ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2565 ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้  (ภูเก็ต,สงขลา,สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช) โครงการเปิดตัวใหม่จำนวน 6,030 ยูนิต เพิ่มขึ้น 85.5% แต่ขายได้ใหม่แค่ 5,495 ยูนิต  ส่งผลให้สต็อกสินค้าเหลือขายเพิ่มสูงขึ้น 21.1%จำนวน 18,638 ยูนิต มูลค่า 80,608 ล้านบาท

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัดในปีนี้จะมีโครงการเปิดตัวใหม่จำนวน 6,030 ยูนิต เพิ่มขึ้น 85.5% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมีจำนวน 3,251 ยูนิต และมีมูลค่าการเปิดตัวใหม่ 25,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งมีมูลค่า 12,818 ล้านบาท

ส่วนจำนวนสินค้าที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่คาดว่าจะมีจำนวน 5,495 ยูนิต  มูลค่ารวม 22,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.4% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมีจำนวน 3,513 ยูนิต มูลค่า 13,671 ล้านบาท

ส่งผลให้สินค้าเหลือขายในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 18,638 ยูนิต มูลค่าหน่วยเหลือขาย 80,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมีจำนวน 15,394 ยูนิต มูลค่า 68,373 ล้านบาท ในขณะที่อัตราดูดซับในกลุ่มโครงการแนวราบอยู่ที่ 1.8% แต่อาคารชุดอัตราดูดซับปรับเพิ่มจาก 1.5% ในปี 2564 เป็น 2.8%

โดยเฉพาะตลาดอสังหาฯจังหวัดภูเก็ต ประเมินว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 3,280 ยูนิต เพิ่มขึ้น 333.3% มูลค่า 17,249 ล้านบาท ส่วนจำนวนยูนิตขายได้ใหม่คาดว่าจะมีจำนวน 3,077 ยูนิต มูลค่า 15,306 ล้านบาท ส่วนสินค้าเหลือขายคาดว่าจะมีจำนวน 9,846 ยูนิต มูลค่า 50,515 ล้านบาท

ส่วนจังหวัดสงขลา คาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,584 ยูนิต มูลค่า 4,780 ล้านบาท และมีสินค้าขายได้ใหม่ประมาณ 1,435 ยูนิต มูลค่า 4,532 ล้านบาท ส่วนจำนวนสินค้าเหลือขายคาดว่าจะมีจำนวน 4,038 ยูนิต  เพิ่มขึ้น 20.4%  มูลค่า 14,213 ล้านบาท

ขณะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 892 ยูนิต มูลค่า 2,624 ล้านบาท และมีสินค้าขายได้ใหม่จำนวน 720 ยูนิต ลดลง 1.1% มูลค่า 2,164 ล้านบาท ส่งผลให้จำนวนสินค้าเหลือขายในตลาดเพิ่มขึ้นถึง 26.3% จำนวน 3,059 ยูนิต มูลค่า 9,560 ล้านบาท

ครึ่งปีแรกสินค้าเปิดตัวใหม่ 792 ยูนิต มูลค่า 4,071 ล้านบาท

ทั้งนี้จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัดช่วงครึ่งแรกปี 2565 พบว่ามีจำนวน 16,203 ยูนิต มูลค่า 71,990 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงครึ่งแรกปี 2564 ทั้งจำนวนสินค้าและมูลค่า  แบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 4,946 ยูนิต มูลค่า 22,662 ล้านบาท โครงการบ้านจัดสรร 11,257 ยูนิต มูลค่า 49,328 ล้านบาท ส่วนสินค้าใหม่เปิดตัวเข้าสู่ตลาดแค่ 792 ยูนิตเท่านั้น มูลค่า 4,071 ล้านบาทเป็นบ้านจัดสรรทั้งหมด  ลดลง42.9% โดยกระจายอยู่ในหลายทำเล เช่น เกาะแก้ว – รัษฎา น้ำน้อย และทำเลเกาะย่อ – บ่อยาง

สำหรับสินค้าเหลือขายในพื้นที่ภาคใต้ช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 13,652 ยูนิต เป็นโครงการอาคารชุดประมาณ 3,958 ยูนิต มูลค่า 18,604 ล้านบาท โดยทำเลที่มีอาคารชุดเหลือขายมากที่สุด คือ ทำเลหาดในยาง – หาดไม้ขาว 838 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,057 ล้านบาท ทำเลหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ 752 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 3,968 ล้านบาท และทำเลหาดกมลา 675 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,719 ล้านบาท

ส่วนบ้านจัดสรรมีหน่วยเหลือขายรวม 9,694 ยูนิต มูลค่า 42,794 ล้าน โดยจะอยู่ทำเลเทพกระษัตรี – ศรีสุนทรมากที่สุด 1,524 ยูนิต มูลค่า 5,637 ล้านบาท รองลงมาเป็นทำเลเกาะแก้ว – รัษฎา จำนวน 921 ยูนิต มูลค่า 7,158 ล้านบาท และทำเลพัฒนาการ – คูขวาง 765 ยูนิต มูลค่า 3,855 ล้านบาท โดยหน่วยที่เหลือขายส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*