ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจ กับบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิทผ่าน “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส.(SAM) by GHB” เตรียมกรอบวงเงินรวม 800 ล้านบาท จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกต่ำสุดเพียง 3.80% ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสองจาก SAM เข้าถึงสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยต่ำโดยมีภาระการผ่อนชำระเงินงวดลดลงเมื่อเทียบกับการผ่อนเงินดาวน์เฉลี่ยเดือนละ 2,000-3,000 บาท เพิ่มโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจ กับบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM ผ่าน “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” โดย ธอส. เตรียมกรอบวงเงินรวม 800 ล้านบาท จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกต่ำสุดเพียง 3.80% ต่อปี เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสองจาก SAM เข้าถึงสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยต่ำโดยมีภาระการผ่อนชำระเงินงวดลดลงเมื่อเทียบกับการผ่อนเงินดาวน์เฉลี่ยเดือนละ 2,000-3,000 บาท เพิ่มโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

“ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง(ทรัพย์ NPA) จากบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ได้มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่าน “โครงการสินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” กรอบวงเงินรวม 800 ล้านบาท”นายฉัตรชัย กล่าว

โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3  เท่ากับ MRR-2.60% ต่อปี (3.80%) ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% (5.40%) และกรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% (5.90%) กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ = MRRวัตถุประสงค์การให้กู้ เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย โดยผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้นปีแรกเพียงเดือนละ 4,700 บาทเท่านั้น สามารถลดภาระการผ่อนชำระเงินงวดลงเมื่อเทียบกับการผ่อนเงินดาวน์เฉลี่ยเดือนละ 2,000-3,000 บาท ยื่นคำขอกู้อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า รู้สึกยินดีและขอขอบคุณ ธอส. ในการลงนาม MOU ครั้งนี้ ซึ่งนำมาสู่การเปิดตัวแคมเปญ “สินเชื่อบ้าน บสส. (SAM) by GHB” แลโปรโมชั่น “กู้ได้ให้เลย” ซึ่งเป็นการให้บริการทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าของ SAM ควบคู่กัน โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้น มีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าหรือผู้สนใจที่กำลังมองหาหรือต้องการซื้อทรัพย์สินเพื่อการอยู่อาศัย อาทิ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ฯลฯ ในทำเลดีและราคาเหมาะสมทั่วประเทศจาก SAM ด้วยวิธีเสนอซื้อตรงหรือประมูล จะได้รับสิทธิ์และอัตราดอกเบี้ยพิเศษในการขอสินเชื่อผ่าน ธอส. พร้อมบัตรสมนาคุณเพิ่มเติมจาก SAM ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ส่วนลูกค้าเก่าของ SAM ที่อยู่ในโครงการ SAM Super Light ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าอยู่ระหว่างผ่อนชำระจำนวน 364 รายนั้น สามารถยื่นขอสินเชื่อตามเงื่อนไขของโครงการได้เช่นกัน และคาดว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ในฐานะที่ SAM เป็นหนึ่งในเครื่องมือการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของภาครัฐ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับว่าเป็นการช่วยนำส่งคืนสินทรัพย์ที่ทิ้งร้างกลับมาใช้ประโยชน์ ต่อยอด หรือสร้างมูลค่าเพิ่มอันเป็นการส่งเสริมความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

สำหรับโปรโมชั่น “SAM Super Light” ที่ SAM จัดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะลูกค้าประชาชนรายย่อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ภายใต้แนวคิด “ซื้อคุ้มกว่าเช่า” โดยคิดเป็นค่าผ่อนง่าย ๆ เพียงล้านละ 7,500 บาท/เดือน ซึ่งการผ่อนชำระค่าซื้อทรัพย์ในช่วง 4 ปี แบบไม่มีดอกเบี้ยนี้จะช่วยลดยอดเงินค่าซื้อทรัพย์ที่ต้องจ่ายในงวดสุดท้ายลงได้ถึง 40% คงเหลือเงินที่ต้องไปขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อนำมาชำระงวดสุดท้ายเพียง 60% เท่านั้น ส่งผลให้เงินค่าซื้อทรัพย์ส่วนที่เหลืออยู่จะอยู่ในเกณฑ์ LTV (เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย) ประกอบกับประวัติการผ่อนชำระอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องถึง 4 ปี ก็จะช่วยสร้างเครดิตให้กับลูกค้า ที่จะมีส่วนช่วยทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าได้ง่ายขึ้น

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*