ห้าแยกลาดพร้าว ถือเป็นย่านสำคัญของกรุงเทพตอนเหนือที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น North CBD เป็นทำเลหนึ่งที่มีการกระจุกตัวของคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่มากที่สุดมีมูลค่าลงทุนคอนโดฯสูง แตะ 1 แสนล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะถูกพัฒนาเป็นคอนโดฯไฮไรส์ในทำเลที่ติดถนนใหญ่และอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า หนึ่งในบริษัทที่เข้ามาพัฒนาโครงการบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว คือ Pruksa Real estate ส่งแบรนด์ The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) ที่ตั้งใจพัฒนาให้กลายเป็น Flagship ยกระดับการอยู่อาศัยให้เหนือกว่าและกลายเป็น The Best Choice แห่งหนึ่งบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว

The Privacy Jatujak
(เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร)
พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์
‘Live the Enchanting Moment’
มนต์เสน่ห์ใหม่แห่งจตุจักร
ที่จะมาสร้างความ Enchant
ของการอยู่อาศัยในทุก Moment …

ทำเลห้าแยกลาดพร้าว ดินแดนที่กำลังจะเปลี่ยนไป…จากสิ่งเดิมที่มีอยู่…ถูกเติมเต็มด้วยความเจริญที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบทำให้ทำเลแห่งนี้กลายเป็นย่านที่เปี่ยมไปด้วย “มนต์เสน่ห์แห่งการใช้ชีวิต” ที่ครบครัน จนยากที่จะหาทำเลไหนเทียบได้ ตั้งแต่เดิมทีนั้น ห้าแยกลาดพร้าวนั้นเป็นแหล่งของการใช้ชีวิตและการทำงานรวมถึงย่านสุขภาพด้วยพื้นที่ของสวนจตุจักรกว่า 700 ไร่ ที่คนจำนวนมากมาออกกำลังกาย ถนนใหญ่ทั้งพหลโยธิน วิภาวดีรังสิต เชื่อมต่อในทุกการเดินทาง และถูกเติมเต็มด้วยรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทที่ปัจจุบันเปิดให้บริการครบสมบูรณ์ทำให้พื้นที่แห่งนี้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในอนาคตยังมี Mega Project แห่งใหม่ และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่จะเกิดขึ้นในระแวกใกล้ยิ่งส่งผลให้ทำเลห้าแยกลาดพร้าวแห่งนี้เจริญเติบโตขึ้นตามกาลเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ

The Privacy Jatujak พร้อมเปิดสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งการอยู่อาศัยที่จะสร้างความ Enchant ในทุกโมเมนต์ใหม่แล้ววันนี้ สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3ueRj9L หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1739

Project INFO

Project Name : THE PRIVACY JATUJAK (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร)

Developer : Pruksa Real Estate Public Company Limited

Location : Located On Ladprao Intersection 450 Meters to MRT Phahon-Yothin Station

Land Area : Approximately 3 Rais

Project Type : 1 Residential Building , 34 Storeys

Total Units : 832 Units + 3 Shops

Enchanting Location: ทำเลแห่งมนต์เสน่ห์

Enchanting Location: ทำเลแห่งมนต์เสน่ห์ ที่อยู่ใกล้ Interchange Station เชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน เพียง 450 เมตร และ BTS สายสีเขียวสุขุมวิท สถานีห้าแยกลาดพร้าว พร้อมทั้งวิวสวนธรรมชาติขนาดใหญ่ของสวนจตุจักร 700 ไร่ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันจะมีวิวสวนเพียง 3 โลเคชั่นเท่านั้น คือสวนเบญจกิติ สวนลุมพินี และสวนจตุจักร ใกล้กับศูนย์กลางคมนาคมสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง , รถไฟฟ้าสายสีม่วง , รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน , Airport Rail Link , และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ เมเจอร์รัชโยธิน เป็นต้น อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแหล่ง Office Building และ สำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำระดับประเทศไม่ว่าจะเป็น Energy Complex ของPTT, ตึก TTB, SCB และ Thai Airways เป็นต้น รวมไปถึง S OASIS Project ที่พร้อมให้บริการภายในปีนี้ รวมถึง Mega Project ขนาดใหญ่ในอนาคต อย่าง หมอชิต complex ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง และแปลงที่ดินใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัลย่านรัชโยธิน ที่กำลังเตรียมพัฒนา ถือเป็นการตอกย้ำความสมบูรณ์ของทำเลที่ส่งผลต่อการเป็น CBD ของกรุงเทพฯตอนเหนืออย่างสมบูรณ์แบบและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง

