กระทรวงพลังงานนำทัพ 70 องค์กรภาครัฐและเอกชน ร่วมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน “Energy Beyond Standards” เดินหน้าปลุกกระแสอนุรักษ์พลังงาน สร้างต้นแบบองค์กรใช้พลังงานประสิทธิภาพสูง ตั้งเป้าช่วยประเทศไทยลดการนำเข้าพลังงานกว่า 5,400 ล้านบาทต่อปี หรือเทียบเท่าแอลเอ็นจี 90,000 ตัน บรรเทาผลกระทบวิกฤตราคาพลังงาน


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
กล่าวว่า ปัญหาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ที่เกิดจากพลังงานหน่วยสุดท้ายที่นำเข้ามีราคาแพงมาก ผนวกกับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงถึง 7-8 บาทต่อหน่วย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติมีราคาสูงมากตามต้นทุนพลังงานที่ขยับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้พลังงานเริ่มมากขึ้นหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นหากมีการลดปริมาณการใช้พลังงานให้ลดลง 10-30% ก็จะช่วยผลักดันให้ราคาพลังงานในส่วนไฟฟ้าและก๊าสธรรมชาติไม่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตได้เองภายในประเทศ

ดังนั้นกระทรวงพลังงานได้เร่งผลักดันนโยบายการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง  โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ ซึ่งมีการใช้พลังงานสูง โดยได้รับความมือจากภาครัฐและเอกชน 70 องค์กรประกาศเจตนารมณ์สร้างเครือข่ายด้านอนุรักษ์พลังงาน ความร่วมมือในการให้คำปรึกษา รวมถึงให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าความร่วมือดังกล่าวจะส่งผลในภาพรวมให้เกิดการลดใช้ไฟฟ้าได้กว่า 675 ล้านหน่วยต่อปี ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าพลังงานของประเทศได้สูงถึง 5,400 ล้านบาทต่อปีเทียบเท่าแอลเอ็นจี 90,000 ตัน รวมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 296,000 ตันคาร์บอนต่อปี และช่วยขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)ให้ได้ในปี 2593 

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน “Energy Beyond Standards”ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย สมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และองค์กรชั้นนำรวมทั้งสิ้น 70 แห่ง อาทิ กลุ่มบริษัทเครือปตท.,เครือเซ็นทรัล,ค่ายรถยนต์โตโยต้า และบริษัท SCG เป็นต้น

โดยทุกองค์กรที่มาร่วมกันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤติด้านพลังงาน ด้วยการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานในองค์กร ขณะที่กรมพลังงานฯจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิค การฝึกอบรมให้ความรู้  การให้คำปรึกษาและแนะนำ ตลอดจนเผยแพร่ผลสำเร็จและความรู้ด้านอนุรักษ์พลังงานสู่สาธารณชน กระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ มาตรการลดการสูญเสียพลังงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยเน้นการปรับปรุงปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์มีประสิทธิภาพสูงแทน มาตรการติดตั้งระบบ Monitoring and control เพื่อประเมินค่าการใช้พลังงาน และการนำพลังงานทดแทนมาใช้งาน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล และระบบพลังงานชีวภาพ ร่วมกับระบบควบคุมการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*