แบรนด์ The Crest ถือเป็นแบรนด์คอนโดฯหรูที่ทาง SC มุ่งพัฒนาเพื่อเจาะกลุ่มตลาด Luxury ซึ่งถือเป็นแบรนด์ระดับบนสุด (ไม่รวมแบรนด์เฉพาะพิเศษที่จะมีโครงการเพียง หนึ่งเดียวเท่านั้น) ความ Luxury ของโปรดักส์ ตั้งแต่ส่วนกลาง ไปจนถึงวัสดุที่เลือกใช้ภายในห้องพักอาศัยเป็น Spec ที่มีคุณภาพดี พรีเมี่ยม สมกับความ Luxury โดยแบรนด์ THE CREST นั้นจะเปิดตัวในทำเลที่เป็น Prime Location ใจกลางเมืองย่าน CBD ทั้งสิ้น ที่เป็นทั้งแหล่งรวมออฟฟิศชั้นนำ แหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งไลฟ์สไตล์รวมไปถึงแหล่งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ เป็นแบรนด์ที่สร้างความสำเร็จให้กับ SC Asset ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ เพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ The Crest ที่สร้างมาตรฐานของการพักอาศัยได้อย่างตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวแบรนด์ The Crest Park Residences คอนโดฯหรูเพียงหนึ่งเดียวใจกลางทำเลห้าแยกลาดพร้าว ที่เป็นการกลับมาในช่วงกว่า 7 ปี และเป็นโครงการที่ 6 ภายใต้แบรนด์ The Crest

เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส (The Crest Park Residences) เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง SC Asset กับ Nishitetsu ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางห้าแยกลาดพร้าว ที่เป็นย่าน North CBD ของกรุงเทพฯตอนเหนือ และเป็นย่านที่มีอัตราการเติบโตสูงปัจจุบันคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่จะมีราคาไม่ต่ำกว่า 150,000 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร ในทำเลที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า ความน่าสนใจของทำเลห้าแยกลาดพร้าวคือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และในอนาคตพื้นที่โดยรอบห้าแยกลาดพร้าวยังคงเติบโตขึ้นอีกจากทั้ง Mega Project ของทางภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้กลายเป็นทำเลเนื้อหอมที่เหมาะสมต่อการลงทุนในระยะยาว

ห้าแยกลาดพร้าว จึงเป็นศูนย์กลางของความเจริญและการเดินทางที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง Landmark ที่หลายคนรู้จักอาจนึกถึง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่อยู่คู่กับทำเลมาช้านาน อีกหนึ่ง Landmark ที่ขาดไม่ได้นั่นคือพื้นที่สวนสาธารณะจตุจักร พื้นที่สีเขียวของคนเมืองบนทำเลห้าแยกลาดพร้าว ที่ไม่ใช่ว่าจะมีทำเลใดก็มีวิวสวนแบบนี้ได้ โดยปัจจุบันนั้นจะมีเพียง 3 โลเคชั่น ในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีวิวสวน คือ ย่านอโศก-สุขุมวิท วิวสวนเบญจกิติ , ย่านพระราม 4-สาทร-วิทยุ วิวสวนลุมพินี และวิวสวนจตุจักร ในทำเล ห้าแยกลาดพร้าว-พหลโยธิน-วิภาวดี ซึ่งวิวสวนในลักษณะแบบนี้มหานครใหญ่ๆได้รับความนิยมสูงและมักจะเต็มไปด้วยโครงการอสังหาฯและพื้นที่ค้าปลีกระดับ Hi-End

Project info

Project Name
THE CREST PARK REISENCES (เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส)

DEVELOPER
SCNNRI (ความร่วมมือระหว่าง NISHITETSU & SC Asset Corporation)

LOCATION
ถนนพหลโยธิน ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว

LAND AREA
1-3-93.5 ไร่

BUILDING / UNITS
36 ชั้น 418 ยูนิต

PARKING
235 คัน (ที่จอดรถอัตโนมัติ 230 คัน)

TYPE OF UINTS :
-1 Bedroom 31-50 sq.m.
-1 Bedroom Plus 47-50 sq.m.
-2 Bedrooms 73 sq.m.
-Hight Celling 31-73 sq.m.

เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส
(The Crest Park Residences)
ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์
Urban Luxury Living,
Inspired by Nature

ความ Luxury นิยามใหม่
ด้วย Privilege ของความใกล้ธรรมชาติ…

ที่ใครก็มองหา
ให้ธรรมชาติเข้าใกล้ชีวิต… กว่าที่เคย

เปิดรับธรรมชาติตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่โครงการด้วยการดีไซน์ที่ดึงความงามของธรรมชาติมาร่วมสร้างสรรค์งานระดับมาสเตอร์พีซได้อย่างมีเสน่ห์และผ่อนคลาย สอดแทรกสายน้ำนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ เปลี่ยนความเร่งรีบของภายนอกเข้าสู่ความสงบของภายใน ที่จะช่วยเพิ่มความรีแลกซ์ยิ่งขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องออกไปตามหาการพักผ่อนข้างนอกให้วุ่นวาย เพราะ ที่นี่ธรรมชาติจะอยู่กับคุณทุกเวลา งานดีไซน์ที่คำนึงที่ถึงการเชื่อมต่อบรรยากาศของธรรมชาติภายนอกสู่ภายในอย่างไร้รอยต่อ

The Crest Park Residences พร้อมมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่ดีที่สุดด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง มาตรฐานวัสดุเกรดพรีเมี่ยมเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ท่ามกลางความงามจากธรรมชาติที่ยากจะหาใครเหมือน บนทำเลศักยภาพแห่งอนาคตของกรุงเทพฯ ผืนเดียวที่ใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเซ็นทรัล เพียบพร้อมด้วยการดีไซน์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน การบริการที่เหนือชั้น พร้อมคุณภาพชีวิตที่ดี สะดวกสบายเดินทางง่ายใกล้ในทุกที่

ไม่ต้องออกตามหาอีกต่อไป
ในเมื่อทุกคำตอบของการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด….
อยู่ที่นี่

The Crest Park Residence

สร้างความต่างอย่างเหนือระดับ ผ่านความ Luxury นิยามใหม่

การจะพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์ The Crest นั้น ทาง SC จะพิจารณาองค์ประกอบในหลายด้านที่นอกเหนือจากความโดดเด่นของทำเลแล้วยังต้องเป็นที่สุดของการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งจุดต่างของทำเล ห้าแยกลาดพร้าว คือประสบการณ์แห่งการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตเหนือขีดจำกัด ดื่มด่ำกับวิวสีเขียวขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ที่มีเพียง 3 โลเคชั่นเท่านั้นที่จะได้ครอบครองที่อยู่อาศัยในลักษณะแบบนี้ นั่นคือ วิวสวนลุมพินี , วิวสวนเบญจกิติ และวิวสวนจตุจักร ซึ่งทำเลห้าแยกลาดพร้าวแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต

-Interchange Station: โครงการที่เป็นที่สุด อยู่บนทำเล New CBD ตรงจุดตัดของรถไฟฟ้าสำคัญ 2 สาย (BTS สายสีเขียว, MRT สายสีน้ำเงิน)

-Growing More Valuable Location: ทำเลศักยภาพแห่งใหม่ กับการเกิดขึ้นของ Mega Project ระดับ world class รายล้อมโครงการ

-Embrace by Nature: Privilege ของความใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นเจ้าของสวนใหญ่กว่า 700ไร่ ใจกลางเมือง ที่ใครก็อยากครอบครอง

-Iconic Luxury Condominium: ที่สุดของความ Rare หนึ่งเดียวบนห้าแยกลาดพร้าว

-Seamless Nature: ให้ทุกวัน เหมือนวันพักผ่อนที่ได้อยู่ ท่ามกลางธรรมชาติดด้วยการดีไซน์ที่นำ Nature Element เข้ามาเป็นองค์ประกอบ ทั้ง exterior และ interior

-The Most Private Living: ไพรเวทกว่า ด้วยฟังก์ชั่น Single Corridor เปิดประตูไม่ชนใคร

