“บ้าน” ความฝันของใครหลายๆคนที่ต้องครอบครองเป็นทรัพย์สินและถือเป็นทรัพย์ชิ้นใหญ่ที่สำหรับบางคนแล้วใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อที่จะมี “บ้าน” เป็นของตัวเอง แล้วจะดีแค่ไหนถ้า “บ้าน” ที่ซื้อสามารถเข้าอยู่ได้ทันที หรือที่รู้จักกันว่าเป็นโครงการ พร้อมอยู่ Ready to Move ที่ยังเป็นราคา และช่วงเวลาที่ดีที่สุด ก่อนปรับราคาตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ช่วงเวลานี้จึงเปรียบเสมือนเป็นโค้งสุดท้ายที่เรียกได้ว่า “นาทีทอง” ของคนอยากถือครองอสังหาฯและอยากมีบ้าน-คอนโด ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยในสภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่การถือครองอสังหาฯจะทำให้ได้บ้านปัจจุบันที่ถูกลงกว่าเดิม หรือหากสำหรับผู้ลงทุนแล้วระยะยาวอสังหาฯที่ถือครองนั้นจะสร้างผลตอบแทนสูงในอนาคต

ต้นทุนการก่อสร้างบ้านที่ส่งผลต่อราคาขายอสังหาริมทรัพย์

ที่ดิน จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านและเป็นสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวที่ไม่มีค่าเสื่อมราคา เนื่องจากที่ดินไม่เคยถูกปรับลดมูลค่าลงไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินยังคงเติบโตขึ้นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ นั่นหมายความว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไร ราคาของที่ดินก็จะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะทำเลที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อมีระบบ Infrastructure หรือมีการตัดผ่านของถนนสายใหม่จะส่งผลต่อราคาที่ดินให้ปรับตัวสูงตามขึ้นไปด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ที่กำลังจะประกาศใช้ในปีหน้าส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 5%

วัสดุก่อสร้างและแรงงาน มีแนวโน้มการปรับตัวของราคาสูงขึ้นโดยมีรายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ชี้ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านในไตรมาส 3 ปี65 พบว่าราคาเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สูงสุดในรอบ 19 ไตรมาส โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันแพงขึ้น ส่งผลกระทบต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการขนส่ง พบว่ามีการปรับราคาค่าก่อสร้างในเกือบทุกหมวด

อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นคือ “อัตราดอกเบี้ย” โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยโดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ออกประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ 1% ต่อปี และมีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกตามสภาวะการณ์ของเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารพาณิชย์จะปรับดอกเบี้ยขึ้น-ลงตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจุบันถือว่าอยู่ในภาวะ “ดอกเบี้ยต่ำ” ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ซื้อบ้าน-คอนโดฯ ที่จะทำให้คุณจ่ายเงินลดลงสำหรับการผ่อนสินเชื่อบ้าน  ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนอยากมีบ้าน เพราะเมื่อไรก็ตามที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นทุกๆ 1% ภาระค่าใช่จ่ายสำหรับการผ่อนสินเชื่อบ้านจะเพิ่มขึ้นราว 8% นั่นหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

อีกหนึ่งปัจจัยเสริมคือการผ่อนคลายมาตรการการกำหนดอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV) ของสัญญากู้ซื้อบ้านที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งผู้กู้สามารถกู้ได้สูงสุดถึง 110% รวมค่าตกแต่งบ้านเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากปี 2565 นี้ไป มาตรการ LTV จะกลับไปใช้เกณฑ์เดิมนั่นคือต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ 10% – 20% นั่นหมายถึงคุณจะต้องมีเงินก้อนจำนวนหนึ่งเพื่อวางเงินดาวน์ซื้อบ้าน(ในกรณีที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป) ดังนั้นการซื้อบ้านในช่วงเวลาที่ LTV ผ่อนคลายกฎเกณฑ์จะทำให้ภาระค่าใช้จ่ายไม่สูงเกินไปซึ่งจะใช้เงินกู้ธนาคารเพียงอย่างเดียวและมีเงินก้อนเก็บไว้เพื่อสำรองในเวลาที่จำเป็น

เงินเฟ้อโอกาสทองของการถือครองอสังหาฯ

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงสำหรับผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเป็นผลดี ถือเป็นช่วง “โอกาสทอง” ของจังหวะที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยเพราะมีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องคำนึงยังคงเป็นเรื่องของราคาที่เหมาะสม และทำเลที่ได้รับความนิยม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า เป็นการออมระยะยาวที่สู้กับอัตราเงินเฟ้อได้ดี เพื่อให้ราคาบ้านเติบโตตามกาลเวลาและสามารถชนะเงินเฟ้อได้

ทำไมโครงการ “พร้อมอยู่” ถึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

1 สามารถตรวจเช็คก่อนทำสัญญา เนื่องจากโครงการก่อสร้างเสร็จแล้วเรียบร้อยทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าตรวจเช็คส่วนต่างๆทั้งระบบงานภายในบ้านและสิ่งตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้ โดยหากมีจุดไหนที่ต้องการปรับปรุงสามารถแจ้งแก้ไข เปลี่ยนแปลง กับทางโครงการได้โดยตรงก่อนวางเงินทำสัญญาซึ่งจะทำให้ผู้ซื้ออุ่นใจมากยิ่งขึ้น

2 เห็นโครงการจริง ผู้ซื้อจะเห็นสภาพแวดล้อมของทำเลที่ส่งผลต่อ Community ของการอยู่อาศัยภายในโครงการนั้นๆทั้งหมด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ระบบความรักษาความปลอดภัย พื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่ภายในที่พักอาศัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องจินตนาการอนาคต

