ 5” (Runesu Thonglor 5) สัดส่วนประมาณ 30%  คิดเป็นจำนวนกว่า 20 ยูนิต มูลค่าขายประมาณ 250 ล้านบาท จากทั้งโครงการที่มีจำนวน 156 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ซึ่งได้วางเงินดาวน์ไปแล้ว 20% และในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมาทางโครงการพยายามที่จะติดต่อผู้ซื้อชาวจีนกลุ่มดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ และหากภายในระยะ 4 เดือนนี้ หากยังไม่สามารถติดต่อกลุ่มดังกล่าวได้อีก บริษัทฯก็มีแผนที่จะนำห้องชุดสัดส่วนดังกล่าวมารีเซลใหม่ให้ผู้ที่สนใจห้องชุดพร้อมอยู่ในราคาเดิมหลังพรีเซล คือราคาเฉลี่ยที่ 240,000 บาท/ตารางเมตร หรือราคาเฉลี่ย 7 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งสามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่ดี โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการรีเซลห้องชุดดังกล่าวภายในปลายปี 2565 นี้

“เราพยายามติดต่อผู้ซื้อห้องชุด ซึ่งมีประมาณ 30% ของห้องชุดทั้งหมดในโครงการ แต่ทั้งนี้เราไม่ได้ปิดกั้น หากระหว่างการนำมารีเซล สามารถติดต่อลูกค้าได้ หรือ ลูกค้าติดต่อกลับมา เราก็พร้อมที่จะเร่งดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อชาวจีนทันที และคาดว่าในปี 2566 บริษัทฯจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 500 ล้านบาท” นายวิชัย กล่าวในที่สุด

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*