Enchanting Design : Modern Luxury Premium High Quality of Selected

Facilites

1st Floor

บริเวณด้านหน้าของโครงการถูกออกแบบเป็นสวน Hidden Forest พื้นที่สีเขียวที่ช่วยดูดซับเสียงและกรองอากาศเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนจากภายนอกลงก่อนเข้าสู่ตัวโครงการ สวนในบริเวณนี้ทางโครงการตั้งใจออกแบบให้ดูเสมือนงานศิลปะที่มีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ท่ามกลางน้ำพุและเสียงน้ำเพื่อให้รู้สึกสดชื่นไปกับร่มเงาของธรรมชาติและยังมี Pavillion ที่รองรับการมานั่งพักผ่อนของลูกบ้านซึ่งจะช่วยให้สบายตาและเพลิดเพลิน

Pavillion บริเวณสวนด้านหน้าของโครงการท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวและน้ำพุที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

มุมมองจากสวนเมื่อมองกลับเข้ามาภายในตัวโครงการ

Facilities ถูกออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนอยู่โรงแรม 5 ดาว บริเวณ Drop-Off มีลักษณะ Oversize ที่มีความสูงถึง 12 เมตร ที่ให้ความรู้สึกหรูหราตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวเข้าสู่ตัวโครงการ

เชื่อมต่อมายัง Lobby Lounge บริเวณชั้น 1 ที่ตกแต่งระบบแสงไฟหรือ Lighting และเลือกใช้วัสดุหินโปร่งแสงแบบ White Onyx บริเวณผนัง รวมทั้งกระจกแบบ Black High Glass โทนสีดำตัดกับ กระจกสี Copper ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดู Luxury ยิ่งขึ้น ผสมผสานกับ งานไม้แบบ Wood Veneer ที่มีความสวยงามรู้สึกถึงความเรียบง่ายแต่ยังทันสมัย

บริเวณภายใน Lobby ที่ดูลักชัวรี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ภายในโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมพื้นที่รองรับสำหรับลูกบ้านหรือแขก

ผนังที่ตกแต่งด้วยหิน White Onyx Marble กับกระจกแบบโทนสี Copper Mirror ทำให้เพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น

เชื่อมต่อไปยังชั้น 2 ด้วยบันไดวนที่ทางโครงการเลือกใช้หินแบบ Phantom white โทนสีขาวดำที่มีลวดลายสร้างความสวยหรูอย่างมีระดับ

โดยพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 2 คือห้อง E-Library นอกเหนือจากพื้นที่นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือแล้วทางโครงการยังสร้างความแตกต่างด้วยการจัดเตรียมจอทีวีที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านการ Cast ทำให้สามารถเปิดหนัง สารคดี หรือหนังสือเสียงออนไลน์ได้ และ พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 3 เป็นห้อง Meeting Room ที่จัดเตรียม E-White Board ให้เพื่อรองรับการประชุมงาน Meeting Group พื้นที่ทั้งสองส่วนนี้จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ห้อง E-Library สำหรับมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องการใช้ความสงบ

ห้อง Meeting Room สำหรับใช้ประชุมงานหรือทีม ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 และชั้นใต้ดินยังรองรับที่จอดรถสำหรับ Visitor และ สถานี EV Charger 3 แท่นชาร์จ รองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต โดยที่จอดรถของโครงการมีทั้งหมด 6 ชั้น สามารถจอดรถได้ทั้งสิ้นกว่า 43%

