กระทรวงแรงงานไฟเขียวมอบหมายสำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนิน ช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 มีบ้านเป็นของตนเอง อยู่อาศัยหลังเกษียณ   ผนึกธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดโครงการ”สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน”ภายใต้วงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี 1.99 % ต่อปีสามารถขอรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 เวลา 8.00 น. ถึงวันที่ 15 ม.ค.66 เวลา 24.00 น.
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ“สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน”ระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายสุรชัย กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้ผู้ใช้แรงงานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ปัจจุบันการที่จะซื้อบ้านแต่ละหลังมีราคาแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้มีแนวคิดที่จะช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตนที่ยังไม่มีบ้าน ได้มีบ้านเป็นของตนเอง ไว้ได้อยู่อาศัยในยามเกษียณ จึงให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน  โดยให้ร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท        

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนนี้สำนักงานประกันสังคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน สามารถใช้สิทธิในการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย หรือ รีไฟแนนท์ จากสถาบันการเงินอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารอาคารสงเคราะห์

ขณะที่ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า  ธอส.มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งธนาคาร ธอส.พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนตามโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน โดย ธอส. พร้อมช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการชำระเงิน งวดที่อยู่อาศัยผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราคงที่ ปีที่ 1-5 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 6–8 เท่ากับ MRR-2.00% (4.15%) ต่อปี และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% (5.65%) ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี ให้กู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนสามารถขอรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 8.00 น. ถึงวันที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 24.00 น. ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน GHB Buddy ใน Line Application จากนั้นนำรหัสที่ได้รับมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถดาวน์โหลด GHB ALL GEN ได้ที่ App Store, Google Play ใน Line Application จากนั้นนำรหัสที่ได้รับมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ  ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถดาวน์โหลด GHB ALL GEN ได้ที่ App Store, Google Play และ App Gallery สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL,Mobile Application : GHB ALL GEN   และ www.ghbank.co.th

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่สนใจ สามารถติดต่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน แบบอิเล็กทรอนิกส์กับสำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ถึง 19 ธันวาคม 2566 และสามารถทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2567” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 ติดต่อสอบถาม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*