พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI คาดว่าจะนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังนักลงทุนตอบรับจองซื้อหุ้น IPO คึกคัก วางแผนขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทและลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โชว์ผลงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ทำกำไรสุทธิได้ 156.02 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 128.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยใช้ชื่อย่อ “PRI” หลังจากได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุนในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย
ทั้งนี้กลุ่มพรีโม เซอร์วิสฯเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรครอบคลุมธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม เช่น บริการที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้าง,บริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง เป็นต้น
ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เช่น การรับบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน, จัดหาผู้เช่าห้องชุด, รับบริหารจัดการอสังหาฯ เพื่อเช่าระยะยาว เป็นต้น และธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริการออกแบบตกแต่งภายใน,ทำความสะอาดภายในที่พักอาศัย, บริการช่างและขนย้ายสิ่งของ เป็นต้น
โดยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าโครงการได้ตั้งแต่การเป็นที่ปรึกษา หาผู้ร่วมทุน ออกแบบก่อสร้าง จนถึงการโอนกรรมสิทธิ์และให้บริการหลังการขาย รวมถึงมีบริการด้านการอยู่อาศัยที่หลากหลายแก่ลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ยังมีฐานลูกค้าจากบริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และมีรายได้สม่ำเสมอจากสัญญาให้บริการในระยะยาวและการให้บริการเป็นรายครั้ง
ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงปี 2562 – 2564 มีรายได้รวม 255.69 ล้านบาทม, 266.51 ล้านบาท และ 489.56 ล้านบาทตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย 30.48% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 604.26 ล้านบาท เติบโต 95.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท เติบโต 128.17%
นางสาวยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกของกลุ่มพรีโม เซอร์วิสฯเมื่อวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาเสนอขายหุ้นละ 15 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่แสดงความต้องการจองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้น IPO ที่จัดสรรไว้ และสามารถปิดการเสนอขายหุ้น IPO ได้ตามเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐาน
