เฮเฟเล่ฯปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี ควบหมวดผลิตภัณฑ์การตลาด เพิ่มบทบาทครบวงจร ปลื้มผลประกอบการ 9 เดือนแรก ยอดขายสวนกระแสโต 16% อานิสงส์โควิด-19 ดันกลุ่ม B2C สร้างรายได้มากสุด พร้อมตั้งทีมพิเศษรุกตลาดภาครัฐ ล่าสุดจัดงาน “Häfele Big Clearance Sale 2022” ครั้งที่19 ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 65 หวังกระตุ้นกำลังซื้อ คืนกำไรลูกค้า มั่นใจทั้งปีโกยยอดขายรวม 4,300 ล้านบาท
น.ส.พรรณวรา เพ็งเจริญ
น.ส.พรรณวรา เพ็งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตนได้เข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งดังกล่าว ภายหลังจากที่ปีนี้ เฮเฟเล่ฯ ได้มีการปรับองค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในประเทศไทย เนื่องจากช่วงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงถือเป็นโอกาสและจังหวะที่ดีในการปรับองค์กร พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เป็นการเอ็กซ์เรย์องค์กร เพื่อทำให้การทำงานกระชับมากขึ้น โดยได้รวมหมวดผลิตภัณฑ์มารวมอยู่ในหมวดการตลาดทั้งหมด ส่งผลให้ฝ่ายการตลาดจะเพิ่มบทบาทและความรับผิดชอบที่กว้างและครบวงจรมากขึ้น ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ การตลาด เทรดมาร์เก็ตติ้ง การดูแลลูกค้า

“เราได้เข้ามาดูฝ่ายการตลาดในโครงสร้างใหม่ของบริษัทเป็นปีแรก เดิมรับผิดชอบฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านกลุ่มสินค้าห้องน้ำเฮเฟเล่ มา 4 ปี ซึ่งการปรับแผนครั้งนี้ พอเราเห็น Pain Point (ปัญหา) จากเดิมมาร์เก็ตติ้งจะแยก รับผิดชอบอยู่หลังบ้าน ขณะที่ฝ่ายขายก็จะเดินหน้าเรื่องขายสินค้า ในบางครั้งอาจทำให้การส่งผ่านบริการหรือขายผลิตภัณฑ์อาจไม่สอดรับและต่อเนื่องกัน ทำให้ลูกค้าหลุดไปได้ เราจึงยุบรวมกัน เพื่อให้มีความชัดเจนและเชื่อมถึงการทำตลาด การออกผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมโปรโมชั่น ล้วนแต่จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพ ในการตอบสนองต่อความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มโครงการภาคเอกชนและโครงการภาครัฐ  ตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาโครงการทั้งหมด และลูกค้ารายย่อย ส่งผลดีในการสร้างยอดขายที่เติบโตในทุกๆปี ซึ่งการปรับเปลี่ยนองค์กรต้องใช้เวลา แต่คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในการรุกตลาดและเชิงผลประกอบการที่สูงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566” น.ส.พรรณวรา กล่าว
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565(มกราคม-กันยายน)  นั้น สามารถทำยอดขายได้ดีกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 16% สาเหตุหลักมาจาก ธุรกิจของเฮเฟเล่ฯมีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่องการขายแบบธุรกิจสู่กลุ่มผู้บริโภค (ร้านค้าและค้าปลีก) (Business-to-Customer : B2C) ช่วง 9 เดือนแรกยอดขายเติบโตถึง 15%

ส่วนยอดขายกลุ่มธุรกิจสู่เจ้าของธุรกิจ (ลูกค้าโครงการ ลูกค้าเชนสโตร์ หมวดโรงงาน) (Business-to-Business : B2B) ชะลอตัวตามภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 , มีช่องทางขายผ่านร้านค้ามากกว่า 1,000 ร้านค้า และการขายผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ ขณะที่ มีสินค้ากว่าหลายหมื่น SKU ( Stock Keeping Unit) และราคาของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ส่งผลให้ยอดขายปีนี้น่าจะปิดตัวเลขได้สูงถึง 4,300 ล้านเพิ่มขึ้น 450 ล้านบาท (ปี 2564 อยู่ที่ 3,850 ล้านบาท) หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 16%

โดยปัจจุบัน ลูกค้าในกลุ่ม B2C มีสัดส่วน 52% ของยอดขายทั้งหมด ช่องทางขายแบบ B2B มีสัดส่วน 41% และอื่นๆมีสัดส่วน 7% ซึ่งสินค้าของบริษัทฯมี 5 หมวดหลัก ได้แก่

1.กลุ่มโครงสร้างบ้าน (Hardware) มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ1 คือ 37%

2.กลุ่มอุปกรณ์ที่นำมาประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Fitting) มูลค่าตลาด 20,000ล้านบาท สัดส่วนประมาณ 27 %

3. กลุ่มห้องน้ำและสุขภัณฑ์ (Sanitary) สัดส่วนประมาณ 18%

4.กลุ่มห้องครัว (Home App)  สัดส่วนประมาณ 13 %

5.กลุ่มอื่นๆ เช่น หมวดอี-คอมเมิร์ซ์ และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะ สัดส่วนประมาณ 5%

นอกจากนี้ในส่วนของกลยุทธ์ทางโครงการ (B2B) ทางเฮเฟเล่ ในปี 2565 จึงได้มีการเสริมทีมพิเศษขึ้นมา (เดิมจะแยกตามหมวดหมู่ของสินค้า) รุกในส่วนของโครงการภาครัฐมากขึ้นด้วย ที่ผ่านมาได้ขายผลิตภัณฑ์ให้กับส่วนภายในของอาคารรัฐสภาใหม่ ซึ่งในส่วนของโครงการภาครัฐ อาจต้องใช้ระยะเวลามากในการเข้าไปเจาะตลาด  โดยตั้งเป้าภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้ามีงานในโครงการภาครัฐมากขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศได้มีการดูแลเฉพาะ 3 ประเทศคือ กัมพูชา มีดีลเลอร์หลัก 1 ราย และช่วยทำการตลาดและกระจายสินค้าไปยังอีก 2 ประเทศคือ สปป.ลาว และเมียนมา ด้วย ซึ่งยอดขายจากทั้ง 3 ประเทศนี้ไม่ได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับยอดขายในประเทศไทย สำหรับยอดขายรวมของเฮเฟเล่ทั่วโลก พบว่าประเทศที่ทำยอดขายได้เป็นอันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ อังกฤษ ส่วนอันดับ 3 จะขึ้นสลับกันระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย อินเดีย และออสเตรเลีย

ล่าสุด เฮเฟเล่ฯ ได้จัดงาน Häfele Big Clearance Sale 2022” ครั้งที่19 โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปี โดยการจัดงานในเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบรับดี ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อ และเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า เฮเฟเล่ จึงได้จัดงานครั้งที่ 2 ในปีนี้เพื่อให้ลูกค้าได้ช้อปสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกครั้ง ที่เฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท ซอย 64 ระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 2565 นี้ ซึ่งนอกจากงานครั้งนี้ ยังคงความครบครันแบบ Complete Building Solutions ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีจากเยอรมันไว้แล้ว ยังได้นำเสนอนวัตกรรมอัจฉริยะแห่งอนาคต ที่มอบทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เพื่อเพิ่มคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*