ตลาดวิลลาหรูเมืองภูเก็ตฟื้นรับกำลังซื้อต่างชาติหลังรัฐสั่งเปิดประเทศ ลูกค้าชาวรัสเซียครองแชมป์ช็อปเพื่ออยู่อาศัยหนีหนาวและภัยสงคราม ส่งผลให้ในช่วงปลายปี 2565 วิลลาในภูเก็ตทำยอดขายได้มากถึง 3,595 ยูนิตจากทั้งหมด 4,375 ยูนิต ปักหมุดทำเลฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตได้รับความนิยมสูงสุด

นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตได้รับความสนใจจากกลุ่มคนซื้อที่เป็นชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นหลังจากมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสินค้าประเภทพูลวิลลาระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 220 ยูนิต โดยชาวต่างชาติสนใจซื้อบ้านที่ภูเก็ตไว้เป็นบ้านหลังที่สอง ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งสนใจเช่าวิลลามากกว่าคอนโดมิเนียม เพราะต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว และยังสามารถปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนได้ 8-10%ต่อปี

ขณะที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักจะเป็นชาวยุโรป โดยเฉพาะชาวรัสเซียมีสัดส่วนมากถึง 40-60%จากลูกค้าทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีสัดส่วนประมาณ10-15%เท่านั้น ส่วนใหญ่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเพื่อรองรับการพักผ่อนในช่วงหน้าหนาวของรัสเซีย

“ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดวิลล่าเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาในเมืองไทยเพื่อต้องการหนีภาวะสงคราม และเพื่อท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของประเทศที่จะประกาศห้ามโอนเงินข้ามประเทศหรืออาญัติบัญชี ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทเดบิตได้ในอนาคต ทำให้ตัดสินใจมาซื้อบ้านแบบพูลวิลลาในเมืองภูเก็ตเพิ่มขึ้น”

ส่งผลให้ในช่วงปลายปี 2565 วิลลาในภูเก็ตทำยอดขายได้มากถึง 3,595 ยูนิตจากทั้งหมด 4,375 ยูนิต คิดเป็นอัตราขาย 82.1% เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มียูนิตใหม่ขายได้เพียง 341 ยูนิตเท่านั้น

โดยทำเลที่ได้รับความสนใจจะอยู่ในฝี่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต อาทิ หาดกะตะ หาดกะรน หาดป่าตอง หาดกมลา หาดบางเทา เชิงทะเล (ลากูนา) และหาดในทอน ทำให้ราคาอสังหาฯในพื้นที่ดังกล่าวขยับขึ้น 15-20% เช่นเดียวกันกับราคาที่ดินที่ขยับตัวสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลป่าสัก-โคกตะโนด ที่ราคาที่ดินขยับเพิ่มสูงถึง 20-30%

ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในเมืองภูเก็ตส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหาดบางเทามากถึง 45 %รองลงมาเป็นหาดลายัน 31%  โดยในช่วงปลายปี 2565 มีคอนโดฯขายได้ 18,613 ยูนิตจาก 24,211 ยูนิต คิดเป็นยอดขาย 76.9%  ลดลงจากปี 2564 ทำให้ปัจจุบันมียูนิตเหลือขายอยู่ในตลาดประมาณ 5,598 ยูนิต คาดว่าตลาดคอนโดฯจะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่นิยมซื้อคอนดโดฯในเมืองภูเก็ต จะเป็นกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าให้กับลูกค้าคนจีนเป็นหลัก ซึ่งเดิมแต่ละปีจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านคนในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่ในช่วง 3ปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเขข้ามาเมืองไทยน้อยมาก ทำให้ยอดขายคอนโดฯลดลงและมีสต็อกเหลือขายอยู่ในตลาดพอสมควร

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*