3 เข้าอยู่ได้ทันที ไม่ต้องลุ้นว่าโครงการจะก่อสร้างเสร็จเมื่อไรเป็นไปตามสัญญาหรือล่าช้ากว่าหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถย้ายมาเข้าพักอาศัยได้ทันทีหลังจากทำการโอนเรียบร้อยแล้ว

4 เปลี่ยนค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อน ในกรณีที่ซื้อโครงการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ซื้อโดยจะต้องจ่าย 2 ทาง นั่นคือ “ค่าเช่า” และ “ค่าผ่อนจ่ายชำระ” ซึ่งการซื้อโครงการพร้อมอยู่จะช่วยลดภาระลง ยังคงจ่ายช่องทางเดียวแต่เป็นการเปลี่ยนจาก “ค่าเช่า” เป็น “ค่าผ่อนชำระ” ที่ในบางครั้งการจ่ายเงินแทบไม่แตกต่างกันหรือแตกต่างกันไม่มาก (ขึ้นอยู่กับระดับราคาซื้อโครงการของผู้ซื้อ) ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะได้ครอบครองความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินนั้น

5 ลดความเสี่ยง การซื้อ บ้าน-คอนโดฯ โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการผ่อนดาวน์ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงหนึ่งสำหรับผู้ซื้อ การก่อสร้างโครงการจะขึ้นอยู่กับยอดขายที่ทางธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อและทำให้โครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการล้มเลิกโครงการ โครงการไม่ก่อสร้าง หรือโครงการขายไม่ออก ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อสูญเสียหรือขาดทุนจากการซื้อโครงการนั้นๆ ดังนั้นสำหรับโครงการ พร้อมอยู่แล้วถือเป็นเครื่องการันตีที่ตัวโปรดักส์ให้เห็นว่ามีสินค้าแน่นอน

6 สามารถปล่อยเช่าได้ เป็นข้อดีสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในช่วงเวลาที่กำลังก่อสร้างที่รอจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องจ่ายเงินดาวน์ไปเรื่อยๆ จนกว่าโครงการจะก่อสร้างเสร็จและหาผู้เช่าได้ หากเป็นโครงการ พร้อมอยู่สามารถปล่อยเช่าได้ทันที และสามารถนำเงินของผู้เช่ามาจ่ายแทน ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่ทำให้เกิดรายได้หรือผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว

โครงการพร้อมอยู่จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่ทาง โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์จัดแคมเปญสำหรับคนอยากมีบ้าน-คอนโด ในชื่อ UNLEASH ALL MONSTERS โปรแรงแห่งปีที่ต้องแย่งชิง! ส่งโครงการพร้อมอยู่ 6 โครงการ บน 6 ทำเล อโศก • เอกมัย • วัชรพล • ราชพฤกษ์ • ศรีนครินทร์ • ดอนเมือง ก่อนปรับราคาพร้อมโปรโมชันจัดหนัก ที่มีแค่ภายในวันที่ 1-20 พ.ย. 2565 นี้ ที่สำนักงานขายเท่านั้น!!

6 โครงการ พร้อมอยู่ จาก โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ!!

1.Noble BE19 (โนเบิล บีไนน์ทีน)
คอนโดมิเนียมใจกลางอโศก ใกล้รถไฟฟ้า Interchange BTS อโศก & MRT สุขุมวิท
1-BED ชั้นสูง เริ่ม 5.9 ล้าน* รับ CASHBACK สูงสุด 200,000 บ.*

2.Noble Gable Watcharapol (โนเบิล เกเบิล วัชรพล)
บ้านดีไซน์ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟาซาด ใจกลางวัชรพล
บ้านแฝดเฟสสุดท้าย เริ่ม 6.2 ล้าน* แต่งครบ หรือ รับ CASHBACK สูงสุด 500,000 บ.*

3.Noble Ambience Sukhumvit 42 (โนเบิล แอมเบียนส์ สุขุมวิท 42)
คอนโดมิเนียม Low Rise ใกล้ BTS เอกมัย & Gateway เอกมัย 300 เมตร
ราคาเดียว 3.55 ล้าน* รับข้อเสนอสูงสุด 1,000,000 บ.*

4.NUE Noble Srinakarin-Lasalle (นิว โนเบิล ศรีนครินทร์-ลาซาล)
คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีลาซาล
จ่าย 0 บาท เข้าอยู่ได้เลย* ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน* เริ่ม 1.69 ล้าน*

5.NUE Connex House Don Mueang (นิว คอนเน็กซ์ เฮาส์ ดอนเมือง)
โฮมออฟฟิศใจกลางดอนเมือง เข้า-ออก ได้ 2 ทาง วิภาวดี และพหลโยธิน นาทีเดียวขึ้นโทลล์เวย์ 5 นาทีถึงสนามบินดอนเมือง ทาวน์โฮมเริ่ม 5.49 ล้าน* โฮมออฟฟิศ เริ่ม 9.29 ล้าน* รับ CASHBACK สูงสุด 250,000 บ.*

6.NUE Cove North Ratchapruk (นิว โคฟ นอร์ธ ราชพฤกษ์)
URBAN HOME ติดห้าง โลตัสนอร์ธ ราชพฤกษ์ และโรงเรียนนานาชาติ เด่นหล้า ใกล้ MRT สายสีม่วง สถานีบางรักน้อย เริ่ม 6.9 ล้าน* ฟรี ค่าส่วนกลาง 3 ปี*

สำหรับผู่ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://nobleurl.com/3fjfsYR หรือโทร 02-2519955

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*