-Facilities: ส่วนกลางหลากหลายและตอบโจทย์ Luxury Lifestyle

-Very Important Person: เหนือกว่าด้วย Concierge service คอยอำนวยความสะดวกเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว

-Exclusive mailbox: อำนวยความสะดวกกว่าที่เคย ด้วย mailbox บนชั้นพักอาศัย

โครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเน้นความเป็นธรรมชาติเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางใจกลางเมือง ที่สอดผสานตั้งแต่ต้นไม้และพื้นทีสีเขียว Feature เสียงและสัมผัสของวัสดุที่เลือกใช้ รวมไปถึงโทนสีที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น โดยพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย

Ground Floor : พื้นที่ต้อนรับที่เรียกว่า Grand Cave Lobby ที่ออกแบบเป็นแบบ Double space ให้ความรู้สึกโอ่โถง หรูหรา นำ Element ของความโค้ง เว้า ของ Cave โดยเลือกใช้ไม้เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยพื้นที่อีกส่วนนั้นจะเป็น Private Lobby and Waterior ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับผู้ที่จะเข้ามาในส่วนนี้ได้นั้นจะต้องเป็นลูกบ้านหรือมีคีย์การ์ดจึงจะสามารถเข้ามาได้ ซึ่งถูกออกแบบเชื่อมต่อทัศนียภาพจากภายนอกของ Landscape นำเอา Element ของน้ำ ที่มีการไหลและหมุนเวียนสร้างความเป็น Waterior ที่อยู่ใน Private Lobby ได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ ท่ามกลางเสียงสายน้ำ ที่ไหลตกลงจากโขดหิน

Grand Cave Lobby ที่ทางโครงการนำ Element ของความโค้ง เว้า มาร่วมออกแบบงานดีไซน์

Private Lobby and Waterior พื้นที่ล็อบบี้ที่เป็นโซนไพรเวทสำหรับลูกบ้านที่ทางโครงการดีไซน์ให้ใช้งานร่วมกับพื้นที่รอรับรถยนต์ เนื่องจากที่จอดรถของทางโครงการเป็นระบบ Auto Parking เกือบทั้งหมด

2nd Floor : พื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 จะแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก คือ Business Lounge and Meeting room ที่ทางโครงการออกแบบมาสำหรับนั่งทำงาน หรือประชุม ความโดดเด่นของพื้นที่คือตัวฝ้าเพดานที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับน้ำเพื่อสร้างมุมมองใหม่ของการใช้ชีวิต และห้อง Private dressing room ที่เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่ เสมือนยกห้องเสื้อแบรนด์ดังมาไว้ในโครงการพร้อมพื้นที่แต่งหน้า แต่งตัว ภายใน เอาไว้รองรับสำหรับการแต่งตัวก่อนออกไปงานเสริมบุคคลิกภาพให้ดูสวย หล่อ มั่นใจในทุกองศา

สามารถเดินขึ้นไปพื้นที่ชั้น 2 ด้วยบันไดวนสุดหรู ผ่านงานดีไซน์ที่ดูทันสมัย ที่ให้ความสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติจากผิวสัมผัสและวัสดุที่เลือกใช้

Business Lounge and Meeting room พื้นที่สำหรับนั่งทำงานและประชุมงาน

Private dressing room

21st Floor : Mechelin Lounge ออกแบบให้เปิดรับทัศนียภาพภายนอกแบบพาโนรามา เปิดรับวิวสวนสีเขียวขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มตา ตัวเคาน์เตอร์เป็นหินจริงจากธรรมชาติที่ทำให้ดูโดดเด่น ไม่มีใครเหมือน ซึ่งสามารถเรียกเชฟมาทำอาหารให้ทานในรูปแบบของ Fine Dining ของกลุ่มเพื่อนได้ด้วย พื้นที่ที่เชื่อมต่อระหว่าง indoor และ outdoor สามารถเปิดออกไปรับลมธรรมชาติบริเวณด้านนอก ที่ทางโครงการเตรียมพื้นทีไว้สำหรับ Pocket park with BBQ area รองรับการปาร์ตี้หรือสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ต้องออกไปหาสถานที่ไหนเพราะโครงการได้เตรียมให้แบบตอบโจทย์