บริเวณชั้น 8 โครงการออกแบบให้มีพื้นที่สวน Green Space ที่เล่นระดับชั้น ให้ความรู้สึกเหมือนสวนขั้นบันไดที่ช่วยลดความวุ่นวายของผู้ใช้พื้นที่ส่วนกลางกับห้องพักบริเวณที่อยู่ติดกันกับ Green Space ได้ดี มีที่นั่งแบบเปิดสไตล์เก้าอี้สนาม และที่นั่งภายใน Pavillion ที่โครงการออกแบบให้เป็นที่นั่งในร่ม ติดตั้ง Façade ที่ช่วยเลี่ยงทิศทางของเสียงลง แต่ยังคงเปิดรับวิวเมือง วิวสวนจตุจักร รวมไปถึงวิวของเส้นทางของรถไฟฟ้าที่พาดผ่าน ข้อดีของผู้อยู่อาศัยในชั้นนี้คือแทบจะได้วิวพื้นที่สวน Green Space เป็นของตัวเองเลยก็ว่าได้ โดยห้องที่อยู่ติดนั้นสามารถจัดมุมโต๊ะทำงานเปิดรับวิวนี้ก็จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดี

ที่นั่งในร่มบริเวณ Pavillion ชั้น 8 ที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นหลังคาโปร่งแสง เลือกใช้ระแนงไม้มาช่วยบดบังแสงแดดบางส่วนเพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติสามารถส่องถึงและทำให้ตัว Pavillion ดูไม่ทึบจนเกินไป

Sky Facilities ถือเป็นไฮล์ไลท์สำคัญที่ทางโครงการยกพื้นที่ส่วนกลางขึ้นไปอยู่ด้านบนของตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นส่วนกลางลอยฟ้าที่ชั้น 34 โดยพื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดมีความสูงกว่า 5 เมตร ซึ่งความสูงระดับนี้ส่วนใหญ่จะเห็นที่โรงแรมระดับ 5 ดาว ลักษณะของตัวอาคารมีรูปทรงแบบ L Shape ซึ่งส่วนกลางเป็นแบบเต็ม Floor จะแบ่งออกเป็นของทั้ง 2 ฝั่งของแขนตัว L แขนข้างนึงจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ ซึ่งประกอบ Sky Pool with Kid’s Pool / Jacuzzi / Pool Terrace / Shallow Pool / Sunken Seat / Sky Bar และ Sky Terrace ที่รองรับการทำกิจกรรมของลูกบ้านสามารถมานั่งทำงานชิลๆ หรือจะสังสรรค์จัดปาร์ตี้ก็ได้เช่นกัน

มุมจากจากทั้งสองฝั่งของแขนตัว L

สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 34 และ Rooftop ด้านบน

Sunken Seat ที่นั่งพักผ่อนบริเวณสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำมีลักษณะเป็นแบบ Semi Outdoor ความยาว 25 เมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นภายในร่มสำหรับการพักผ่อนชิลๆ

Sky Terrace พื้นที่บริเวณชั้นลอยด้านบนของสระว่ายน้ำ ที่ถูกออกแบบให้เป็นมุมพักผ่อนสำหรับมานั่งเล่น หรือมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นของวิวเมืองย่านห้าแยกลาดพร้าว

Sky Bar

ส่วนแขนอีกด้านของตัว L จะเป็นฝั่งที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่วิภาวดีซึ่งเรียกว่า Sky Cube ทางโครงการเลือกใช้ผนังกระจกบานใหญ่แบบเต็มบาน 100% ที่ทำให้ดูเป็น Crystal Box ด้านบนของตัวอาคารเพื่อเปิดรับวิวสวนจตุจักร และ Cityscape ของทำเลห้าแยกลาดพร้าวแบบเต็มตา ประกอบด้วย Sky Lounge ที่สามารถมานั่งทำงานหรือ ประชุม Meeting ไปพร้อมกับชมวิวของสวนจตุจักร Workout Space / Sauna&Steam / Co-Working Space / Kid’s Room /Theater Room

Co-Working Space

Theater Room

Workout Space ที่มาพร้อมเครื่องเล่นและอุปกรณ์ฟิตเนสจำนวนมากที่ทันสมัย รองรับการใช้งานของลูกบ้านสำหรับสายสุขภาพที่ไม่ต้องไปเสียเงินสมัครสมาชิกฟิตเนสเพิ่มจากภายนอกเลยทีเดียว นอกจากนี้ภายในฟิตเนสเองยังแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน ใหญ่ๆ คือ โซนฟิตเนสปกติ

