“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์”เปิดโฉมบ้านเดี่ยว 3 ชั้นแบรนด์ใหม่ “มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา” ระดับLuxury Wellness Residence จำนวน 49 ยูนิตราคา 38-80 ล้านบาท กระแสตอบรับแรงกวาดยอดขายได้แล้ว 50%

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป บริษัทจึงปรับกลยุุทธ์ในการดำเนินธุุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาด หันมาพัฒนาบ้านแนวราบมเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์มอลตัน ซึ่งได้เปิดตัวโครางการไปแล้ว 2 ทำเล คือ  มอลตัน ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ สุขุมวิท 31 จำนวน 7 ยููนิติ และมอลตััน ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ อารีย์ จำนวน 8 ยููนิต ซึ่งได้ปิดการขายไปหมดแล้วแม้จะต้องประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็ตาม

ล่าสุดบริษัทได้ต่อยอดเปิดตัวบ้านเดี่ยวแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ มอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการกว่า 2,100 ล้านบาท ให้เป็น Luxury Wellness Residence โดยเปิดพรีเซลให้ผู้สนใจได้เข้าชมบ้านตัวอย่างจริงเป็นครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 19-20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากได้ทดลองเปิดให้ลูกค้าจองรอบ VVIP ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับดีจยสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 50% โดยเป็นกลู่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 70% และกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว 30%

“โครงการมอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา ยังคงคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ 4P คือ Prime, Pride, Privacy, และ Perfection ตั้งแต่การเลือกทำเล ที่มีความสะดวกในการเดินทาง ความสามารถในการรองรับไลฟ์สไตล์ที่ทำให้บ้านพร้อมรองรับการเติบโตของผู้อยู่อาศัย คุณภาพวัสดุ และกระบวนการก่อสร้างที่ลูกค้าให้ความมั่นใจตามมาตรฐานของเมเจอร์ฯ พร้อมนำเทคโนโลยีช่วยยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดี สร้าง Well-Living ให้กับผู้อยู่อาศัย”

สำหรับโครงการมอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 21 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นจำนวน 49 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 38-80 ล้านบาท ออกแบบด้วยแนวคิด “The Gates to Well-Living” มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ คือ SMITHSON เนื้อที่ 71-90 ตารางวา  พื้นที่ใช้สอย 403 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรับแขก ห้องแม่บ้าน และ 3 ที่จอดรถ

 แบบ MIDDLETON ขนาดเนื้อที่ 90-108 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 448 ตารางเมตร  4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรับแขก ห้องแม่บ้าน ลิฟท์ส่วนตัว และที่จอดรถ 4 คัน  แบบ LIVINGSTON เนื้อที่ 102-137 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย  544 ตารางเมตร  ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำรับแขก 2 ห้องแม่บ้าน ลิฟท์ส่วนตัว และที่จอดรถ 5 คัน

ภายในโครงการพร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางครบทั้งประตูทางเข้า-ออกแบบ Double Gate Security และคลับเฮาส์ที่ให้บริการ 2 พื้นที่รองรับทั้งการทำงาน การพักผ่อน ออกกำลังกาย และการพบปะสังสรรค์ สวนสีเขียวขนาดใหญ่ 1,100 ตารางเมตร ส่วนภายในตัวบ้านติดตั้ง Solar Attic ระบบบ้านเย็นระบายความร้อนความชื้นใต้หลังคา รวมถึงระบบบ้านปลอดฝุ่นและฟอกอากาศป้องกัน นอกจากนี้ยังได้มอบชุดตรวจสุขภาพทางไกล TytoCare ให้กับบ้านทุกหลัง และแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ EngageCare โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลสมิติเวช

ด้านนางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร ประธานบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีขึ้นไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยช่วงปี 2560-2564 มีค่าเฉลี่ยการเปิดตัวโครงการบ้านในแต่ละปีอยู่ที่ 318 ยูนิต แต่ในปี 2565 มีอัตราการเปิดตัวมากถึง 883 ยูนิต หรือคิดเป็น 2.8 เท่าของค่าเฉลี่ยการเปิดตัวโครงการบ้าน 5 ปีย้อนหลัง ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มสินค้าราคา 51-80 ล้านบาทจำนวน 511 ยูนิต

โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีขึ้นไป คือ ย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกมีซัพพลายจำนวน 1,449 ยูนิต และมียอดขายแล้วกว่า 71%  โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพกรีฑา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีซัพพลายจำนวน 492 ยูนิต

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*