36th Floor : สระว่ายน้ำเปิดรับวิวสวนธรรมชาติ และ Cityscape ของทำเลห้าแยกลาดพร้าว โดยโครงการออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่ด้านบนที่ถูกออกแบบให้เป็นช่องแสงธรรมชาติที่เวลากลางวันแสงของธรรมชาติจะส่องผ่านลงมา และยามค่ำ จะเปิดรับวิวท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่ทางโครงการออกแบบให้สอดผสานกันกับแสงไฟระยิบระยับด้านบนของสระว่ายน้ำ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าที่เคย ในโซนสระว่ายจะมี Viewing Jacuzzi สำหรับนั่งแช่น้ำพร้อมชมวิว สวนขนาดใหญ่ได้เป็นพื้นที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้ Work Out และ Relax สำหรับพักผ่อนไปพร้อมๆกัน

และยังมีพื้นที่การออกกำลังกาย Fitness ที่ทางโครงการเตรียมเครื่องเล่นสำหรับลูกบ้านไว้อย่างหลากหลายและเชื่อได้ว่าน่าจะเป็น Fitness เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีวิวสวยที่สุดเพราะสามารถมองเห็นวิวสวนจตุจักรกว่า 700 ไร่ รวมไปถึงวิว Cityscape ของฝั่งเมืองและทำเล ห้าแยกลาดพร้าว ได้อย่างสมบูณณ์แบบ รวมทั้งห้อง Spa room ที่มีทั้งห้องแบบแยกเดี่ยว หรือ ห้องแบบคู่ สำหรับคนที่ต้องการนวดหรือทำสปาด้วยกัน

Rooftop : ออกแบบให้เป็นพื้นที่ Green Space บนพื้นที่ดาดฟ้าสำหรับมานั่งพักหรือออกกำลังกาย jogging เบาๆ

ตัวอาคารมีลักษณะเป็นทรง V Shape ถูกออกแบบให้เป็น Single Corridor ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จึงมีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่ค่อนข้างน้อยแต่ด้วยทรง V Shape นั้น ทำให้เหมือนซอยจำนวนยูนิตต่อชั้นลงไปอีกครึ่งหนึ่งเพราะห้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของแขนตัว V ฉะนั้นแต่ละแขนของตัว V จะทำให้ไม่เกิดความพลุกพล่าน ยกตัวอย่างเช่น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 16 ห้องของ Floor ชั้นเดียวกัน ด้วยทรง V Shape ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนมีเพียง 8 ห้อง ที่อยู่ Floor เดียวกัน เพราะผู้พักอาศัยจะแยกฝั่งเดินไปยังห้องพักของตัวเอง ถือเป็นการสร้าง Value และความ Private ให้กับผู้พักอาศัยได้ดี

บริเวณทางเดินของแต่ละ Floor ที่ถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ตามโครงสร้างของตัวอาคาร

ตัวห้องติดตั้งระบบ Digital Door Lock ของ Philips ที่ช่วยเพิ่มความ Private ของการอยู่อาศัยและสร้างความปลอดภัยให้อุ่นใจยิ่งขึ้น พร้อมรองรับระบบ Home Automation ที่ดีไซน์แบบเรียบหรู สามารถสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ Floor to Ceiling มีความสูง 3 เมตร ทำห้ดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัดสำหรับการอยู่อาศัย สมกับความเป็น Luxury ที่แท้จริง โครงการขายห้องชุดแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้บางรายการ อีกหนึ่งความพิเศษที่มีเพียงบางห้องเท่านั้นขายห้องชุดพร้อม Furniture Luxury จากแบรนด์ CHANINTR ซึ่งหากสนใจสามารถสอบถามได้กับทางเซลล์พร้อมนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ https://bit.ly/3Fg669l หรือ โทร 1749

