นายกรณ์ ณรงค์เดช
นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ RMLเปิดเผยถึง  “One City Centre”(OCC)อาคารสำนักงานเกรดเอระดับลักชัวรี่แห่งใหม่ว่าโครงการดังกล่าว เป็นการพัฒนาโดยRML และมิตซูบิชิ เอสเตท หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และมีชื่อเสียงยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากความมุ่งหวังของบริษัทฯที่จะสร้างสุดยอดสถาปัตยกรรมแห่งใหม่ขึ้นในกรุงเทพฯ โดยเป็นอาคารซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของเอเชีย ทั้งในฐานะที่ตั้งขององค์กรธุรกิจชั้นนำทั้งไทยและระดับโลก และยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้งคนไทยและนักเดินทางจากทั่วโลกอยากแวะเวียนมาเยือน การพัฒนาโครงการนี้ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดแห่งจินตนาการสู่การสร้างสรรค์โลกใบใหม่ภายใต้แนวคิด“REIMAGINE YOUR WORLD” โดยเป็นการผสานความร่วมมือกันระหว่างบริษัทออกแบบชั้นนำระดับโลกและบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของไทย ตั้งแต่การออกแบบสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน ตลอดจนภูมิทัศน์ เพื่อให้ที่นี่เป็นหนึ่งในอาคารสำนักงานที่เป็นสุดยอดในประเทศไทย ซึ่งผนวกพื้นที่สำนักงานระดับลักชัวรี่และศูนย์กลางไลฟ์สไตล์เหนือระดับเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

“พื้นที่ OCC เราออกแบบมาให้เติมเต็มความสุขแก่ผู้เช่าและผู้คนที่มาเยี่ยมเยียน ตั้งแต่ด้านหน้าอาคารที่เป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ทุกคนมาพักผ่อนกับพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ใจกลางกรุงที่ทอดยาวตลอดด้านหน้าอาคาร รวมทั้งเสพงานศิลป์จากผลงานศิลปะหลายชิ้นของคุณโด่งพงษธัช อ่วยกลาง ศิลปินเเถวหน้าของเมืองไทย ที่มีรูปปั้นผลงานชิ้นเอกตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า และด้านในอาคาร ตลอดจนภายในอาคารที่ออกแบบฟังก์ชั่นเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัยและเพียบพร้อมครบครัน นอกจากนี้ยังมอบความบันเทิงแบบครบวงจรให้กับนักช้อปและนักชิม กับร้านค้าในพื้นที่รีเทล คาเฟ่ บาร์และร้านอาหารชั้นนำที่คัดสรรมาอย่างสุดละเมียด เพื่อตอบรับการผ่อนคลายอย่างเต็มที่นายกรณ์ กล่าว

 

โครงการ OCC เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกบนแยกเพลินจิต ทำเลศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ซึ่งเป็นทำเลที่หาไม่ได้อีกแล้ว ในกรุงเทพฯ โดยมีที่ปรึกษาในการวางแนวคิดการออกแบบอาคารคือสกิดมอร์, โอวิงส์ และเมอร์ริล ไทยแลนด์ (Skidmore, Owings & Merrill (Thailand) หรือSOM (Thailand) บริษัทดีไซน์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งทำงานร่วมกับ ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล(Design 103 International) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชั้นนำของไทยที่มีประวัติยาวนานและมีผลงานอาคารระดับมาซเตอร์พีซมากมาย และแทนเดม อาร์คิเท็ค (2001) (Tandem Architects) บริษัทสถาปนิกแถวหน้าของไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาคารสูง โดยมี ฉมา(Shma) บริษัทภูมิสถาปัตย์ชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านภูมิทัศน์ ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมเป็นที่ปรึกษาด้านภูมิทัศน์ ดีดับเบิ้ลยูพี (ประเทศไทย) (DWP (Thailand)) บริษัทออกแบบและตกแต่งภายในชั้นนำ เป็นที่ปรึกษาด้านการตกแต่งภายใน และออเรคอน คอนซัลติ้ง(ประเทศไทย) (Aurecon Consulting (Thailand)) ผู้นำด้านบริการงานออกแบบ ให้คำปรึกษาและบริหารงานทางวิศวกร เป็นที่ปรึกษาด้านงานระบบไฟฟ้า และงานระบบเครื่องกล ด้วยจุดมุ่งหมายในการสร้างอาคารสำนักงานลักชัวรี่ที่มีดีไซน์สุดล้ำ ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมระดับโลกและศิลปะวัฒนธรรมไทยเข้าด้วยกัน เห็นได้จากแผงแนวเฉียงที่พาดอยู่บนส่วนหน้าของอาคาร (façade) ซึ่งเป็นดีไซน์ที่มีความสอดคล้องลงตัวกับสภาพอากาศเมืองไทย โดยทำหน้าที่ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์เข้าสู่อาคาร

นายนพดล ตันพิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (D103i) กล่าวถึงการต่อยอดแนวคิดการออกแบบ OCC ว่า ได้วางภาพของ OCC ให้เป็นระบบนิเวศแบบสมาร์ทลิฟวิ่ง ที่ผสานเทคโนโลยีอาคารอันล้ำสมัย เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการอาคาร ให้สามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด รวมทั้งส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายในด้านความยั่งยืนด้วย อาคารแห่งนี้จึงเป็นภาพจินตนาการใหม่ของสถานที่ทำงานแห่งอนาคตที่มีบทบาทในฐานะพื้นที่ซึ่งส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันที่สะดวกสบายและยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยสำหรับคนทำงานในทุกเจเนอเรชั่นที่มองหาความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่ละเมียดละไม

สำหรับแนวคิด “REIMAGINE YOUR WORLD” ของ OCC ประกอบด้วย:

Reimagined Daily Work Rhythm พื้นที่สำนักงานที่ OCC ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อหล่อเลี้ยงพลังชีวิตของคนทำงาน สร้างความสุขให้กับช่วงเวลาทำงานโดยมีนวัตกรรมที่ทันสมัย

Reimagined Daily Green Intake ด้วยเป้าหมายที่จะนำต้นไม้และธรรมชาติกลับมาสู่วิถีคนเมืองในกรุงเทพฯ OCC เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่เขียวชอุ่มที่สุดในย่านเพลินจิต ด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตร

Reimagined Office Space Possibilities ด้วยโครงสร้างอาคารที่ไม่มีเสาคั่นกลาง ผู้เช่าจึงสามารถออกแบบ Layout สำนักงานได้อย่างอิสระตามความต้องการ สร้างสรรค์พื้นที่สำนักงานที่ดีที่สุดได้อย่างใจ

Reimagined Retail and Food Selection – OCC มาพร้อมกับพื้นที่รีเทล คาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารที่คัดสรรมาอย่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมถึงบาร์และภัตตาคารหรูบนชั้นดาดฟ้าที่จะกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ และเป็นหนึ่งในรูฟท็อปเดสทิเนชั่นที่ดีที่สุดในเอเชีย

Reimagined Journey In and Out สุดท้ายนี้ การเดินทางเข้าและออกจากอาคาร OCC ง่ายและสะดวกสบายติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต โดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาทีจากบีทีเอสและสามารถเดินเชื่อมต่อเข้าไปในอาคารผ่าน Sky Bridge ได้เลย หรือถ้าขับรถมาก็อยู่ห่างจากทางด่วนเพลินจิต เพียง 200 เมตร

นอกจากนั้น 10 อินไซต์ต่อไปนี้จะช่วยขยายความแนวคิดของ OCC ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นในการเปิดมิติใหม่สู่โลกของอาคารออฟฟิศและสุดยอดศูนย์กลางไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต

1.แลนด์มาร์คใหม่เหนือเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ OCC คืออาคารสำนักงานที่สูงที่สุดในไทยในปัจจุบัน ด้วยความสูง 275.76 เมตร และจะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่อันโดดเด่น รวมทั้งไฮไลต์คือรูฟท็อปเดสทิเนชั่นบนชั้นดาดฟ้า ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่ง พร้อมทัศนียภาพที่สวยเหนือคำบรรยายของกรุงเทพฯ

2.สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลก ตัวอาคารแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักที่มีลักษณะตรงกันข้ามคือส่วนแกนกลางเป็นแท่งทึบรูปทรงที่เพรียวบางหันสู่ทิศตะวันตก และส่วนผนังกระจกใสตลอดความยาวตึกซึ่งเป็นพื้นที่ออฟฟิศหันสู่   ทิศตะวันออก รวมทั้งพื้นที่สีเขียวตามจุดต่าง ทั้งพื้นที่โถงใหญ่กลางอาคาร (Atrium) ระเบียง และสวนหย่อมกระจายอยู่ทั่วอาคาร