กับ โซนฟิตเนส On Demand โดยมีเครื่องเล่น ICAROS ที่ไม่ค่อยพบเห็นในโครงการไหนมาก่อนที่จะช่วยให้การออกกำลังกายสนุกมากขึ้นไปพร้อมๆกับการเล่นเกมส์ หรือแข่งขันกับกลุ่มเพื่อนก็ยังได้

Sky Lounge จุดไฮไลต์ของส่วนกลางที่ทางโครงการเลือกวางตำแหน่งไว้บริเวณมุมด้านหน้าของอาคารเปิดรับวิวสวนจตุจักรแบบเต็มๆ ให้ผู้มาใช้งานรู้สึกสบายตากับพื้นที่โซนสีเขียว

Rooftop ด้านบนโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกายเอาใจสายรักสุขภาพโดยทำเป็น Jogging Track ท่ามกลางสวนลอยฟ้า Sky Garden นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รองรับสำหรับทำกิจกรรมหรือปาร์ตี้สังสรรค์ซึ่งโครงการเตรียม Co-Kitchen ไว้ให้ หรือจะมานั่งชมวิวยามเย็นที่ Sky Deck ช่วงเวลาแสงสุดท้ายของวันก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้าช่วยสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกได้ไม่เบาเลยทีเดียว

Unit

โครงการออกแบบสไตล์ Modern Luxury โดย World Class designer (Palmer and Turner) ที่ได้รับรางวัลอันดับหนึ่งของเอเชีย จากงาน Asia-Pacific Property Awards 2022 สาขา Architecture Unit พักอาศัย โครงการให้ความสูงของห้อง Floor-to-ceiling ที่สูงถึง 2.75 เมตรซึ่งจะทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด โดยห้อง Loft Unit ถือเป็นห้อง Rare Unit ของโครงการนี้ที่ทั้งโครงการมีเพียง 16 ยูนิต Floor to ceiling สูงที่สุดในโซนกว่า 5.8 เมตร และเป็นห้องที่ขายดี นอกจากนี้ Spec และวัสดุที่ทางโครงการให้ถูกคัดสรรมาด้วยคุณภาพตอบโจทย์การใช้งานของผู้พักอาศัยและทำให้ห้องดูหรูมากขึ้น ซึ่งทางโครงการทำห้องตัวอย่างไว้ให้ดู 2 Type คือ 1 Bedroom ขนาด 27.00 Sq.m. และ 1 Bedroom ขนาด 30.00 Sq.m.

โครงการขายห้องชุดแบบ Fully Fitted ที่มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in โดย Spec และวัสดุพื้นฐานที่ทางโครงการให้นั้นจะเหมือนกันในทุกห้องพักอาศัย นอกจากนี้ยังยกระดับการอยู่อาศัยในรูปแบบของ Smart Living ตั้งแต่การเข้า-ออกพื้นที่โครงการในแบบ Smart Access การจองใช้งานพื้นที่ส่วนกลางหรือบริการที่ทางโครงการรองรับในรูปแบบของ Smart Facilities รวมไปถึง Smart Unit ในรูปแบบของ Home Automation ควบคุมการเปิดปิดระบบไฟ แอร์ ภายในห้อง

โดยติดตั้ง Digital Door Lock รองรับการใช้งานถึง 6 ระบบ คือ รหัส / คีย์การ์ด / สแกนลายนิ้วมือ / Pass Code / แอปพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟน / และ กุญแจ ข้อดีสำหรับ Digital Door Lock ที่รองรับหลายระบบคือช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการลืมระบบใดระบบหนึ่งสามารถใช้งานระบบอื่นทดแทนกันได้ ทำให้มีตัวเลือกของการใช้งานและปลอดภัยสูง

สำหรับ Pantry ครัว Spec และวัสดุต่างๆจะได้ตามแบบห้องตัวอย่างที่ติดตั้งไว้ให้ดูเลย ยกเว้น Accessories หรือของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ โดยเป็นครัวปิดทุกยูนิต

เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ข้อดีคือมีความสวยงามและคงทนต่อการใช้งานระยะยาวสามารถเช็ดทำความสะอาดง่ายเมื่อมีคราบสกปรกเกิดจากการประกอบอาหาร ติดตั้ง Hood&Hod ของแบรนด์ Franke Built-in ตู้เก็บของมาให้ทั้งด้านบนและด้านล่างของเคาน์เตอร์พร้อมใช้งาน พร้อมทั้งช่องเก็บอุปกรณ์และฟังก์ชันสำหรับจัดเตรียมอาหารที่มีพื้นที่รองรับสำหรับคนชอบทำครัว Backsplash หรือ ผนังกันเปื้อนเป็นกระจกโทนสีชา ทำให้ครัวดูทันสมัย สวยงาม โมเดิร์นและสร้างมิติของห้องครัวให้เกิดขึ้น และมีคุณสมบัติที่คงทนแข็งแรงทำความสะอาดง่ายมากด้วยการใช้ผ้าเช็ดเท่านั้น สำหรับห้อง Unit พิเศษ ทีเป็น Rare Unit ทางโครงการจะอัพเกรดวัสดุขึ้นเป็นท็อปครัวแบบหินอ่อน White Carara

รวมทั้งตู้เก็บของด้านข้างที่ทางโครงการให้มาเลยพร้อมเดินระบบไฟภายในตู้ตามแบบห้องตัวอย่างสร้างความพรีเมี่ยมให้กับครัวมากยิ่งขึ้นไม่ค่อยได้เห็นโครงการไหนที่ให้ตู้ลักษณะแบบนี้มาพร้อมกับห้องชุดที่ขาย

ห้องน้ำ ได้ตามห้องตัวอย่างเลย โดยทางโครงการ Built in Cabinet ฉากกั้นอาบน้ำมาให้ พร้อมทั้ง Rain Shower และเจาะช่องวางของมาให้ด้วยซึ่งจะช่วยลดปัญหาสำหรับการหาอุปกรณ์ใส่เครื่องใช้ประเภท สบู่ แชมพู ให้เข้ากับห้องการเจาะช่องวางมาให้แบบนี้ช่วยให้สะดวกสบายขึ้นสำหรับการใช้งาน สุขภัณฑ์ของ Cotto รวมทั้งเดินระบบไฟแบบซ่อนที่ทำให้ดูสวยงามเหมือนในโรงแรมหรู ติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่แบบเต็มผนัง บริเวณด้านหลังกระจกออกแบบให้เป็นตู้เก็บของสำหรับคนที่มีอุปกรณ์เยอะช่วยให้ห้องน้ำดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น

Camellia 1 Bedroom ขนาด 27.00 Sq.m.

สำหรับห้อง Type นี้ ทางโครงการแต่งห้องตัวอย่างออกแนวไสตล์คุณผู้หญิงโดยเลือกใช้โทนสีแดงเข้ามาตัดเพื่อสร้างความตื่นเต้น และดึงดูดสายตา โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโซน Living Area สามารถวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งและมีพื้นที่เหลือ วางโต๊ะรับประทานอาหารด้านข้างได้ หรือสำหรับใครที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในพื้นที่บริเวณนี้จะเลือกวางโซฟาแบบเต็มพื้นที่ก็ยังได้เช่นกัน ที่สามารถทำงานและดูทีวีไปพร้อมๆกันได้

มีระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีพอสมควร ที่สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ถึง 65 นิ้ว ทำให้มีมุมมองแบบเต็มตาสำหรับคนชอบดูทีวี

กั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนด้วยกระจกบานสไลด์ที่มีความสูงแบบ Full Height ตั้งแต่พื้นจรดเพดานทำให้ดูหรูหรา พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบเตียง ที่ทำให้การอยู่อาศัยไม่อึดอัด

โครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built in มาให้แบบห้องตัวอย่างเลยหน้าบานเป็นกระจกโทนสีชาที่ทำให้ดูหรูหรา พรีเมี่ยม ความสูงแบบเต็มเพดาน ไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่มช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลง

บริเวณปลายเตียงทางโครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่างสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้แต่งหน้าหรือสำรวจความพร้อมก่อนออกไปเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ในแต่ละวัน หรือหากสำหรับคุณผู้ชายอาจทำเป็นมุมอ่านหนังสือ หรือมุมทำงานแทนก็ได้