Digital Door Lock แบรนด์ Philips

อุปกรณ์ควบคุมระบบ Home Automation

1 Bedroom 41 Sq.m.

ชุดครัวและตู้ Built-in ที่ทางโครงการให้มาพร้อมกับห้องชุดเลย ความพรีเมี่ยมคือ Spec ของวัสดุที่คุณภาพดี หน้าบานของตู้เก็บของเป็นแบบ Hi-Gloss ที่ทำให้ดูมีความสวยหรู ทันสมัยและมีความทนทานต่อการใช้งานทำความสะอาดง่าย  พร้อมด้วยเตาอบแบบ Combination ที่ตอบโจทย์สำหรับการทำอาหารได้ดี แต่หากห้องไซส์เล็กลงทางโครงการจะให้เป็นไมโครเวฟแทน

ชุดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในครัวทางโครงการให้แบรนด์ gorenje ที่ทำให้ดูพรีเมี่ยม สวยหรู เข้ากับชุดครัวได้ดี ท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ที่มีความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน ทำความสะอาดง่ายและมีผิวเรียบเนียนซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่มีราคาสูง ฺBacksplash เป็นกระจกเงาคุณสมบัติที่ทนทานต่อความร้อน ผิวเรียบมันของกระจกช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายไม่เกิดคราบฝังแน่นตามรอย

บริเวณด้านบนของชุดครัวออกแบบเป็นตู้เก็บของที่ติดตั้ง Soft Down แบรนด์ Hafele สำหรับดึงลงเพื่อหยิบเมื่อต้องการใช้งานช่วยให้สะดวกสะบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับคนตัวเล็กฟังก์ชันในลักษณะแบบนี้ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเลยทีเดียว ทำให้ไม่ต้องเขย่งและช่วยลดอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดลง

พื้นที่ฝั่งตรงข้ามกันทางโครงการออกแบบเป็นตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้า และติดตั้งตู้เย็นแบบ รวมทั้งที่วางเครื่องซักผ้า แบบ Build-in มาให้ความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน หน้าบานของตู้เป็น Hi-Gloss ที่ทำให้ดู Luxury และพื้นที่ของห้องดูเรียบร้อย สวย เนียบมากยิ่งขึ้น

สำหรับพื้นครัวเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน แข็งแรง โดยครัวเป็นแบบปิดทุก Type

กั้นพื้นที่ครัวกับ Living Area ด้วยกระจกบานสไลด์เต็มบานที่มีความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ซึ่งพื้นที่ Living Area นี้ตัวพื้นจะเปลี่ยนวัสดุเป็น Hybrid Engineered Wood ที่มีความหนาแน่นและแข็งแรง ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง กันปลวก และเป็นวัสดุที่มีราคาสูง อายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ห้องพักดูพรีเมียม

พื้นที่ในส่วนนี้สามารถเลือกวางโซฟาแบบเต็มพื้นที่ ดีไซน์การใช้งานร่วมกันระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารกับโต๊ะทำงานก็สามารถทำได้ หรือจะเลือกวางโซฟาที่มีขนาดเล็กลงมาเพื่อให้มีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับผู้พักอาศัยว่าจะชอบในแบบไหน

มีพื้นที่ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีค่อนข้างมากสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ประมาณ 70 นิ้ว ยังได้ ซึ่งสามารถดีไซน์เป็นแบบตั้งโต๊ะ หรือจะเลือกแบบแขวนก็ได้เช่นกัน บริเวณผนังด้านนอกโครงการติดตั้งกระจกแบบเต็มบานแบบ Insulated Glass ที่ช่วยถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในห้องพักและภายนอกได้ดี ซึ่งสามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอกที่สามารถออกไปชมวิวสวนจตุจักร และวิวเมืองย่านห้าแยกลาดพร้าว

สำหรับพื้นที่โซน Living Area ทางโครงการติดตั้งแอร์เป็นแบบ Concealed Type Air Conditioner แบบฝังฝ้าเพดานที่ทำให้ดูสวยงาม เป็นระเบียบ และมีเสียงรบกวนน้อย

