การเคหะแห่งชาติร่วมมือกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เตรียมขับเคลื่อนโครงการที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยและสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินโครงการส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย (Accelerating construction of energy efficient green housing units in Thailand)  ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ยื่นข้อเสนอโครงการฯ เพื่อขอรับทุนสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility GEF) ครั้งที่ 7 ผ่านโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme UNEP)  เพื่อพัฒนาส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติโครงการดังกล่าวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

และเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้ร่วมประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยถึงแนวทางการดำเนินงานและการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โครงการฯ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด มุ่งสู่การพัฒนาและส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคที่อยู่อาศัย

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงาน 5 ปี ซึ่งสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยและการเคหะแห่งชาติจะลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) เพื่อการส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป

“การเคหะแห่งชาติตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงมุ่งมั่นดำเนินการศึกษา วิจัย และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้การเคหะฯเป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างยั่งยืน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*