สวิตช์ไฟที่ทางโครงการให้เป็นแบบ Touch Switch แบบสัมผัสสีขาว ที่ไม่เพียงแค่ดูหรูขึ้นเท่านั้นยังคงแฝงไปด้วยประโยชน์และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ลดปัญหาสุขภาพจากอาการเมื่อยข้อนิ้วที่เกิดจากการกดสวิตช์หลายครั้งในแต่ละวัน ดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายคงทนต่อความร้อน น้ำมัน และฝุ่น

สำหรับห้อง Type นี้พื้นที่ครัวจะเข้าจากห้องนั่งเล่นที่ถูกกั้นด้วยกระจกบานสไลด์มีลักษณะเป็นแบบครัวปิด อยู่ติดกับระเบียง ครัวลักษณะแบบนี้จะช่วยในเรื่องของการระบายกลิ่นจากการประกอบอาหารได้ดี ซึ่งพื้นที่อีกฝั่งนึงจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ

Pine 1 Bedroom ขนาด 30.00 Sq.m.

สำหรับห้อง Type นี้ โครงการตกแต่งห้องตัวอย่างสไตล์คุณผู้ชายโดยเลือกใช้โทนสีเข้ม ที่ทำให้รู้สึกถึงความเท่ห์ สุขุม และเห็นถึงความแตกต่างของการตกแต่งห้องตัวอย่างเพื่อการนำไปปรับใช้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัย ความแตกต่างของห้อง Type นี้คือ โซนแรกเมื่อเข้ามาจะเป็น Pantry ครัว ที่อยู่ด้านหน้าของห้องพัก กั้นเป็นครัวปิดระหว่างครัวกับโซน Living Area พื้นที่ตรงข้ามกันกับครัวจะเป็นห้องน้ำ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Living Area พื้นที่ห้องค่อนข้างเป็นสัดส่วนชัดเจนทำให้โซน Living Area มีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับวางโซฟาขนาดใหญ่ หรือจะเลือกวางโซฟาแบบทรงตัว L ก็สามารถทำได้ ซึ่งจะเข้ามุมห้องพอดีและมีพื้นที่เหลือสำหรับการเดินภายในห้องช่วยให้การอยู่อาศัยรู้สึกไม่อึดอัด

ถัดมาพื้นทีด้านในจะเป็นพื้นที่ Bedroom บริเวณปลายเตียงทางโครงการ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ โดย Plan นี้จะมีลักษณะพิเศษบริเวณหัวมุมของเตียงที่มีส่วนยื่นออกไป ซึ่งสามารถทำเป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือ หรือ Built เป็นเตียงแบบ Day Bed ที่มีขนาดย่อมลงมาก็ได้เช่นกัน

พื้นที่ปลายเตียงสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบห้องตัวอย่างได้ หรือจะติดทีวีภายในห้องนอนในมุมนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน

โครงการติดตั้งกระจกขนาดใหญ่บริเวณห้องนอน ช่วยให้แสงสว่างส่องถึงทำให้ห้องดูสว่างขึ้น ประโยชน์จากแสงแดดช่วยทำให้ห้องไม่อับชื้น แต่แนะนำให้ติดม่านเพิ่มเติมเนื่องจากแสงแดดของประเทศไทยมีอุณภูมิค่อนข้างสูง เพื่อลดบริมาณแสงที่เข้าถึงตัวห้องลงหรือใช้วิธีติดฟิล์มกรองแสง ม่าน หรือมู่ลี่ก็จะช่วยได้

Enchanting Value

ความได้เปรียบของ The Privacy Jatujak ที่ส่งผลต่อมูลค่าในในอนาคตของโครงการ

1 วิวสวนจตุจักร 700 ไร่ ไม่ใช่ทำเลใดก็ได้ที่จะได้เห็นวิวสวนสาธารณะขนาดใหญ่แบบนี้ โดยปัจจุบันนั้นจะมีเพียง 3 ทำเล นั่นคือ ย่านสุขุมวิท-อโศก วิวสวนเบญจกิติ ที่ปัจจุบันราคาคอนโดมิเนียมขยับตัวสูงเริ่มที่ราว 22X,XXX บาทต่อตารางเมตร วิวสวนลุมพินี ใจกลางย่าน CBD และเป็นทำเลทองของที่ดินอย่างแท้จริงที่ราคาคอนโดมิเนียมกระโดนสูงขึ้นไปถึง 31X,XXX ขณะที่วิวสวนจตุจักร คอนโดมิเนียมยังคงเป็นราคาที่จับต้องได้โดยคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่บนทำเลนี้เริ่มต้นที่ 150,000 – 170,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ The Privacy Jatujak คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ราคาเริ่มต้นเพียง 120,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น หรือเริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาท รวมไปถึงการหาแปลงที่ดินในการพัฒนาโครงการที่ค่อนข้างยากขึ้นกับทำเลที่จะมองเห็นวิวสวนแบบนี้