เชื่อมต่อมายังห้องนอนด้านในที่เป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่สามารถวางเตียงแบบคิงไซส์ และยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบอีกมากที่สามารถออกแบบชุดโต๊ะสำหรับแต่งหน้าของคุณผู้หญิงหรือมุมอ่านหนังสือพักผ่อนภายในห้องนอนสำหรับคุณผู้ชายก็สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

สำหรับห้องนอนทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงแบบเต็มเพดานมาให้หน้าบานเป็นกระจกโทนสีชาพร้อมระบบไฟแบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ

ห้องน้ำ ติดตั้งอุปกรณ์มาให้ค่อนข้างครบสำหรับการใช้งาน สุขภัณฑ์เป็นแบรนด์ TOTO โดยเป็นระบบ Automatic Wash let

กั้นพื้นที่เปียกและแห้งด้วยกระจกกั้นอาบน้ำ พร้อมทั้งติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower มาให้พร้อมใช้งาน และเจาะช่องวางของมาให้ช่วยให้พื้นที่ดูเรียบร้อยสำหรับการใช้งาน ระบบก๊อกน้ำเป็นแบบผสมที่ทางโครงการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อยแล้วด้วย

กระจกในห้องน้ำดีไซน์ให้เป็นตู้เก็บของด้านหลังที่ช่วยประหยัดพื้นที่ลง ทำให้ห้องน้ำดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

2 Bedrooms 73 Sq.m.

สำหรับพื้นที่ในส่วนแรกทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่ Kitchen Area และ Dining Area ด้วยขนาดไซส์ห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่ของ Kitchen Area ใหญ่ขึ้นด้วยสามารถรองรับพื้นที่รับประทานอาหารภายในโซนเดียวกันได้ สำหรับชุด Built-in ได้แบบเดียวกันกับห้อง Type ก่อนหน้านี้ คือชุดครัว และตู้เก็บอุปกรณ์ รองเท้าบริเวณด้านหน้าห้อง

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Living Area ที่ออกแบบให้เป็น partition ด้วยกระจกบานสไลด์กั้นระหว่างพื้นที่ครัวกับ Living สามารถเปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่เข้าหากัน หรือปิดเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวนจากการประกอบอาหาร

พื้นที่ Living Area สามาาถเลือกวางโซฟาที่ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานได้อย่างสบายๆเนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างจะเลือกวางแบบ 3 ที่นั่งเหมือนห้องตัวอย่างหรือเลือกวางโซฟาแบบทรง L Shape ก็ยังได้เช่นกันที่ไม่ว่าจะเลือกนั่งหรือนอนก็ตามสบายในแบบที่เป็นตัวคุณ

จุดเด่นที่เพิ่มความหรู และ Luxury คือโครงการให้ผนังกระจกทั้ง 3 ห้อง คือห้องนอนเล็ก ห้องนอน Master Bedroom และ Living ซึ่งจะเปิดรับวิว แสงธรรมชาติและลม ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดีและทำให้ห้องไม่อับชื้นจากการใช้งาน

ห้องนอนเล็กที่สามารถเลือกวางเตียงเดี่ยว หรือเตียงคู่ ตามการใช้งาน ซึ่งโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ลักษณะเดียวกันกับห้อง Type ที่แล้ว

สำหรับห้องน้ำจะเป็นแบบ Double Access ที่สามารถเข้าได้ 2 ทางคือจากห้อง Living Area และห้อง Bedroom

ห้อง Master Bedroom ที่ถือเป็นไฮไลท์ โดยห้องนี้ จะเปิดรับวิว 2 มุมมอง คือวิวสวนจตุจักรและวิว City ของถนนพหลโยธิน โดยพื้นที่ด้านหน้าถูกออกแบบให้เป็น Walk in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อยความสูงเต็มเพดาน ทำให้มีพื้นที่เป็นสัดส่วนต่อการใช้งาน

ห้องน้ำถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน ในรูปแบบของ His&Her Built-in ตู้เก็บของและอุปกรณ์พร้อมทั้งติดตั้งระบบมาให้ลักษณะเดียวกันกับห้อง Type ที่แล้ว

ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาที่ทางโครงการทำให้ดูเป็นไอเดียคือพื้นที่ของอ่างอาบน้ำแบบ Sexy Bath ผนังกระจกที่ให้ฟีลความรู้สึกการแช่น้ำไปพร้อมๆกับ take วิว สวน ที่ช่วยสร้างบรรยากาศสุดฟินแบบไม่มีใครเทียบได้

ห้องนอน Type นี้จะเปิดรับวิว 2 ฝั่งได้แบบเต็มตา สามารถเลือกวางเตียงขนาดใหญ่ และวางมุมโต๊ะทำงานที่จะช่วยสร้างสรรค์ไอเดียไปพร้อมๆกับการชมวิวก็ยังได้

นอกจาก 2 ห้องที่พาชมแล้วทางโครงการยังมีห้องตัวอย่างให้ดูอีก 2 Type คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 31 Sq.m. และ 1 Bedroom ขนาด 50 Sq.m.

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 Sq.m. จะมีลักษณะคล้ายๆคอนโดฯตากอากาศในเมืองท่องเที่ยว คือพื้นที่โซนแรกจะเป็นครัว ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น Living Area และห้องนอน โดยโซนห้องนอนจะเชื่อมต่อกับ Living Area ซึ่งกั้นด้วยกระจกบานสไลด์แบบเต็มบาน มีข้อดีคือสามารถเลือกเปิดเชื่อมต่อระหว่างกันเพื่อให้มีพื้นที่กว้างขึ้น หรือเลือกปิดเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว คนนึงอาจนอนดูทีวีจากบนเตียงก็ได้ หรือจะเลือกนั่งดูจากโซฟาก็ได้ ทำให้ไม่รบกวนกันของสมาชิกภายในห้อง

สำหรับห้อง Type ขนาด 50 Sq.m. เหมาะกับคนที่ต้องการห้องที่มีขนาดใหญ่และมีพื้นที่เยอะ โดยห้อง Type นี้จะคล้ายกับห้อง Type 41 Sq.m. แต่พื้นที่การใช้งานจะแตกต่างกัน โดยพื้นที่ในส่วนแรกที่เปิดเข้ามาจะเป็นโซน Living Area ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือนั่งเล่น ให้ฟีลความรู้สึกเหมือนบ้านที่เมื่อกลับมาถึงเราจะเจอกับพื้นที่ Living ก่อน สำหรับพื้นที่ครัวจะกั้นเป็นครัวปิดที่เข้าจาก Living Area ที่แยกออกไปทำให้ดูเป็นสัดส่วนชัดเจน และพื้นที่ห้องนอนจะอยู่ด้านในซึ่งเข้าจาก Living Area เช่นกัน ทำให้รู้สึกมีความไพรเวทมากยิ่งขึ้น

ต้องบอกว่าที่สุดของความ Luxury บนทำเลใจกลางห้าแยกลาดพร้าวคงต้องยกให้ The Crest Park Residences ยืนหนึ่งบนทำเล ทั้งในแง่ของตัวแบรนด์ The Crest ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ความเป็นสุดยอดทำเลที่ห่างจาก Sky Walk BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวเพียง 20 เมตร และเพียง 80 เมตร จาก MRT สถานีพหลโยธิน ซึ่งว่าเดินทางสะดวกมากสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และการอยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น ทำเลห้าแยกลาดพร้าวยังคงเติบโตขึ้นอยู่ตลอดในทุกวันและมีโปรเจ็กต์ในอนาคตที่จะเข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต รวมทั้งความ Privilege ที่เหนือกว่าไม่ใช่ว่าทำเลไหนจะมีได้ด้วยวิวสวนสาธาณะของสวนจตุจักรกว่า 700 ไร่ พื้นที่สีเขียวและปอดใจกลางเมืองความต้องการที่คนเมืองต้องการและกำลังได้รับความนิยม ทำให้ The Crest Park Residences ตอบโจทย์ในทุกมิติ รวมไปถึง spec ของวัสดุที่ทางโครงการให้มาพร้อมกับห้องชุดถือเป็นของที่มีราคาสูงและคุณภาพดีสามารถลงทะเบียนเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ https://bit.ly/3Fg669l หรือโทร 1749

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*