แม็คกรุ๊ปเปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง รุกเปิด Mc Outlet ครบ 100 สาขาตามเป้าสิ้นมี..นี้พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอีกครั้งหลังการเติบโตในประเทศแข็งแกร่ง เชื่อมั่นผลงานไตรมาส 3 ปีบัญชี66 นิวไฮในรอบ 5 ปีต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นรับเงินปันผล 9 มี..นี้ หุ้นละ 0.45 บาท
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์
นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือMC องค์กรธุรกิจค้าปลีกประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์แม็คยีนส์เปิดเผย ในงานOpportunity Day ว่าแผนการทำธุรกิจงวดครึ่งปีหลังปีบัญชี 2566 บริษัทจะเดินหน้าในการขยายสาขา Mc Outlet โดยจะครบ 100 สาขาตามเป้าหมายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ และจะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ Mc Outlet ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยทำให้การขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ชุมชนได้ดี ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น เห็นได้จากช่วง 6 เดือนของปี 2566 มีรายได้ 1,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น30.9% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,433 ล้านบาท โดยรายได้จากช่องทางค้าปลีกของตนเองเพิ่มขึ้นชัดเจน  โดยไตรมาส 2 มีรายได้ 738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% หรือ129 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน มีรายได้ 1,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% หรือ 364 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกลยุทธ์ในการขยายสาขา Mc Outlet อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้แม็คกรุ๊ปมีแผนที่จะขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศอีกครั้งซึ่งจะเริ่มต้นในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากได้ชะลอไปในช่วงวิกฤติโควิด-19 อีกทั้งธุรกิจในประเทศได้กลับมาเติบโตต่อเนื่องกลับมาดีกว่าในช่วงก่อนวิกฤติโควิด และบริษัทฯ ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมีเงินสดกว่า 2,110 ล้านบาท   

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปีบัญชี 2566 (1 มกราคม-31 มีนาคม 2566) เชื่อมั่นว่าจะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะสูงสุดในรอบ 5 ปี จากไตรมาส 2 ที่มีกำไรสุทธิ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ116 ล้านบาท ยังคงทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและกลับมาดีกว่าช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 จากปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ดีขึ้น รวมถึงยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน ที่ให้ประชาชนนำการใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษี ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) อยู่ในระดับที่สูงโดยในไตรมาส 2 อยู่ที่ 65.2% จากไตรมาส 1 อยู่ที่ 64.6% ส่วนอัตรากำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 22% จาก 15% เมื่อไตรมาสแรกของปี

คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นงวด 6 เดือนแรกของปี หุ้นละ 0.45 บาท โดยจ่ายในอัตราเกือบ 100% ของกำไรสุทธิ ซึ่งเงินปันผลจะเข้าบัญชีผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 มีนาคมนี้หลังจากกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับปันผลเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์และขึ้น XD เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566” นายเจมส์ กล่าวในที่สุด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*