สิวารมณ์ เรียลเอสเตท ส่งซิก มั่นใจปีนี้ รายได้ส่อแววสร้างสถิติ New High  ครึ่งปีหลัง 66 จ่อเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มที่ยังมีดีมาด์สูง เชื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR  เปิดเผยว่า ด้วยจุดแข็งการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว -ขายเร็ว – ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ส่งผลให้ SVR  ก้าวสู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living”รายแรกของประเทศ ของกลุ่ม Real Demand  และพร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เติบโตตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภายใต้แนวโน้มสร้างสถิติ new high ใหม่ จากปี2565 ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท ตอกย้ำถึงการเติบโตสู่ระดับ High Growth อย่างยั่งยืนในอนาคต

สำหรับการเติบโตดังกล่าวมาจากแผนการขับเคลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ ( บนทำเลบางกรวย-ไทรน้อย)ตั้งอยู่บนพื้นที่24-3-39 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ ระดับราคาขายที่ 2-3.5 ล้านบาท จำนวน 242 ยูนิต มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท โดยจะเปิดขาย (Pre Sale) ในช่วงไตรมาส3/2566 นี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง2566 เป็นต้นไป

2.โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (บนทำซอยประชาอุทิศ 76) ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 22-3-78 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ระดับราคาขายที่ประมาณ 5 ล้านบาท จำนวน 91 ยูนิต มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดขาย (Pre Sale) ในช่วงไตรมาส 3/2566 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/256

3.โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บนทำเลวงแหวนกาญจนาภิเษก) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 11-3-80.5 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ขนาด 100 ตารางวา ภายใต้ แบรนด์ใหม่ “สิวารมณ์ ไฮด์” ระดับราคาขายที่ประมาณ 12 ล้านบาท จำนวน 29 ยูนิต มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการขยายเซกเมนต์ ผู้อยู่อาศัยระดับบน  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ของบริษัทฯ โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดขาย(Pre Sale) ได้ในปลายไตรมาส 4/2566 และคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จากแผนการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ จะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ที่จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที เนื่องจากทุกโครงการของ SVR  เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งสอดรับกับนโนบาย หมุนเร็ว -ขายเร็ว สู่การรับรู้รายได้ที่รวดเร็ว ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีโครงการที่รับรู้รายได้ต่อเนื่อง อาทิ โครงการแกรนด์ สิวารมณ์ (สุขุมวิท-บางปู) โครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา) และโครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู) เข้ามาในปี2566 ซึ่งจากการรับรู้รายได้ดังกล่าวส่งผลให้อัตราการเติบโตของ SVR ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“ในปีนี้ SVR มีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า อีกทั้งยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน ภายใต้การพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยมบนบ้านระดับราคาที่สูงขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาท จากเดิมที่เราพัฒนาโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมองว่าลูกค้าระดับดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ขอสินเชื่อผ่านง่าย มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นเชื่อว่า 3 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส3 นี้ จะตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากลุ่มที่ยังมีดีมาด์สูง พร้อมทั้งเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายรณฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*