2 โลเคชั่น จตุจักร-ลาดพร้าว ยังคงเป็นทำเลที่เติบโตขึ้นในทุกวันและกำลังจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากทุกวันนี้ที่ตัวทำเลเองมีครบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกด้านแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงถูกเติมเต็มที่จะทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เห็นได้จาก Mega Project ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตส่งผลต่อ Potential ของทำเลที่จะทำให้มูลค่าของ จตุจักร-ลาดพร้าว นับวันทั้งราคาที่ดิน ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงานจะมีการปรับตัวสูงขึ้นตามการเติบโตของทำเลจากวันนี้นับไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า เชื่อได้ว่จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% อย่างแน่นอน ดังนั้นราคาของที่อยู่อาศัยในวันนี้ขยับไปอีก 2-3 ปีข้างหน้าในราคาแบบนี้ทำเลใกล้เคียงกัน เป็นเรื่องยากแน่นอน ซึ่งอาจจะต้องเป็นโครงการที่ขยับเข้าซอยไป

3 Spec และวัสดุที่ทางโครงการให้ ถือว่าสมราคาและค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับโครงการใน Segment เดียวกัน พร้อมทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การใช้งาน ฟังก์ชันต่างๆที่รองรับการทำกิจกรรมของลูกบ้านได้อย่างครบครัน

4 ทำเลน่าลงทุน จตุจักร-ลาดพร้าว เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมของการลงทุนคอนโดสูงเนื่องจากการเดินทางสะดวก เป็นทำเลที่มีที่ผู้คนหมุนเวียนตลอดทำให้ง่ายต่อการขายต่อ และปล่อยเช่าได้ โดยห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 Sq.m. สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 16,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทิศ ขนาด และการตกแต่งห้อง) และสร้างผลตอบแทนราว 4-5%ต่อปี

The Privacy Jatujak (เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร) คอนโดฯใหม่พร้อมอยู่สุดหรูจาก Pruksa ในสไตล์ Modern Luxury ที่การันตีด้วยรางวัลอันดับหนึ่งของเอเชีย จากงาน Asia-Pacific Property Awards 2022 สาขา Architecture Unit พักอาศัย ตอบโจทย์ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และหรือซื้อเพื่อการลงทุนในราคาเริ่มต้นเพียง 120,000 บาท ต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นเพียง 3.19 ล้านบาท รองรับในทุกกิจกรรมกับ Facilities จัดเต็ม พร้อมวิวสวนกว่า 700 ไร่ ที่ใกล้แค่เอื้อม The Privacy Jatujak พร้อมเปิดสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งการอยู่อาศัยที่จะสร้างความ Enchant ในทุกโมเมนต์ใหม่แล้ววันนี้ สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3ueRj9L หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 1739

คอนโดมิเนียมลักชัวรี่อีกหนึ่งโครงการที่จะเข้ามาเป็น The Best Choice บนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ตอกย้ำด้วยศักยภาพของทำเลที่ไม่เป็นรองใคร ตัวอาคารที่โดดเด่นเปิดรับวิวห้าแยกลาดพร้าวได้รอบทิศทางมาพร้อม spec และวัสดุที่ถูกคัดสรรด้วยคุณภาพ สร้างความหรูหราอย่างเหนือระดับที่จะทำให้การใช้ชีวิตบนทำเลห้าแยกลาดพร้าวของคุณลักชัวรี่ยิ่งขึ้น เพียง 832 ยูนิตเท่านั้น ราคาเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ในเรทที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับทำเลห้าแยกลาดพร้าวแห่งนี้ สุดท้ายแล้วอยู่ที่คุณจะเลือกว่า The Privacy Jatujak จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณแค่ไหน…?

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*