แสนสิริปิดยอดขายไตรมาส 3 ทะลุ 15,000 ล้านบาท เติบโต 145% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน พร้อมทำ New High ยอดขายสูงที่สุดในไตรมาสเดียวในรอบ 3 ปีนับจากเกิดการระบาดของโควิด-19  โดยกวาดยอดขายบ้านแนวราบไปได้มากสุดถึง 12,000 ล้านบาท ลุยต่อไตรมาส 4 เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “BIG MATCH” รับโปรสูงสุด 5 ล้าน หรือรับคืน 5 แสน* ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดฯ และทาวน์โฮม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 ธันวาคมนี้  มั่นใจกระแสตอบรับดี เล็งปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี’65 จากเดิมที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Speed to Market#2 มองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวไวรองรับทุกสถานการณ์ ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ โดยคาดว่าจะสามารทำยอดขายในช่วงไตรมาส 3นี้ได้มากกว่า 15,000 ล้านบาท เติบโต 145% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และโตกว่า 100% จากไตรมาสที่ผ่านมา ถือเป็น New High ยอดขายสูงที่สุดในไตรมาสเดียวในรอบ 3 ปีนับจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยยอดขายหลักมาจากโครงการแนวราบถึง 12,000 ล้านบาท และสามารถปิดการขายโครงการบ้านแนวราบได้เพิ่มถึง 10 โครงการ รวมถึงโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา  มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ที่สามารถปิดการขายบ้านเดี่ยวระดับราคา 50-100 ล้านบาทได้ภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังได้ปิดการขายเฟสแรกของโครงการ “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา”ในวันพรีเซลล์

นอกจากนี้ยังได้ปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 5 โครงการคอนโดมิเนียม ประกอบด้วย โครงการคอนโด มี 4 โครงการย่านบางนา-บางบ่อ,อ่อนนุช-พระราม 9,นวนคร และสินสาคร ส่วนอีก 1 โครงการคือ เดอะ เบส สะพานใหม่

ดังนั้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นยอดขายและยอดโอน “BIG MATCH” รับโปรสูงสุด 5 ล้านบาทหรือรับคืน 5 แสน* และข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย มีสินค้าให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮมที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 76 โครงการ

โดยลูกค้าที่ซื้อบ้านบ้านเดี่ยว จะได้รับโปรสูงสุด 2 ล้านบาท* รับคืนสูงสุด 4 แสน* แต่งครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และแอร์ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนหรือค่าส่วนกลาง 2 ปี* ส่วนคอนโดมิเนียม รับโปรสูงสุด 5 ล้านบาท* รับคืนสูงสุด 5 แสน* หรือค่าส่วนกลางสูงสุด 10 ปี* และทาวน์โฮม รับคืนสูงสุด 3 แสน* แต่งครบทั้งเฟอร์ฯ และเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และค่าส่วนกลาง 2 ปี* เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึงวันที่ 30 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า และช่วยเสริมยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทำให้บริษัทอาจมีการพิจารณาปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 2565 จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 35,000 ล้านบาท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*