3.ความยั่งยืน + สุขภาวะของผู้ใช้อาคาร เริ่มต้นที่จากถนนหน้าอาคาร พื้นที่สีเขียวอันกว้างขวางซึ่งส่งผลให้พื้นที่ส่วนกลางของโครงการมีบรรยากาศที่เย็นสบาย เป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ใช้อาคารและตัวเมืองกรุงเทพฯ เมื่อเข้ามาสู่ภายในอาคาร การออกแบบเพดานสูงเปิดรับทั้งแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งทิวทัศน์กรุงเทพฯ แบบพาโนรามาอันน่าหลงใหล เป็นการลดทั้งการใช้พลังงานและช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สบายและผ่อนคลาย และงานระบบอาคารต่าง อันล้ำสมัย ทั้งเครื่องกล ไฟฟ้า และประปา (MEP) ช่วยให้อากาศภายในสะอาดบริสุทธิ์

4.การออกแบบและก่อสร้างที่อาศัยเทคโนโลยีดาต้า การพัฒนาโครงการ OCC มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัยที่สุด เช่น การสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) โดยใช้ข้อมูลอาคารเพื่อช่วยให้การออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อโครงการทั้งด้านการประหยัดต้นทุน ความยั่งยืน รวมทั้งก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

5.โซลูชั่นออฟฟิศสุดเหนือระดับ พื้นที่ทำงานภายใน OCC ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการในการทำงานที่แตกต่างกันและเปลี่ยนแปลงไป โดยมีระเบียงบนชั้น 14 และ 61 เป็นพื้นที่พักผ่อนอีกหนึ่งจุด รวมทั้งพบปะสังสรรค์ในโอกาสต่างๆ ระบบกรองอากาศในอาคารใช้แผ่นกรองประสิทธิภาพสูงMERV14 ช่วยให้อากาศภายสะอาดและสดชื่นตลอดเวลา

6.ประสบการณ์อัจฉริยะเพื่อผู้เช่า OCC ติดตั้งเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับแก่ผู้เช่า เช่น แอปพลิเคชันมือถือสำหรับผู้เช่าอาคาร ระบบจดจำใบหน้า และระบบจดจำป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ มอบความสะดวกสบายด้วยระบบไร้สัมผัส ตั้งแต่การเข้าออกที่จอดรถ ลิฟต์ และอาคารสำนักงาน รวมทั้งการจองใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางและร้านอาหารผ่านโมบายแอป

7.รางวัลและการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติ OCC ได้รับรางวัลการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งปี (Office Development of the Year) จากเวที Real Estate Asia Awards 2021 และยังเป็นอาคารสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง Fitwel ในระดับ 2 ดาวจาก Center for Active Design (CfAD ) ในหมวด Multi-Tenant Building ในฐานะอาคารที่มีคุณภาพการบริหารจัดการอันโดดเด่นและสร้างสุขภาวะที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ใช้อาคาร และอยู่ในระหว่างการยื่นขอการรับรองมาตรฐาน LEED Gold สำหรับการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานของอาคารที่มีความยั่งยืน

8.สุดยอดรูฟท็อปเดสทิเนชั่นใจกลางกรุง บนชั้น 58 และ 61 ของอาคารคือสเปซแห่งการดื่มด่ำกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยบาร์และภัตตาคารสุดหรู ดีไซน์และตกแต่งทุกรายละเอียดอย่างเหนือระดับพร้อมทิวทัศน์กรุงเทพฯ แบบพาโนรามา 360 องศา รวมทั้งภาพโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สะกดทุกสายตาอย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้น ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์แห่งการกินดื่มอันละเมียดทุกคน ทั้งชาวไทยและนานาชาติ

9.ผสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชน ที่ตั้งโครงการแต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สีเขียวที่ประวัติความเป็นมายาวนาน ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ให้คงเดิมมากที่สุด โดยออกแบบด้วยการเพิ่มพื้นที่เปิดโล่งหันหน้าสู่ถนนด้านหน้าได้เต็มที่ และยกพื้นที่กลางแจ้งทั้งหมดนี้ให้เป็นสวนสาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้

10.สุดยอดทำเลใจกลางเมือง บนพื้นที่ 6 ไร่ ตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ใช้เวลาเดินเพียง 2 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต และมีทางเชื่อมลอยฟ้าจากอาคารเข้าสู่สถานีโดยตรง รวมทั้งอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนเพลินจิตเพียง 200 เมตร

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*